Derivative daily comment
Today Strategy : Gold
- ตลาดทองคำกลับมาผันผวนบ้างเล็กน้อยจากแรงขายทำกำไรในสินทรัพย์ปลอดภัยเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงหนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรประกาศออกมาต่ำกว่าคาดการณ์แต่ถือว่ามากกว่าครั้งก่อนซึ่งเรามองว่าเป็นกลางต่อตลาดทองคำ ส่วนแรงเทขายน่าจะมาจากการทำกำไรและป้องกันความเสี่ยงตามปกติ ในขณะที่กองทุน SPDR คงสถานะถือครองไว้เท่าเดิม
Key Factors
- ราคาทองคำย่อตัวลงระหว่างวันจากหลายปัจจัยส่วนหนึ่งเรามองว่าเป็นเเรงขายทำกำไรตามปกติหลังจากปรับตัวขึ้นติดต่อกันค่อนข้างเเรงเเละยาวนานไม่ได้พักเลย ประกอบกับดัชนีค่าเงินดอลลาร์ดอลลาร์ฟื้นตัวระหว่างวันเเละกดดันให้ราคาทองกลับมาอ่อนตัวลงเล็กน้อยจากยูโรที่กลับมาอ่อนค่าโดยเปรียบเทียบเเต่ภาพรวมหลักๆ ของดอลลาร์ ยังคงถือว่าอ่อนค่าอยู่ อย่างไรก็ตามเรามองว่าก็ยังพอมีปัจจัยบวกยังพอพยุง Downside Risk เอาไว้ได้บ้างจากประเด็นการเมืองภายในของสหรัฐฯ เเละการเมืองระหว่างประเทศในคาบสมุทรเกาหลีรวมทั้งประเด็นระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียตั้งเเต่ต้นสัปดาห์ ส่วนปัจจัยกดดันในช่วงนี้คงหนีไม่พ้นตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง สำหรับวันนี้ตลาดน่าจะกลับมาผันผวนในกรอบจากคาดการณ์การประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และการปรับลดอัตราการจ้างงานสหรัฐฯ คืนนี้
Strategy : เปิดสถานะในกรอบราคา, ติดตามการประกาศตัวเลขฝั่งสหรัฐฯ หลายดัชนีคืนนี้
Key Point
Positive ( + )
- ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง
Negative ( - )
- เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
- การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ
- การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ
Neutral ( * )
- การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
- ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ
- แรงขายของสินทรัพย์เสี่ยง
Exclusive News
- ทองขยับลงเล็กน้อย,ตลาดรอตัวเลขจ้างงาน : ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ร่วงลง 2 .35 ดอลลาร์ สู่ 1,266.20 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ หลังจากปรับขึ้นเข้า ใกล้จุดสูงสุดรอบ 7 สัปดาห์ในช่วงแรกในขณะที่ดัชนีดอลลาร์ เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินร่วงลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 15 เดือน และตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด ในเดือนก.ค. โดยปัจจัยเหล่านี้ทำให้นักลงทุนไม่แน่ใจว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
- ดอลล์ร่วงต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปีครึ่งเทียบยูโร : ดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับยูโรในรอบกว่า 2 ปีครึ่งในวันพุธจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในปีนี้ และการคาดการณ์เกี่ยวกับการคุมเข้มนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ทั้งนี้ ยูโรแตะระดับ 1.1909 ดอลลาร์ซึ่งงเป็นระดับสูงสุด เมื่อเทียบกับดอลลาร์นับตั้งแต่เดือนม.ค. 2015 ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งวัดค่าดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้า 6 สกุลเงินสำคัญลดลง 0.2% สู่ระดับ 92.833 หลังแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือนที่ 92.548 และดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบ กับเยน และอยู่ที่ 110.59 เยน
Smart Stock
Today Strategy : แกว่งในกรอบแคบ
- ดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้เปิดตลาดในภาคเช้าเกิดช่องว่างของราคาในเเดนบวกสะท้อนความคาดหวังของนักลงทุนในตลาดเช่นเดียวกับดัชนีอื่นๆ ในภูมิภาคซึ่งปิดในเเดนบวกเป็นส่วนใหญ่ทั้ง Nikkei, HangSeng KOSPI โดยเรามองว่าได้รับเเรงหนุนจากบรรยากาศการลงทุนฝั่งสหรัฐฯ ซึ่งดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้ปรับตัวทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่องในวันก่อนหน้ารวมทั้งเมื่อคืนนี้ด้วย อย่างไรก็ตามเเรงซื้อขายหลักๆ ของตลาดถือว่าสลับกลุ่มกันไปไม่มีกลุ่มอุตสาหกรรมใดที่โดดเด่นเป็นพิเศษทั้งพลังงาน, สื่อสารเเละธนาคาร ภาพรวมสามารถเคลื่อนไหวในเเดนบวกได้เเม้ราคาน้ำมันดิบกลับมาอ่อนค่าต่ำกว่าระดับ 50 USD/toz(WTI-NYMEX) กดดันกลุ่มพลังงานในประเทศทางอ้อม โดยดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ระดับ 1,580.54 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวัน 41,737.93 ล้านบาท ในขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50U17 ปิดตลาดที่ระดับ 998.50 จุด สำหรับวันนี้ เเนะนำให้นักลงทุนระมัดระวังความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นจากเเรงปรับสถานะของนักลงทุนเพื่อรับความเสี่ยงจากการประกาศดัชนีทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงปลายสัปดาห์(วันนี้เเละวันพรุ่งนี้) ซึ่งจะมีการประกาศดัชนีทางเศรษฐกิจที่สำคัญๆ เช่นจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ในคืนนี้ รวมทั้งดุลการค้า,อัตราการว่างงาน เดือน ก.ค เเละตัวเลขการเปลี่ยนเเปลงการจ้างงานนอกภาคการเกษตร เดือน ก.ค. ในวันศุกร์
Strategy : คงมุมมองบวก, ให้น้ำหนัก Long หากราคาเหนือระดับ 996.5 จุด
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
- ติดตามดัชนีทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งคืนนี้และคืนพรุ่งนี้หลายดัชนี
- ค่าเงินบาทที่เริ่มกลับมาทรงตัว
ข่าวในประเทศ
- ตั้งกองทุนธรรมาภิบาล หุ้นพื้นฐานดี123บริษัท : สมาคมบริษัทจัดการลงทุน เปิดเผยว่า สมาคมฯได้ร่วมมือ บลจ. 11 แห่ง จัดตั้งและเปิดจำหน่ายกองทุนรวมธรรมาภิบาลไทย ซึ่งเป็นกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีนโยบายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างชัดเจน ที่สำคัญยังเป็นกองทุนที่รับผิดชอบต่อผู้ลงทุนและสังคม คาดว่าแต่ละ บลจ. จะจัดตั้งได้ภายในไตรมาส 3 จึงขอเชิญชวนให้บรรดานักลงทุนที่หวังผลตอบแทนที่ยั่งยืนในระยะยาวจากบริษัทที่มีธรรมาภิบาลที่ดีและยังเป็นการสร้างมิติการลวทุนแนวใหม่ที่ให้นักลงทุนร่วมส่งเสริมบริษัทที่ร่วมรับผิดชอบต่อสังคม
- กำลังซื้อหดฉุดสินเชื่อบ้านต่ำ จับตาQ3เอ็นพีแอลส่อขยับ : ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เปิดเผยว่า ภาพรวมการขยายตัวของสินเชื่อที่อยู่อาศัยใหม่ช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาชะลอตัวไป ทำให้จากปกติสินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่เฉลี่ยปีละ 5 แสนล้านบาท ปีนี้ทั้งปีสินเชื่อปล่อยใหม่อาจจะต่ำกว่า 5 แสนล้านบาทเล็กน้อย ผลจากจากกำลังซื้อของประชาชนที่ยังชะลอตัว และแนวโน้มรายได้ที่ยังไม่เพิ่มขึ้น และหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่สถาบันการเงินยังมีการปล่อยสินเชื่อตามปกติ
- (CKU17) CK คว้างาน 275 ล้าน เติมแบ็กล็อกกินยาว : CK คว้างานก่อสร้างทางเชื่อมทางด่วนสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอก กับทางด่วนศรีรัชทิศเหนือ มุ่งแจ้งวัฒนา มูลค่า 275 ล้านบาท เติมแบ็กล็อก จากปัจจุบันอยู่ที่ 9.77 หมื่นล้านบาท ขณะที่มีโอกาสรับงานเพิ่มในช่วงครึ่งปีหลัง 2560-ครึ่งปีแรก 2561
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/
http://classicgoldfutures.blogspot.com
Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น