Derivative daily comment
Today Strategy : Gold
- ตลาดทองคำกลับมาย่อตัวในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาหลังปรับตัวขึ้นในกรอบแนวโน้มขาขึ้นค่อนข้างโดดเด่น สำหรับวันนี้เราปรับลดมุมมอง Long Position แต่ก็ยังไม่ให้น้ำหนักฝั่ง Short Position และคาดการณ์ว่าทองคำมีโอกาสกลับมาผันผวนและย่อตัวในกรอบระหว่าง 1263-1270 USD/toz รวมทั้งติดตามตัวเลขการเปลี่ยนเเปลงการจ้างงานนอกภาคการเกษตรจาก ADP เดือน ก.ค. ในค่ำคืนนี้อย่างใกล้ชิด
Key Factors
- โดยภาพรวมทองคำยังคงได้รับปัจจัยบวกจากหลายปัจจัยทั้งการเมืองเเละเศรษฐกิจภายในประเทศของสหรัฐฯ เเละการเมืองระหว่างประเทศในคาบสมุทรเกาหลีซึ่งเพิ่มความน่าสนใจให้ตลาดทองคำรวมทั้งราคาน้ำมันดิบ WTI(NYMEX) ปรับขึ้นเหนือระดับ 50 USD/bbl ทำจุดสูงที่สุดในรอบสองเดือนส่งผลให้ค่าครองชีพเเละต้นทุนภาคเอกชนปรับตัวสูงขึ้น เเต่อย่างไรก็ตามสำหรับในช่วงนี้เรามองว่าตลาดทองคำมีโอกาสกลับมาเเกว่งตัวในกรอบออกข้างหรือปรับย่อลดลงบ้างหลังทะยานขึ้นตลาดกว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเรียกได้ว่าปรับขึ้นเเบบไม่หยุดพักเลย โดยเมื่อคืนนี้ทองคำได้ปรับลงหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ประกาศออกมาเป็นกลางไม่ได้สนับสนุนการปรับขึ้นต่อ เเต่อย่างไรก็ตามการที่ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ยังคงเคลื่อนไหวอ่อนค่าในระดับต่ำกว่า 93 จุด ยังส่งผลให้ค่าเงินบาทปรับตัวเเข็งค่าขึ้นโดยเปรียบเทียบกดดันราคาทองคำภายในประเทศ สำหรับคืนนี้ติดตามตัวเลขการเปลี่ยนเเปลงการจ้างงานนอกภาคการเกษตรจาก ADP เดือน ก.ค. ซึ่งตลาดคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 187,000 อัตรา ในขณะที่ครั้งที่เเล้วประกาศที่ระดับ 158,000 อัตรา ซึ่งมีแนวโน้มกดดันให้ตลาดทองคำกลับมาผันผวนระหว่างวันได้
Strategy : เปิดสถานะในกรอบและติดตามการประกาศตัวเลขฝั่งสหรัฐฯ ค่ำคืนนี้
Key Point
Positive ( + )
- ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง
Negative ( - )
- เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
- การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ
- การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ
Neutral ( * )
- การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
- ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ
- แรงขายของสินทรัพย์เสี่ยง
Exclusive News
- ทองปรับขึ้นแตะจุดสูงสุด 7 สัปดาห์ : ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ขยับลง 50 เซนต์สู่ 1,268.55 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันอังคารหลังจากขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบ 7 สัปดาห์ที่ 1,273.97 USD/toz ในระหว่างวันโดยราคาทองได้รับแรงหนุนจากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐที่อยู่ในระดับปานกลาง และจากปริมาณการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริ โภคที่เกือบทรงตัวโดยตัวเลขเหล่านี้ทำให้นักลงทุนไม่แน่ใจว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
- ดอลลาร์ฟื้นตัวหลังร่วงต่ำสุดในรอบ 15 เดือน : ดัชนีดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นในวันอังคารหลังร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือนเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญ อันเป็นผลจากความปั่นป่วนทางการเมืองในสหรัฐฯ และตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอทำให้แนวโน้มนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไม่มีความแน่นอน ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งวัดค่าดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้า 6 สกุลเงินสำคัญบวก 0.2% สู่ 93.060 หลังแตะระดับ 92.777 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค. 2016 ส่วน ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเยนที่ 110.32 เยน ขณะที่ยูโรลดลง 0.3% สู่ 1.1800 ดอลลาร์
Smart Stock
Today Strategy : แกว่งในกรอบแคบ
- ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ได้รับผลกระทบจากปัจจัยการเมืองภายในประเทศ(กรณีจำนำข้าว)กดดันให้เเกว่งตัวในกรอบราคาเเคบๆ ไม่มีทิศทางการเคลื่อนไหวที่ชัดเจนเเต่ยังคงมีมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่หนาเเน่นชัดเจนเหมือนวันก่อนหน้าโดยมีเเรงซื้อเข้าในหุ้นใหญ่กลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ดีดตัวสูงขึ้นเหนือระดับ 50 USD/bbl (WTI-NYMEX)จากการเข้าเเทรกเเซงกลไลตลาดผ่านการจำกัดอุปทานให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ในขณะที่ตลาดหุ้นฝั่งยุโรปปรับตัวบวกจากบรรยากาศการลงทุนที่ฟื้นตัวเช่นเดียวกับตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคปิดตลาดค่อนข้างสดใสโดยเฉพาะ Hang Seng เเละ KOSPI สวนทางกับ SET Index ซึ่งปิดตลาดที่ระดับ 1,576.45 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่ 39,095.36 ล้านบาท ในขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50U17 ปิดตลาดที่ระดับ 996.80 จุด เท่าๆเดิม สำหรับวันนี้เเนะนำนักลงทุนระมัดระวังเเรงขายจากนักลงทุนต่างชาติทำกำไรในช่วงการประกาศผลประกอบการไตรมาสสองปีนี้และแรงขายเพื่อปรับสถานะการลงทุนรับความเสี่ยงจากการประกาศตัวเลขการเปลี่ยนเเปลงการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ ในค่ำคืนนี้
Strategy : ให้น้ำหนัก Long หากราคาเหนือระดับ 995 จุด
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
- ติดตามตัวเลขการเปลี่ยนเเปลงการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐฯ ในค่ำคืนนี้
ข่าวในประเทศ
- หุ้นหลักทรัพย์กำไรวูบ มูลค่าซื้อขายต่อวันเหลือ 3.7หมื่นล.กดรายได้ : บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) 4 แห่ง จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศผลดำเนินงานงวดไตรมาส 2 และครึ่งปีแรกของปี 2560 โดยไตรมาส 2 มีกำไรสุทธิรวม 369.83 ล้านบาท ลดลง 20% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 462.93 ล้านบาท ขณะที่งวด 6 เดือน มีกำไรสุทธิ 1,039.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.8% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 964.67 ล้านบาท กำไรสุทธิที่ลดลงเป็นผลมาจากรายได้จากนายหน้าค้าหลักทรัพย์ลดลงตามภาวะตลาดที่มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลงจาก 4.19 หมื่นล้านบาท เหลือ 3.76 หมื่นล้านบาท
- บริษัท12แห่ง กรรมการอิสระ ต่ำกว่ากฏเกณฑ์ : ตลท. เปิดเผยว่าได้เปิดรายชื่อบริษัทจดทะเบียนที่มีกรรมการตรวจสอบไม่ครบตามข้อกำหนดของตลาดฯ ซึ่งการกำหนดให้บริษัทจดทะเบียนมีจำนวนกรรมการอิสระไม่น้อยกว่า 3 คน ในคณะกรรมการเพื่อให้มีระบบกำกับดูแลกิจการและเพื่อให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนทั่วไปได้มีข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติของบริษัทจดทะเบียน จึงมีนโนบายเปิดเผยรายชื่อของบริษัทจดทะเบียนที่มีกรรมการตรวจสอบน้อยกว่า 3 คน
- (LHU17)LH การันตีผลงานตามนัด จ่อบุ๊กกำไรพิเศษ 1.1 พันล. : LH การันตีผลงานปี 2560 ตามเป้า 3.41 หมื่นล้านบาท มียอดขาย 2.6 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันมี Backlog กว่า 1.19 หมื่นล้านบาท ขณะที่เล็งเปิด 9 โครงการ มูลค่าประมาณ 1 หมื่นล้านบาท กระตุ้นในครึ่งปีหลัง ส่งซิกผลงาน Q2/2560 โดดเด่น จ่อบุ๊กกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนประมาณ 1.1 พันล้านบาท และกำไรพิเศษจาก LHBANK
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/
http://classicgoldfutures.blogspot.com
Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น