วันจันทร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันที่ 25 กรกฎาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

Derivative daily comment
Today Strategy : Gold
- ตลาดทองคำยังคงเคลื่อนไหวทรงตัวในแนวโน้มขาขึ้นสวยงามแม้มีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง สำหรับประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเราไม่หนักใจเท่าใด แต่ที่ต้องพิจารณาเป็นพิเศษได้แก่ประเด็นการลดสถานะถือครองของกองทุน SPDR ซึ่งขายออกค่อนข้างต่อเนื่อง (ยังไม่หยุดขาย) สวนทางการปรับขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก สวนทองคำในประเทศยังคงถูกปัจจัยด้านค่าเงินบาทกดดัน Upside เช่นกัน

Key Factors
- เรามองว่าตลาดทองคำในวันนี้มีเเนวโน้มจะกลับไปเคลื่อนไหวผันผวนจากหลายประเด็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งคาดการณ์การประกาศดัชนีทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในช่วงปลายสัปดาห์ทั้งในส่วนของ จีดีพีสหรัฐฯ, อัตราดอกเบี้ยนโยบาย, การประชุมของคณะกรรมการ FOMC รวมไปถึงอัตราการว่างงานฯ ซึ่งในเเต่ละปัจจัยค่อนข้างกำหนดการเคลื่อนไหวของตลาดทองคำอย่างมีนัยสำคัญพอสมควร แต่อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวยังถือว่าทรงตัวสวยงามในแนวโน้มขาขึ้นอยู่ ในขณะที่ SPDR ยังคงขายทองออกสุทธิ (ขายแล้วขายอีก) รวมมีสถานะถือครองทองคำที่ระดับ 809.62 ตัน เเนะนำนักลงทุนปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้จากประเด็นดังกล่าวโดยอาจลดสถานะการลงทุนหรือถือเงินสดรอพิจารณาเปิดสถานะในจังหวะที่เหมาะสม

Strategy : คงมุมมองให้น้ำหนักฝั่ง Long แต่ต้องพิจารณากรอบด้านบนถูกจำกัดและแรงขายทำกำไรด้วย

Key Point
Positive ( + )
- ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative ( - )
- เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
- การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ
- การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )
- การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
- ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ
- แรงขายของสินทรัพย์เสี่ยง

Exclusive News
- ทองปรับขึ้นแตะจุดสูงสุด 1 เดือน : ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐฯขยับขึ้น 0.46 ดอลลาร์ สู่ 1,254.86 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ โดยราคาทองพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 1 เดือนที่ 1,258.79 USD/toz ในระหว่างวัน โดยได้รับแรงหนุนจากภาวะปั่นป่วนวุ่นวายทางการเมืองในสหรัฐ แต่ราคาทองลดช่วงบวกลงเกือบหมดในเวลาต่อมา เนื่องจา ก ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะจัดการประชุมกำหนดนโยบายในวัน ที่ 25-26 ก.ค.
- ข้อมูล ศก.แกร่งหนุนดอลล์ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 13 เดือน : ดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปีในวันจันทร์ โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าเกี่ยวกับ ความสัมพันธ์ ระหว่างรัสเซียกับที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

Smart Stock 
Today Strategy : ปิดบวก
- ภาพรวมตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ยังคงแกว่งในกรอบแคบเเละขาดไร้ปัจจัยบวกโดยไม่ค่อยมีประเด็นให้นักลงทุนเล่นเท่าไหร่ก่อนมีแรงซื้อเข้าในช่วงท้ายตลาดจากการเก็งกำไรของนักลงทุน ในขณะที่ตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคปิดตลาดในเเดนบวกเเละเเกว่งตัวในกรอบเเคบเช่นกันเป็นส่วนใหญ่ โดยเรามองว่าหุ้นใหญ่เคลื่อนไหวในเเดนลบกดดัน Upside ของตลาดหุ้นไทยประกอบกับราคาน้ำมันดิบซึ่งทรงตัวไม่เกื้อหนุนกลุ่มพลังงานภายในประเทศทำให้การเคลื่อนไหวโดยรวมเริ่มน่าเบื่อ เเต่อย่างไรก็ตามกระเสเงินทุนต่างชาติยังคงเป็นปัจจัยหลักที่เข้ามาจำกัด Downside ของหุ้นไทยไว้สะท้อนจากค่าเงินบาทที่ยังคงเเข็งค่าเเละดอลลาร์ที่อ่อนค่า เเสดงให้เห็นว่าเงินทุนจากฝั่งสหรัฐฯ เคลื่อนย้ายเข้ามาพักไว้ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่พอสมควรอย่างไรก็ตามเรามองว่า ช่วงกลางสัปดาห์เป็นต้นไปตลาดน่าจะกลับมาผันผวนจากการประกาศดัชนีทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งจีดีพีสหรัฐฯ, อัตราดอกเบี้ยนโยบาย, การประชุมของคณะกรรมการ FOMC รวมทั้งอัตราการว่างงาน

Strategy : เปิดสถานะในกรอบให้น้ำหนักฝั่ง Long Position

ปัจจัยที่ต้องติดตาม
- ค่าเงินบาทที่แข็งค่าสูงสุดในรอบ 2 ปี

ข่าวในประเทศ
- ศูนย์วิจัยกสิกรฟันธง ‘เฟด’คงดอกเบี้ย : ศูนย์วิจัยกสิกรฟันธง เฟดยังคงดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้ พร้อมประเมินช่วงเวลาการคงดอกเบี้ย อาจยาวนานขึ้น หลังแรงกดดันเงินเฟ้อลดลง จับตาถ้อยแถลงหลังการประชุมว่า ยังเหมือนกับที่แถลงต่อกรรมาธิการการเงินเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมาหรือไม่
- บจ.ลงทุนนอกรายได้ ‘พุ่ง’ ฝ่ายวิจัยตลาดประเมินอัตราเติบโตเท่าตัว เอกชนแนะภาครัฐ ตั้งหน่วยงานสนับสนุน : ตลาดหลักทรัพย์เปิดผลวิจัยชี้ การเติบโตรายได้จากต่างประเทศของบจ.ไทยโตกว่า 8% สูงกว่าการเติบโตกว่ารายได้ในประเทศเท่าตัว ชี้กลุ่มทรัพยากรแชมป์ลุยนอก ด้านเอกชนหวัง ภาครัฐเปิดทางสนับสนุนการลงทุนต่างประเทศมากขึ้น ชี้ไทยยังไม่กลยุทธ์ที่ชัดเจน
- (PTTU17)น้ำมันปรับลด : ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังบริษัท Petro-Logistics มีการคาดการณ์ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) อาทิเช่น ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และไนจีเรีย อาจปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในเดือน ก.ค. 60 ประมาณ 145,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบโดยรวมปรับตัวขึ้นมาแตะที่ระดับ 33 ล้านบาร์เรลต่อวัน

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/
http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น