Derivative daily comment
Today Strategy : Gold
- สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในระหว่างวันเรายังคงให้น้ำหนักฝั่ง Short Position เป็นหลักจาก Downside Risks ที่เข้ามากระทบตลาดอยู่เรื่อยๆ แม้ไม่มากแต่ก็มีลักษณะกดดันประกอบกับปัจจัยบวกต่างๆ ตลาดถือว่ารับรู้ไปหมดแล้วและหลายปัจจัยก็ยังไม่มีความชัดเจน แต่อย่างไรก็ตามตลาดทองคำอาจกลับมาเคลื่อนไหวผันผวนในการซื้อขายภาคค่ำจากการประกาศดัชนีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลายดัชนีโดยเฉพาะดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตขั้นสุดท้ายจาก ISM
Key Factors
- ราคาทองคำในตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงเคลื่อนไหวในเเนวโน้มขาลงเป็นเเนวโน้มหลักระยะกลางโดยเเม้มีมัจจัยบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ บ้างในบางดัชนีเเต่ก็ไม่สามารถเป็นปัจจัยหลักที่หนุนใหตลาดทองคำกลับมาเคลื่อนไหวในเเดนบวกได้อย่างโดดเด่น อย่างไรก็ตามเรามองว่าปัจจัยบวกจากการปรับลดลงทั้งในส่วนของดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เเละดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งเเกว่งตัวในกรอบเเคบเเละปรับลดลงท้ายตลาดทั้งสามตลาดหลัก ยังไม่เป็นปัจจัยบวกอื่นๆ เพียงพอที่จะสามารถทำให้นักลงทุนตัดสินใจเคลื่อนย้ายเงินทุนกลับมาในตลาดสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างตลาดทองคำได้ในช่วงสั้นๆ ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI(NYMENX) ที่กลับมาปรับขึ้นอย่างโดดเด่นในระหว่างสัปดาห์ที่ผ่านมาจากความคาดหวังผลสัมฤธ์ของการปรับลดอุปทานส่วนเกินในตลาดจากการจำกัดปริาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่ม OPEC เเละ Non-OPEC โดยสามารถปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 46 USD/bbl ได้ซึ่งก็สร้างความมั่นใจเเละกลับมาเป็นัจจัยบวกที่หนุนบรรยากาศการลงทุนระยะสั้นได้เป็นอย่างดีหลังจากที่ลงไปทำจุดต่ำที่สุดในรอบเกือบหนึ่งปีที่ระดับ 42.53 USD/bbl ด้านกองทุน SPDR ขายทองคำออกสุทธิ 1.18 ตัน รวมถือครอง 852.5 ตัน ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผานมา
Strategy : ฝั่ง Short Position ยังได้เปรียบในระหว่างวัน
Key Point
Positive ( + )
- ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง
Negative ( - )
- เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
- การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ
- การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ
Neutral ( * )
- การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
- ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ
- แรงขายของสินทรัพย์เสี่ยง
Exclusive News
- ราคาทองคำร่วงลงขณะบอนด์ยิลด์พุ่งขึ้น : ราคาทองคำสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ร่วงลง 4.04 ดอลลาร์ สู่ 1,241.20 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันศุกร์ และปิดตลาดเดือน มิ.ย.ด้วย การดิ่งลงราว 2 % จากเดือนพ.ค. ในขณะที่ธนาคารกลางหลายแห่งส่งสัญญาณว่ายุคสมัยของนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายใกล้จะถึงจุดสิ้นสุดและสัญญาณดังกล่าวหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรให้พุ่งขึ้น แต่ปัจจัยนี้ส่งผลลบต่อราคาทองซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีดอกเบี้ย
- ดอลลาร์ร่วงหนักสุดรายไตรมาสในรอบเกือบ 7 ปี : ดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยใน วันศุกร์ แต่ร่วงลงรายไตรมาสแรงที่สุดเมื่อเทียบกับตะกร้าเงินในรอบเกือบ 7 ปี หลังธนาคารกลางประเทศต่างๆ ส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงินในสัปดาห์ ผ่านมาซึ่งส่งผลกดดันดอลลาร์ให้อ่อนค่าลง
Smart Stock
Today Strategy : น้ำมันดิบหนุนเพียงปัจจัยเดียว
สำหรับในสัปดาห์ก่อนภาพรวมการเคลื่อนไหวของดัชนตลาดหุ้นไทยค่อนข้างไม่สดใส เช่นเดียวกับดัชนีตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาคซึ่งปิดบวกลบสลับกันโดยอิงไปในทางลบเป็นส่วนมากตลอดสัปดาห์ ขณะที่ในวันศุกร์ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยเฉพาะในส่วนของดัชนี SET Index เคลื่อนไหวในลักษณะเเกว่งตัวในกรอบเเคบๆ ไร้ทิศมทางในภาคเช้าก่อนมีเเรงขายในช่วงบ่ายกดดันให้ปิดตลาดที่ระดับ 1,574.74 จุด ปิดลบ -3.38 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่ระดับ 45,123.84 ล้านบาท โดยเป็นแรงขายสุทธิจากกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศ -572.47 ล้านบาท นักลงทุนภายในระเทศ -30.43 ล้านบาท บัญชีบล. -572.47 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนสถาบันภายในประเทศมีมุมมองซื้อสุทธิสวนที่ทางระดับ 759.40 ล้านบาท คาดการณ์ว่าเป็นเเรงหนุนจากประเด็นการทำ Window Dressing ปิดไตรมาสสองปีนี้ของนักลงทุนสถาบัน ส่วนสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50U17 ปิดตลาดที่ระดับ 992.3 จุด -0.2 จุด (-0.02%) อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยเริ่มขาดปัจจัยบวกภายในประเทศที่โดดเด่นพอที่จะหนุนให้ขึ้นไปทดสอบระดับนัยสำคัญต่างๆ ได้ในขณะเดียวกันความกังวลจากปัจจัยภายนอกก็ยังคงมีอยู่มากปกคลุมอยู่กดดันให้ Upside Gain ของดัชนีตลาดหุ้นไทยดูไม่ค่อยกว้างนักเเนะนำนักลงทุนเปิดสถานะในกรอบเเละเริ่มให้น้ำหนักฝั่ง Short Position ในระหว่างวัน
Strategy : เปิดสถานะในกรอบราคาให้น้ำหนักฝั่ง Short Position ในระหว่างวัน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
- ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 46 USD/bbl
ข่าวในประเทศ
- ธุรกิจตื่นตัวบริหารทรัพย์สิน เหตุรัฐออกกฎหมายเก็บภาษี ‘ที่ดิน-มรดก’ ‘มาร์เก็ตแคป’หุ้น ครึ่งปีหลังจ่อนิวไฮ : หุ้นไทยครึ่งปีแรก มาร์เก็ตแคป แตะ 15.6 ล้านล้านบาท โบรกเกอร์ประเมิน ครึ่งปีหลังลุ้นสถิติใหม่ เหตุปัจจัยในประเทศยังแกร่ง แม้เจอแรงขายต่างชาติ เชื่อดัชนียืนเหนือ 1,650 จุด
- อคส.จ่อเปิด ‘พีพีพี’ คลีงสินค้าฝั่งธน อคส.เผยเอกชนรายใหญ่สนใจ สร้างแลนด์มาร์คแห่งใหม่ : อคส.เตรียมเสนอ ครม.ภายใน ก.ย.นี้ เปิด “พีพีพี” พัฒนาคลังสินค้า 1 ธนบุรี หวังสร้างเป็นแลนด์มาร์คใหม่กรุงเทพ ประเมินเม็ดเงินลงทุนกว่า 1.1 พันล้านบาท ตั้งเป้าก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2562 พร้อมกางแผนพัฒนาคลังสินค้า 2 ราษฎร์บูรณะต่อเนื่อง ยกระดับเป็นคลังสินค้ามูลค่าสูง
- (CKPU17)CKPขายไฟ120เมกะวัตต์ : ดันผลงานครึ่งปีหลังสุดหรู CKP ผลงานครึ่งปีหลังพุ่งแรง รับรู้รายได้โรงไฟฟ้า BIC2 กำลังการผลิต 120 เมกะวัตต์ คาดสร้างรายได้ 2,200 ล้านบาทต่อปี หนุนผลงานทั้งปีโตก้าวกระโดดจากปีก่อนที่มีกำไร 55.05 ล้านบาท เล็งสรุปดีลลงทุนโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่ใกล้เคียงโครงการไชยะบุรีที่มีมูลค่าโครงการราว 1.3 แสนล้านบาท ในประเทศลาว ภายในปีนี้
[/color][/b]
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น