วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำและโลหะมีค่า วันที่ 25 กรกฎาคม 2556 โดยบริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,319 USDต่อออนซ์  ทรงตัวแคบ ๆ ในกรอบ และเพิ่งไหลลงในช่วง 16:00น.เป็นต้นมา ทำให้มีความเคลื่อนไหวระหว่างวันที่ 1,309-1,324 USDต่อออนซ์  ซึ่งหลังจากถูกเทขายในช่วงตลาดสหรัฐเมื่อคืนนี้  ทำให้ราคาเข้าสู่การพักตัว โดยยังมีความเสี่ยงที่จะลงต่อ  ทั้งนี้ จากการที่ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นผู้นำเข้าทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก ออกมาตรการเพิ่มเติมจากการปรับเพิ่มภาษีนำเข้าทองคำ ด้วยการบีบให้ผู้นำเข้าทองคำจำเป็นต้องส่งออกทองคำกลับไปอย่างน้อย 20% ของปริมาณทองคำที่นำเข้ามา เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของประเทศ ยังเป็นปัจจัยลบที่คอยกดดันราคาทองคำในตลาด physical  แต่สำหรับในคืนนี้ ปัจจัยลบน่าจะอยู่ที่ตัวเลขภาคแรงงานของสหรัฐ ส่วนปัจจัยบวกยังต้องลุ้นให้รัฐบาลกรีซอนุมัติมาตรการตามคำสั่งของทรอยก้า เพื่อรับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 2.5 พันล้าน ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ โดยมีความเสี่ยงอยู่ที่เยอรมันอาจใช้สิทธิ์ปฏิเสธหรือยื้อเวลาออกไป ซึ่งจะส่งผลลบกับทั้งค่าเงินยูโรและราคาทองคำได้

สรุปข่าวที่น่าสนใจ:
อัตราว่างงานของสเปนลดลง 0.9% แตะ 26.3% ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 27.2% ในไตรมาสแรก ขณะที่จำนวนผู้ว่างงานปรับตัวลง 225,200 ราย สู่ระดับ 5.87 ล้านรายในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 2 ปี

ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีเพิ่มขึ้นแตะ 106.2 ในเดือน ก.ค. จากระดับ 105.9 ในเดือน มิ.ย. ซึ่งบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจเยอรมนีมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นต่อภาวะทางธุรกิจในปัจจุบันปรับขึ้นสู่ระดับ 110.1 ในเดือน ก.ค. จาก 109.4 ในเดือนก่อนหน้า ส่วนการคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มทางธุรกิจขยับลงเล็กน้อยที่ 102.4 จาก 102.5 ในเดือน มิ.ย.

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอิตาลีในเดือน ก.ค.พุ่งขึ้นแตะ 97.3 จาก 95.8 ในเดือน มิ.ย. เนื่องจากภาคครัวเรือนมีมุมมองบวกมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศ แม้ว่าในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีลงสู่ระดับ BBB จากเดิมที่ BBB+ พร้อมให้แนวโน้มเชิงลบ และระบุว่าแนวโน้มเศรษฐกิจของอิตาลีอ่อนแอลงก็ตาม

ส่วนแบ่งการตลาดของกลุ่มบริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนยังคงร่วงลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อเปรียบเทียบกับส่วนแบ่งของบริษัทรถยนต์ต่างชาติ แม้ตลาดรถยนต์ของจีนซึ่งใหญ่ที่สุดในโลก จะมีการขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีแรกก็ตาม ทั้งนี้ ข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีน(CAAM) ระบุว่า ยอดขายและยอดการผลิตรถยนต์จากจีนทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ในช่วงเดือนม.ค.-มิ.ย. โดยมียอดการผลิตรถยนต์ 10.75 ล้านคัน และยอดขาย 10.78 ล้านคัน แต่กลับมีส่วนแบ่งในตลาดที่หดตัวลง เนื่องจากการแข่งขันกับแบรนด์ต่างชาติสูงขึ้น และกฏเกณฑ์เกี่ยวกับการครอบครองรถยนต์ที่เข้มงวดเพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัดในเมืองใหญ่ โดยบริษัทจีนมักให้ความสำคัญกับปริมาณการผลิตและการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ โดยมองข้ามเรื่องคุณภาพและการบริการ

ตลาดแรงงานจีนเริ่มส่งสัญญาณปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี แม้เศรษฐกิจของประเทศยังคงชะลอตัว โดยจีนได้สร้างงานเพิ่มขึ้น 7.25 ล้านตำแหน่ง ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 310,000 ตำแหน่ง เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่อัตราว่างงานในเมืองอยู่ที่ 4.1% ณ ช่วงสิ้นสุดไตรมาสที่ 2  และในปีนี้ รัฐบาลได้ตั้งเป้าสร้างงานใหม่อย่างน้อย 9 ล้านตำแหน่ง และกำหนดอัตราว่างงานรายปีให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 4.6%

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตาม 
- 19:30 จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน รายสัปดาห์  –  ตัวเลขในระดับต่ำกว่า 4 แสนราย แสดงถึงภาวะที่ดีขึ้นของการจ้างงานในสหรัฐ สอดคล้องกับอัตราการว่างงานล่าสุดที่ระดับ 7.6% โดยเป้าหมาย 6.5% ที่ Fed คาดหวังไว้ ยังคงต้องให้ตัวเลขรายสัปดาห์ทรงตัวต่ำกว่าระดับ 3 แสนราย เสียก่อน  หากในคืนนี้ประกาศตัวเลขออกมาต่ำกว่า 3.5 แสนราย เช่นเดียวกับสัปดาห์ก่อน จะส่งผลลบต่อราคาทองคำ และหากใกล้ระดับ 3 แสน จะส่งผลลบมากขึ้น

- 19:30 ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (ไม่รวมยานพาหนะ) เดือน มิ.ย.  –  เป็นดัขนีชี้นำสภาพเศรษฐกิจล่วงหน้าที่ดีตัวหนึ่ง โดยบ่งบอกได้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิต แต่เนื่องจากเป็นตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มกำลังการผลิต จึงมีความผันผวนสูงจากหลายปัจจัย  ดังนั้น จึงควรพิจารณาเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนด้วย  ทั้งนี้ ยอดในเดือนก่อนที่เพิ่มขึ้น +0.7% ถูกปรับลดลงเหลือ +0.5% ซึ่งเท่ากับที่คาดว่าจะประกาศในคืนนี้  โดยตัวเลขที่เป็นบวกเล็กน้อย จะมีผลต่อราคาทองคำไม่มาก

Technical Analysis:
ทองคำ  ราคาทองคำยังเป็นการรีบาวน์ในแนวโน้มขาลงระยะกลางเท่านั้น ทำให้เมื่อเผชิญกับแรงขาย จึงปรับตัวลงมาได้แรงและเร็ว  ซึ่งแนวรับแรกที่ระดับ 1,310 จะเป็นสัญญาณเตือนเบื้องต้นว่า จะกลับขึ้นไปเหนือ 1,350 หรือ จะร่วงหลุด 1,300  ประกอบกับสัญญาณ divergence ที่เพิ่งเกิดขึ้นใน macd และ rsi ในกราฟราย 1 ชม. ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าราคาจะพลิกกลับหรือจะดิ่งแรง ทำให้บริเวณ 1,310 เป็นจุดที่สำคัญมากต่อการกำหนดทิศทางในระยะสั้น  ให้แนวต้านบริเวณ 1,325/1,337  ให้แนวรับบริเวณ 1,310/1,300  แนะนำให้ สะสม long เมื่อราคายืนเหนือ 1,310 ได้ แต่หากยืนไม่อยู่ ก็ควร wait & see

โลหะเงิน  ราคาพักตัวแตะเส้น moving average 10 วัน  แต่ macd ยังดูเสี่ยงต่อการปรับตัวลดลง โดย rsi แตะเขต oversold แต่ยังไม่เห็นสัญญาณการชะลอหรือจะกลับตัว  ทำให้ในระยะสั้น สถานะ short มีความได้เปรียบมากกว่า  ให้แนวต้านบริเวณ 20.15/20.35  ให้แนวรับบริเวณ 19.6/19.25  แนะนำให้ trading short หากหลุด 19.85

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/
http://classicgoldfutures.blogspot.com
Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น