วันพุธที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันที่ 11 กรกฎาคม 2556 โดยบริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

Today Strategy: Gold ราคาปรับตัวขึ้นแรงหลังทะลุผ่านแนวต้านบริเวณ 1,260 – 1,265  และขึ้นทดสอบบริเวณ 1,290 ยังไม่ผ่าน คาดว่าจะอ่อนตัวลงก่อนจากแรงขายทำกำไร แนะนำ Trading Long เมื่อราคาอ่อนตัว มีแนวต้านบริเวณ 1,290/1,300/1,320 แนวรับบริเวณ 1,265/1,260/1,250   SET50 ปัจจัยลบรุมเร้าให้อ่อนตัวต่อเนื่อง แต่ต่างชาติมีแนวโน้มจะหยุดขายไม้หนัก ๆ

Gold  ราคาทองคำเมื่อวานนี้ปิดเพิ่มขึ้น 14.80 USDต่อออนซ์ ราคาปรับขึ้นในช่วงท้ายตลาด หลังจากรายงานการประชุมของเฟดเมื่อวันที่ 18 – 19 แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนต้องการเห็นตลาดการจ้างงานฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ในขณะที่ตัวเลขอัตราการว่างงานของสหรัฐยังอยู่ที่ระดับ 7.6% ซึ่งห่างจากอัตราการว่างงานเป้าหมานที่ 6.5% ค่อนข้างมาก ดังนั้น เฟดจึงยังต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป  นายเบน เบอร์นันเก้ได้กล่าวภายหลังการเปิดเผยรายงานการประชุมว่า นโยบายผ่อนคลายทางการเงินยังมีความจำเป็น ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลในเรื่องที่เฟดจะลดขนาดมาตรการลง วันนี้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเปิดตลาดในเอเชีย โดยเคลื่อนไหวอยู่ที่บริเวณ 1,283 USDต่อออนซ์ ส่วนค่าเงิน USD อ่อนค่าลงแรง ในขณะที่ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นแรง สนับสนุนราคาทองคำ วันนี้มีแนวต้านบริเวณ 1,290/1,300/1,320  และแนวรับ 1,265/1,260/1,250

ดัชนีดาวโจนส์ ปรับตัวลดลง 8.68 จุด ตลาดหุ้นจะได้แรงหนุนมากขึ้น จากคำกล่าวของเบน เบอร์นันเก้ระบุว่า เฟดยังจำเป็นต้องดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายต่อไป

USD/THB ปิดที่ 31.20 บาทต่อดอลล่าร์  เงิน USD อ่อนค่าลงมากเมื่อเทียบกับเงินเยน และเงินยูโร หลังการแสดงความเห็นเบน เบอร์นันเก้

Oil ราคาน้ำมัน Nymex ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงิน USD และการดิ่งลงแรงของสต๊อกน้ำมันในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา สต๊อกน้ำมันลดลงถึง 20 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการลดลงครั้งใหญ่

Gold ปิดที่ 1,263.64 USDต่อออนซ์  มีความเคลื่อนไหวในกรอบ 1,243 – 1,265 USDต่อออนซ์  ในช่วงเช้าวันนี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,283 USDต่อออนซ์ โดยวันนี้มีแนวต้านบริเวณ 1,290/1,300/1,320  และแนวรับ 1,265/1,260/1,250

USD/THB ปิดที่ 31.20 บาทต่อUSD เช้านี้อยู่ที่บริเวณ 31.07 บาทต่อUSD  วันนี้มีแนวต้านบริเวณ 31.2/31.5  ให้แนวรับบริเวณ  31/30.8

ICE Brent ปิดที่บริเวณ 108.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล วันนี้มีแนวต้านบริเวณ  108.7/109.4  ให้แนวรับบริเวณ  107.5/106.9

Spot Gold
ระยะสั้น :  อยู่ในกรอบ 1,150 – 1,350 แนะนำ Trading Long เมื่อราคาอ่อนตัว
ระยะกลาง :  อยู่ในกรอบ  1,100  –1,400 รอ rebound ปิดสถานะ Long
ระยะยาว :  อยู่ในกรอบ 1,000 – 1,500 รอ rebound ปิดสถานะ Long 

Positive View( + )
นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารต่างๆ ทั่วโลก
ความต้องการทองคำในตลาด Physical
ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยและป้องกันเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น
นักลงทุนคลายความกังวลในเรื่องเฟดจะชะลอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
เงิน USD อ่อนค่าลง
ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น

Negative View( - )
เฟดอาจยุติมาตรการ QE ในกลางปีหน้า
ความกังวลในเศรษฐกิจยุโรป
อินเดียออกมาตรการจำกัดการนำเข้าทอง
เงินบาทแข็งค่าขึ้น

ปัจจัยที่ต้องติดตาม
การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้

Spot Silver
โลหะเงินปรับตัวขึ้นแรง โดย rsi ยังไม่เข้าซื้อเขต overbought คาดว่าจะปรับตัวขึ้นได้อีก 
ให้แนวต้านบริเวณ 20 / 20.5
ให้แนวรับบริเวณ 19.5 / 19.2
Strategy:  trading long เมื่อราราอ่อนตัว

USD/THB
เงินบาทยังคงปรับตัวแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง macd line อยู่ต่ำกว่าเส้น signal line แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มขาลงในระยะสั้น แต่อย่างไรก็ตามแนวโน้มระยะกลางยังคงเป็นขาขึ้นอยู่
ให้แนวต้านบริเวณ  31.2 / 31.5
ให้แนวรับบริเวณ  31 / 30.8
Strategy:  trading ในกรอบ

SET 50
ตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ย่ำแย่กดดันต่อเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลัง ขณะที่หลายฝ่ายคาด กนง.อาจลดดอกบี้ยอีกในปีนี้ ส่งผลให้วานนี้ ดัชนี SET50 แกว่งตัวผันผวนในทิศทางอ่อนตัว  โดย rsi ที่ยังอยู่ต่ำกว่า 50  และ macd ที่ตัดเส้น signal ลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 0  ทำให้มีแนวโน้มที่อาจจะลงไปทดสอบ 900 ได้อีกครั้ง 
Strategy:  trading short

ปัจจัยที่ต้องติดตาม
- การเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายหลังปรับ ครม.
- รัฐบาลจีนยังคุมเข้มภาคการเงิน ส่งผลลบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ และกดดันการส่งออกของไทย
- อิยิปต์ยังไม่สงบ ดันราคาน้ำมันสูงเพิ่มต้นทุนเอกชน

ข่าวในประเทศ
- กนง.มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.5% ยอมรับเศรษฐกิจชะลอตัว แนะรัฐบาลเพิ่มประสิทธิภาพภาคการผลิต แทนการกระตุ้นอุปโภคบริโภค
- ธปท.โต้ขายหุ้น บรรษัทบริหารทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ และธนาคารกรุงไทย เพื่อใช้หนี้เงินต้น FIDF 1.6 หมื่นล้านบาท แจงเป็นเงินจากการปันผล ทั้งนี้ ดอกเบี้ยที่ลดลงในปีนี้ ทำให้คาดว่าจะใช้หนี้ FIDF 1.128 ล้านล้านบาท หมดภายใน 23 ปี เร็วกว่ากำหนดเดิมที่ 25 ปี 
- คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย(คปก.) แนะแบงก์ชาติทบทวนเกณฑ์การคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม ป้องกันการขูดรีด พร้อมกำหนดหลักเกณฑ์การทวงหนี้ หากสร้างความเสียหายให้ลูกหนี้ สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบการต้องร่วมรับผิดชอบ แทนบริษัททวงหนี้

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/
http://classicgoldfutures.blogspot.com
Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น