วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำและโลหะมีค่า วันที่ 16 กรกฎาคม 2556 โดยบริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,283 USDต่อออนซ์  เคลื่อนไหวระหว่าง 1,277-1,287 USDต่อออนซ์ โดยราคาทองคำแกว่งตัวใกล้ระดับแนวต้านสำคัญ 1,300 USDต่อออนซ์ เป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน  เนื่องจากนักลงทุนกำลังรอถ้อยแถลงของประธาน Fed ต่อสภาในคืนวันพรุ่งนี้และมะรืนนี้ โดยความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดทองคำที่เริ่มมีความต้องการซื้อที่ลดลงจากสภาพเศรษฐกิจของผู้นำเข้ารายใหญ่ทั้งอินเดียและจีนที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ส่งผลให้ตลาดจับตาประเด็นสำคัญที่การคงอยู่หรือลดขนาดมาตรการ QE ซึ่งจะมีผลต่อการดึงเม็ดเงินลงทุนจากทั่วโลกกลับเข้าสู่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอีกครั้ง และจะเป็นผลลบต่อราคาทองคำ

สรุปข่าวที่น่าสนใจ:
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) ระบุว่า ยังคงมีความเสี่ยงสำหรับเศรษฐกิจและระบบการธนาคารของสเปน ซึ่งหลังการเพิ่มทุนของภาคธนาคาร ระบบมีความแข็งแกร่งและมีสภาพคล่องมากขึ้น แต่เตือนให้ระวังความเสี่ยงจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ การขยายตัวทางเศรษฐกิจจะอยู่ในภาวะอ่อนแอ หากสเปนหรือสหภาพยุโรปไม่ดำเนินมาตรการต่อไปเพื่อหนุนเศรษฐกิจ

ยอดขายรถในยุโรปลดลง 6.3% แตะ 1.18 ล้านคัน ร่วงต่ำสุดในรอบ 17 ปี เนื่องจากอัตราว่างงานที่พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์จนส่งผลกระทบต่อดีมานด์ ส่วนยอดขายในช่วงครึ่งปีแรก ลดลง 6.7% แตะ 6.44 ล้านคัน

ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ฟรองซัวส์ ออลลองด์ กล่าวว่า เศรษฐกิจของฝรั่งเศสได้เริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้ว โดยการขยายตัวน่าจะกระเตื้องขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จากภาคอุตสาหกรรมที่มีการผลิตเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ขณะที่ความต้องการของผู้บริโภคปรับขึ้นเล็กน้อย และภาคเอกชนได้กลับมาจ้างงานอีกครั้ง

รัฐมนตรีกระทรวงการคลังญี่ปุ่นแสดงความกังวลต่อผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากระบบธุรกิจนอกภาคธนาคารของจีนได้ปล่อยกู้เงินออกไปเป็นจำนวนมาก โดยคาดว่าภาวะฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ใกล้จะแตกแล้ว และอาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยงเช่นเดียวกับวิกฤตซับไพร์มซึ่งเกิดขึ้นกับสหรัฐในปี 2550

ตลาดหุ้นโตเกียวและตลาดหุ้นโอซากาได้ผนวกรวมการซื้อขายหุ้นมาไว้ที่ตลาดหุ้นโตเกียวทั้งหมดในวันนี้ ส่งผลให้กลายเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของโลก เมื่อวัดจากจำนวนบริษัทจดทะเบียน

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตาม 
- 19:30 ดัชนีราคาผู้บริโภค (ไม่รวมอาหารและพลังงาน) เดือน มิ.ย.  –  การเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกเดือนในระดับ 0.1-0.2% ถือว่าดีสำหรับประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยเฉพาะสหรัฐในสถานการณ์ที่ต้องการให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง  ดังนั้น การประกาศออกมาในระดับดังกล่าวจึงไม่ส่งผลต่อราคาทองคำ แต่ถ้าหากต่ำกว่า 0% จะเป็นผลดี  ทั้งนี้ ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอาจทำให้ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปปรับตัวเพิ่มขึ้นมาจากเดือนก่อน ซึ่งจะส่งผลลบเล็กน้อยต่อราคาทองคำ

- 20:00 ยอดลงทุนระยะยาวสุทธิและยอดซื้อพันธบัตรของต่างชาติ เดือน พ.ค.  –  กระทรวงการคลังรายงานยอดสุทธิการลงทุนระยะยาวของชาวอเมริกันที่ไปลงทุนยังต่างประเทศกับยอดสุทธิการลงทุนระยะยาวของต่างชาติที่มาลงทุนในสหรัฐ ซึ่งตัวเลขที่ยิ่งสูงก็ยิ่งแสดงถึงระดับความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อเงินดอลลาร์สหรัฐในระยะยาว แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำอย่างมีนัยสำคัญ  ทั้งนี้ คาดว่าตัวเลขที่เคยติดลบต่อเนื่องใน 3 เดือนล่าสุด จะปรับเป็นบวก เนื่องจากความกังวลว่า Fed จะปรับลดมาตรการ QE

- 20:15 อัตราการใช้กำลังการผลิต เดือน มิ.ย.  –  มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เกิดวิกฤติซับไพรม์ โดยตัวเลขดังกล่าวจะแสดงภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศว่าแข็งแกร่งเพียงใด ทั้งนี้ การใช้กำลังการผลิตที่ชะลอตัวต่อเนื่อง 3 เดือนติดกัน แต่ยังอยู่ในระดับ 75-80% แสดงถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดี แต่ยังคงต้องระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง  ดังนั้น หากตัวเลขเกิน 80% จะส่งผลลบในระยะสั้นต่อราคาทองคำ เนื่องจากจะเพิ่มความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจสหรัฐ แต่จะส่งผลบวกในระยะยาวต่อราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ แต่หากออกมาต่ำกว่า 75% จะมีผลบวกต่อราคาทองคำทันที

- 20:15 ยอดผลผลิต ภาคอุตสาหกรรม เดือน มิ.ย.  –  เป็นดัชนีที่ค่อนข้างไวต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะต่อความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจ ทำให้ตัวเลขที่ประกาศออกมาค่อนข้างผันผวน ซึ่งบางครั้งก็เกิดจากปัจจัยเรื่องฤดูกาลหรือวงจรของธุรกิจและเศรษฐกิจด้วย ทั้งนี้ ตัวเลขในกรอบบวกลบไม่เกิน 0.5% จะส่งผลต่อราคาทองคำเล็กน้อย

- 21:00 ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย เดือน ก.ค.  –  ผลสำรวจความคิดเห็นของผู้ทำธุรกิจบ้านจัดสรรว่ามีมุมมองอย่างไรก็สถานการณ์ตลาดในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งจากข้อมูลในอดีต ถือว่าเป็นดัชนีที่เตือนล่วงหน้าได้ค่อนข้างดี โดยระดับ 50 เป็นค่ากลางระหว่างความมั่นใจกับความไม่เชื่อมั่นต่อสภาพตลาดของผู้ประกอบการ ซึ่งดัชนีมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องนับจากกลางปีที่แล้ว และตัวเลขของเดือนที่แล้วอยู่สูงกว่าระดับ 50 เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี จึงเป็นสัญญาณที่ดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐว่าจะมีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งโดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่ส่งผลลบต่อราคาทองคำ 

Technical Analysis:
ทองคำ  จากกราฟราย 1 ชม. ราคาแกว่งตัว sideway สร้างรูป symmetric triangle โดยใกล้จุด break out จึงมีแนวโน้มที่ตลาดในคืนนี้จะแกว่งตัวแคบ ๆ เพื่อรอถ้อยแถลงของประธาน Fed ในคืนพรุ่งนี้  สำหรับคืนนี้ให้แนวต้านบริเวณ 1,295/1,310 ให้แนวรับบริเวณ 1,280/1,267  แนะนำ trading ในกรอบ

โลหะเงิน  ราคายังคงแกว่งตัวในกรอบ โดย macd line อยุ่ต่ำกว่า signal line ราคาโลหะเงินมีโอกาสอ่อนตัวลงในระยะสั้น  ให้แนวต้านบริเวณ 20/20.2  ให้แนวรับบริเวณ 19.6/19.4  แนะนำให้ trading ในกรอบ

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/
http://classicgoldfutures.blogspot.com
Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น