วันพฤหัสบดีที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2560

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันที่ 29 กันยายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)


Derivative daily comment
Today Strategy : Gold สำหรับวันนี้เรายังคงให้น้ำหนักฝั่ง Short มากกว่าฝั่ง Long เหมือนเดิมแม้มีแรงซื้อหกลับเข้ามาประคองตลาดแต่เรามองว่าเป็นแรงซื้อกลับบางๆ เท่านั้น ปัจจัยบวกหนุนหลักยังถือว่าเปราะบาง

Key Factors
-ตลาดทองคำยังถือว่าเคลื่อนไหวอยู่ในเเนวโน้มขาลงเเม้มีเเรงซื้อสลับกลับเข้ามาพยุงตลาดไว้บ้างเเต่ก็เหมือนว่าจะสู้เเรงขายไม่ค่อยจะไหว ปัจจัยหลักมาจากการขาดปัจจัยบวกที่โดดเด่นพอเเม้นักลงทุนสถาบันหลักอย่างกองทุน SPDR ซื้อสุทธิสะสมมาตั้งเเต่ส้นสัปดาห์เเต่ก็ไม่สามารถหนุนให้ตลาดทองคำกลับมาเคลื่อนไหวในเเดนบวกได้เท่าที่ควรโดยทำได้อย่างมากที่สุดก็เเค่พยุงราคาไว้ไม่ให้ตกลงไปมากกว่านี้เท่าใด ที่น่าสังเกตุอีกประการก็คือบริเวณ 1,270-1,300 USD/toz เป็นระดับที่กองทุน SPDR ชอบกลับเข้ามาซื้อสุทธิสะสมสถานะการถือครองอยู่เรื่อยๆ ตั้งเเต่การปรับขึ้นในรอบก่อนหน้านี้เมื่อราวๆ หนึ่งเดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามสำหรับราคาของทองคำในวันนี้โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนนี้น่าจะมีความผันผวนจากการประกาศดัชนีทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ประมาณ 6-7 ดัชนี รวมทั้งจะมีถ้อยเเถลงของสมาชิก FOMC (Harker) เเละ ถ้อยเเถลงของประธานธนาคารกลาง(ผู้ว่า)อังกฤษ (Carney) เข้ามาเสริมทัพด้วย ซึ่งประเด็นเหล่านี้ทองคำย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะผันผวนเเรง

Strategy : ฝั่ง Short ยังได้เปรียบ


Key Point
Positive ( + )
- ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative ( - )
- เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
- การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ
- การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )
- การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
- ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ
- แรงขายของสินทรัพย์เสี่ยง

Exclusive News
-ดอลล์อ่อนค่าจากแรงขายทำกำไร,การปรับสถานะลงทุนสิ้นไตรมาส: ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินในวันพฤหัสบดี หลังปรับตัวขึ้น 3 วันติดต่อกัน ขณะที่นักลงทุนขายดอลลาร์เพื่อทำกำไรก่อนสิ้นไตรมาสหลังจากการทะยานขึ้นในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งวัดค่าดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้า 6 สกุลเงินสำคัญลดลง 0.23% สู่ระดับ 93.143 แต่ยังคงปรับตัวขึ้นราว 1% ในสัปดาห์นี้
-ทองดีดขึ้นจากจุดต่ำสุด 6 สัปดาห์: ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 6.19 ดอลลาร์ สู่ 1,286.91 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี หลังจากดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 6 สัปดาห์ที่ 1,277.26 ดอลลาร์ในช่วงแรก โดยในช่วงแรกราคาทองได้รับแรงกดดันจากข้อเสนอในการปฏิรูปภาษีสหรัฐ และจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง เพราะตัวเลขดังกล่าวช่วยสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ อย่างไรก็ดี ดอลลาร์ร่วงลงในช่วงต่อมา และส่งผลให้มีคำสั่งซื้อชดเชยทองเข้ามาในตลาด ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาด COMEX ปิดขยับขึ้น 0.90 ดอลลาร์ สู่ 1,288.70 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดปรับขึ้น 2 เซนต์ สู่ 16.847 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนที่ตลาด NYMEX ราคาพลาตินั่มส่งมอบเดือนต.ค.ปิดขยับลง 0.50 ดอลลาร์ สู่ 921.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดปรับขึ้น 2.35 ดอลลาร์ สู่ 927.85 ดอลลาร์/ออนซ์

Smart Stock
Today Strategy : ทำกำไรบ้างก็ดี...
เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยมีความพยายามปรับตัวขึ้นต่อในการซื้อขายภาคเช้าตั้งเเต่เปิดตลาดเเต่ไปได้ไม่ไกลก็เหมือนจะดับฝันนักลงทุนด้วยเเรงขายที่ถูกเทออกมาตั้งเเต่เปิดตลาดภาคบ่ายเเม้ไม่มากมายอะไรเเต่ก็กดดันบรรยากาศการลงทุนอยู่พอตัว ปัจจัยหลักเรามองว่าเป็นเเรงขายของนักลงทุนสถาบันเเละนักลงทุนต่างประเทศเป็นหลักเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการประกาศจีดีพีเเละจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เมื่อคืนนี้อีกทั้งยังสะท้อนผ่านค่าเงินบาทที่ปรับตัวอ่อนค่าลงเรื่อยเป็นวันที่สามเเล้วซึ่งหากพิจารณาการอ่อนค่าถือว่าอ่อนค่ามากในระยะเวลาเพียงเเค่ประมาณสามวันทำการเท่านั้น โดยเมื่อต้นสัปดาห์เงินบาทเคลื่อนไหวที่ระดับ 33.10 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เเต่เมื่อวานนี้กลับอ่อนค่าไปถึงระดับ 33.52 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ (อ่อนค่าไปกว่า 12.69%) สำหรับการซื้อขายในวันนี้เราคาดการณ์สถานการณ์ไว้สองสถานการณ์ได้เเก่ 1.เคลื่อนไหวในกรอบในลักษณะย่ำฐาน 2.มีเเรงขายออกเเรงกดตลาดฯ ซึ่งทั้งสองปัจจัยมีโอกาศเกิดขึ้นได้มากกว่าจะลุ้นฝั่ง Upside Gain โดยเราให้ความน่าจะเป็นไว้ที่ระดับ 65:35

Strategy : ฝั่ง Short ได้เปรียบระยะสั้น(เท่านั้น)

ปัจจัยที่ต้องติดตาม
- เงินบาทที่กลับมาอ่อนค่าอย่างมีนัยสำคัญ

ข่าวในประเทศ
-เร่งแปลงโฉมคลังธนบุรี คอมมูนิตี้มอลล์2.6พันล. ชงสคร.ไฟเขียวเพิ่มรายได้: พ.อ.(พิเศษ) ดิเรก ดีประเสริฐ รองประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการพัฒนาคลังสินธนบุรี1 กรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ผสมผสานกับศูนย์การเรียนรู้และคลังแสดงสินค้าทางการเกษตร บนพื้นที่เกือบ 20 ไร่ ว่า ในเร็วๆ นี้ อคส.จะเสนอแผนการลงทุนทั้งหมดให้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) พิจารณา โดยแผนการลงทุนครั้งนี้จะสร้างรายได้ให้กับอคส.ในระยะยาว 30 ปี ไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีรายได้รวมการเช่าคลังสินค้าเพียงปีละ 70 ล้านบาท เบื้องต้นมีเอกชนพร้อมสนใจร่วมทุนแล้ว 4 ราย คือ กลุ่ม แกรนด์ เอสเสท, นารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้, สยามพิวรรธน์ และยูนิเวนเจอร์ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างภายใน 2 ปี หรือเสร็จภายในปี 63
-แนะรพ.ไทยรุกลูกค้าคนจีน: น.ส.พัชรพร สิริทรัพย์วงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ ไป่ตู้ ประเทศไทย ซึ่งเป็นเว็บไซต์หลักในการหาข้อมูลของคนจีน คล้ายกูเกิล เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัว ไป่ตู้ แอคเซส ในไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นที่ปรึกษาการทำตลาดออนไลน์ในจีน ให้กับผู้ประกอบการไทยที่สนใจบุกเบิกขายสินค้าหรือทำธุรกิจในจีน ซึ่งขณะนี้ต้องขอแนะนำให้กลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลรายใหญ่ในไทย หันมาเจาะกลุ่มลูกค้าชาวจีนให้มากขึ้น หลังพบว่า ในปี 58 มีลูกค้าชาวจีนเดินทางออกนอกประเทศเพื่อมาใช้บริการด้านการแพทย์จากประเทศอื่นเติบโตมากถึง 500% ขณะเดียวกันชาวจีนยังเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาใช้จ่ายในไทยสูงกว่าการใช้จ่ายในประเทศอื่น ๆ ด้วย

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/
http://classicgoldfutures.blogspot.com
Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น