วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำและโลหะมีค่า วันที่ 28 พฤษภาคม 2556 โดยบริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,396 USDต่อออนซ์  อ่อนตัวต่อเนื่องระหว่าง 1,377–1,396 USDต่อออนซ์  โดยตลาดสหรัฐจะกลับมาเปิดทำการอีกครั้งหลังหยุดวันทหารผ่านศึกไปวานนี้ ทำให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวผันผวนมากขึ้น  ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายราคาทองคำถูกกดดันจากการประกาศดัชนีสินค้านำเข้าของเยอรมันที่ร่วงลงผิดคาดถึง -1.4% สร้างความกังวลต่อวิกฤติเศรษฐกิจในยูโรโซน ว่าเยอรมันซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในกลุ่ม กำลังเผชิญความเสี่ยงทางเศรษฐกิจมากขึ้นจากผลกระทบของวิกฤติเศรษฐกิจในประเทศอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญของสัปดาห์นี้ คือ ผลการประชุม กนง.ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธปท.จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ทำให้เงินบาทอ่อนค่ารออยู่บริเวณ 30 บาทต่อUSD  ดังนั้น หากเป็นไปตามคาด อาจเกิดการขายทำกำไร(sell on fact) หรือ หากคงดอกเบี้ยไว้ดังเดิม ก็จะผิดคาด ซึ่งทั้งสองกรณีล้วนจะมีผลกระทบต่อค่าเงินบาทให้ผันผวนในระยะสั้น ดังนั้น นักลงทุนจึงควรติดตามใกล้ชิดและระมัดระวังการเก็งกำไร

สรุปข่าวที่น่าสนใจ:
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคฝรั่งเศสในเดือน พ.ค.ลดลงแตะ 79 จาก 83 ในเดือน เม.ย. เนื่องจากผู้บริโภคมีความวิตกเกี่ยวกับฐานะการเงินส่วนบุคคล และนับเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่กลางปี 2551 ขณะที่เศรษฐกิจโดยรวมของฝรั่งเศส ซึ่งมีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของยูโรโซน หดตัวลง 2 ไตรมาสติดต่อกัน ซึ่งหมายถึงภาวะถดถอย และอัตราว่างงานก็พุ่งสูงเกิน 10% ในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา

จีนพร้อมตอบโต้ทันทีหากสหภาพยุโรป(EU)ใช้มาตรการคุ้มครองการค้า โดยผู้แทนการค้าระหว่างประเทศและรมช.การค้าของจีน จง ซาน  เปิดเผยระหว่างการหารือกับเจ้าหน้าที่ของ EU เรื่องข้อพิพาททางการค้าเกี่ยวกับแผงรับแสงอาทิตย์และเครื่อข่ายโทรคมนาคมไร้สายของจีน หลังจากที่คณะกรรมาธิการยุโรป(EC)ได้สนับสนุนข้อเสนอเรียกเก็บภาษีแผงโซลาร์เซลส์ที่นำเข้าจากจีนเฉลี่ย 47% เพื่อป้องกันการทุ่มตลาดในยุโรป ขณะเดียวกันยังเสนอให้เริ่มการสืบสวนเรื่องการตอบโต้การทุ่มตลาดและการตอบโต้การอุดหนุนกับอุปกรณ์โทรคมนาคมเคลื่อนที่ซึ่งนำเข้าจากจีนเช่นกัน

จีนผลิตน้ำมันดิบในเดือน เม.ย.ได้ 17.07 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 3.3% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ จีนแปรรูปน้ำมันดิบ 34.89 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 6.5% และผลิตผลิตภัณฑ์น้ำมันได้ 21.48 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 4.3% ขณะที่ผลผลิตน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 11.8% ผลผลิตน้ำมันดีเซลลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 0.9% ส่วนการบริโภคผลิตภัณฑ์น้ำมันในเดือน เม.ย.เพิ่มขึ้น 3.9% เมื่อเทียบรายปี แตะ 20.98 ล้านตัน ขณะที่การบริโภคน้ำมันเบนซินและดีเซล เพิ่มขึ้น 10.2% และ 0.1% ตามลำดับ จากช่วงเดยวกันของปีก่อน ปริมาณสต็อกผลิตภัณฑ์น้ำมัน ณ สิ้นเดือนเมษายน ยังคงทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนี้ ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ จีนผลิตน้ำมันดิบได้ 68.26 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2.6% เทียบรายปี และแปรรูปน้ำมันดิบ 144.37 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 4.9% การผลิตผลิตภัณฑ์น้ำมันในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2556 เพิ่มขึ้น 4.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แตะระดับ 88.82 ล้านตัน ขณะที่ผลผลิตน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 12.6% เทียบรายปี  และผลผลิตน้ำมันดีเซลลดลง 0.9% ส่วนการบริโภคผลิตภัณฑ์น้ำมันในช่วง 4 เดือนแรกของปี
มีปริมาณทั้งสิ้น 82.57 ล้านตัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 3.7% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ปริมาณการบริโภคน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 12.7% แต่การบริโภคใช้น้ำมันดีเซลลดลง 1.4% จากปีก่อน

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตาม  ได้แก่
- 20:00 ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในเขต 20 เมืองใหญ่ เดือน มี.ค.  –  เป็นดัชนีประเมินสภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่สำคัญ มีความเกี่ยวข้องกับระดับความเชื่อมั่น, ความมั่งคั่ง และการใช้จ่ายของประชาชน โดยตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง 9 เดือนติดต่อกัน จากผลของจากมาตรการ QE3-4 แต่ต้องเริ่มจับตาว่า อาจร้อนแรงเกินไป แม้ว่าราคาบ้านจะยังไม่กลับไปถึงระดับก่อนเกิดวิกฤติซับไพรม์ก็ตาม โดยตัวเลขคาดการณ์ที่ +10.2% อาจมีผลให้ Fed ตัดสินใจยุติ QE ได้เร็วขึ้น และจะส่งผลลบต่อราคาทองคำในคืนนี้

- 21:00 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน พ.ค.  –  สำรวจความคิดเห็นในปัจจุบันและการคาดการณ์ในอนาคตของครัวเรือนเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจ, รายได้, การมีงานทำ, ฯลฯ ทั้งนี้ ปัจจุบัน ดัชนีมีค่าทรงตัวในระดับกลาง ๆ ที่ 60-80 ซึ่งฟื้นขึ้นมาจากวิกฤติซับไพรม์ โดยหากประกาศออกมาใกล้กับที่คาดการณ์ จะส่งผลต่อราคาทองคำเล็กน้อย และหากเกิน 75 จะส่งผลลบต่อราคาทองคำอย่างมาก แต่ถ้าหากต่ำกว่า 60 จะส่งผลบวก

- 21:00 ดัชนีกิจกรรมการผลิต (ริชมอนด์) เดือน พ.ค.  –  ผลสำรวจความคิดเห็นต่อเศรษฐกิจและการทำธุรกิจของผู้ผลิตในเขตที่เฟดสาขาริชมอนด์ดูแล ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่สำคัญในเขตดังกล่าว แต่มักจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ หากอยู่ในช่วงบวกหรือลบไม่เกิน 10

Technical Analysis:
ทองคำ   จากกราฟราย 1 ชม. ราคากำลังแกว่งตัวในกรอบรูป ascending triangle  โดย macd และ rsi ต่างให้แนวโน้มเชิงลบ  แต่ราคาเข้าใกล้กรอบล่างที่บริเวณ 1,375  ทำให้มีโอกาสดีดกลับได้  ซึ่งการอยู่ในคลื่นที่ 4 จาก 5 ลูก ในกรอบสามเหลี่ยม ทำให้ราคาใกล้การ break out  จึงควรมีวินัยในการ cut loss หากถือสถานะผิดทาง  ให้แนวต้านบริเวณ 1,390/1,395  ให้แนวรับบริเวณ 1,375/1,360  แนะนำให้ trading ในกรอบแนวรับแนวต้าน

โลหะเงิน   ราคายังคงแกว่งตัวแคบ ๆ อยู่เหนือระดับ 22  ขณะที่ rsi แกว่งตัวบริเวณ 50  ทำให้มีแนวโน้มไม่ชัดเจนว่าจะเลือกทิศทางอย่างไร  จึงยังคงให้กรอบ 21–23 เช่นเดิม  แต่ควรระวังความผันผวนในกรอบดังกล่าวมากขึ้น  ให้แนวต้านบริเวณ 23.1/23.5  ให้แนวรับบริเวณ 20.9/19.8  แนะนำให้ trading ในกรอบแนวรับแนวต้าน

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/
http://classicgoldfutures.blogspot.com
Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น