วันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำและโลหะมีค่า วันที่ 13 พฤษภาคม 2556 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)


บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำและโลหะมีค่า วันที่ 13 พฤษภาคม 2556 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) 

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,430 USDต่อออนซ์  เคลื่อนไหวระหว่าง 1,426 – 1,437 USDต่อออนซ์ ตลาดทองคำถูกกดดันด้วยตัวเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของสหรัฐ ซึ่งอาจทำให้มีการคาดการณ์ว่า เฟดจะยุติการกระตุ้นเศรษฐกิจในเร็วๆ นี้ อีกทั้ง ค่าเงิน US Dollar ที่แข็งค่าขึ้นมาก เมื่อผลการประชุม G7 ไม่ได้วิพากษ์วิจารย์นโยบายผ่อนคลายทางการเงินแบบเชิงรุกของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ นอกจากนั้น กองทุน SPDR ที่ขายอย่างต่อเนื่อง รวมถึง มีสัญญาณการขายออกของนักลงทุนในตลาด Future และ Option ของ The Commodity Futures Trading Commission (CFTC) หลังจากราคาร่วงหลุดแนวรับสำคัญระดับ 1,440 ซึ่งอาจกดดันให้ราคาทองคำปรับลดลงต่อได้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังรอผลการประชุม รมต.คลัง 27 ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปในวันนี้ และพรุ่งนี้ ซึ่งหากมีข่าวบวกหนุนค่าเงินยูโร อาจช่วยพยุงราคาทองคำอีกทาง ขณะที่ ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่ามาก ยังเป็นแรงเสริมต่อราคาทองคำไทยในช่วงสั้น แต่เนื่องจากการประชุมของธปทในวันนี้ ยังไม่มีสัญญาณว่าจะเริ่มใช้มาตรการดูแลเงินบาทในขณะนี้ อาจส่งผลให้ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้นในระยะถัดไป

สมาชิกสภาบริหาร ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของอีซีบีให้ต่ำกว่าระดับ 0% จะเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการช่วยเหลือเศรษฐกิจยูโรโซน ทั้งนี้ การทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากติดลบหมายความว่า อีซีบีจะคิดค่าธรรมเนียมจากธนาคารพาณิชย์สำหรับการฝากเงินประเภทข้ามคืนกับทางอีซีบี ซึ่งเป็นสิ่งที่นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี เคยกล่าวว่า อีซีบี "มีความพร้อมทางเทคนิค" ที่จะดำเนินการ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะส่งเสริมให้ธนาคารต่างๆปล่อยกู้ให้แก่ ภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง แทนที่จะฝากเงินไว้กับอีซีบี แต่นั่นก็อาจจะมีผลกระทบอย่างมากต่อการดำเนินงานของธนาคาร และส่งผลอย่างมากต่อตลาดตราสารหนี้และตลาดพันธบัตร 
ผลสำรวจรายไตรมาสของบริษัทฟิทช์ เรทติงส์ระบุว่า นักลงทุนมากกว่าครึ่งคาดการณ์ว่า วิกฤติยูโรโซนจะเลวร้ายลงอีกครั้ง ทั้งนี้ ผลสำรวจความเห็นผู้จัดการ ซึ่งดูแลตราสารหนี้คิดเป็นมูลค่าราว 8.6 ล้านล้านยูโร พบว่า ผู้จัดการ 29% รู้สึกว่า วิกฤตการณ์ที่ยุติลงชั่วคราวเมื่อไม่นานมานี้ เป็นเพียงความสงบในช่วงเวลาสั้นๆ ขณะที่ผู้จัดการอีก 30% ระบุว่า ตลาดมีความคึกคักผิดปกติ โดยมีความแตกต่างกันอย่างมากระหว่างภาวะถดถอยอย่างต่อเนื่องและภาวะว่างงานที่เพิ่มขึ้นทั่วยุโรป และการพุ่งขึ้นของตลาดการเงิน ซึ่งถ้าการพุ่งขึ้นของตลาดการเงินไม่ได้รับการสนับสนุนจากเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และความคืบหน้าต่อการจัดตั้งสหภาพธนาคาร อันตรายก็คือว่า ความผันผวนในตลาดจะกลับมาอีกครั้งในช่วงฤดูร้อน เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้น ในปี 2012 และ 2011
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตาม  ได้แก่
- 19:30 ยอดค้าปลีก (ไม่รวมยานพาหนะ) เดือน เม.ย.  -- ตัวเลขในระดับ +0.5-1.0% ถือเป็นค่าปกติในช่วงที่ไม่ได้เกิดภาวะไม่ดีทางเศรษฐกิจ ดังนั้น ถ้าหากคืนนี้ประกาศออกมาใกล้เคียงหรือต่ำกว่า 0% ก็จะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ

- 21:00 สต๊อคสินค้าคงคลัง เดือน มี.ค.  -- การเพิ่มขึ้นของยอดสต๊อคสินค้า ภาคค้าส่ง เป็นการแสดงให้เห็นถึงการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งขึ้นอยู่กับช่วงฤดูกาลด้วย ดังนั้น หากคืนนี้ยอดสต๊อคสินค้า ภาคค้าส่ง ปรับเพิ่มขึ้นตามคาดอาจจะส่งผลลบต่อราคาทองคำ

 
ทองคำ   หลังจากที่ราคาหลุดกรอบ Sideway 1,440 – 1,490 ทำให้ราคาปรับลดลงไปแรง อย่างไรก็ดี การตั้งฐานเหนือแนวรับ 1,420 ยังเป็นแรงเสริมต่อราคาทองคำในช่วงสั้น วันนี้จับตาดู หากยังตั้งฐานเหนือ 1,420 อย่างแข็งแกร่ง จะหนุนให้ราคาทองคำกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,440/1,450 อีกครั้ง ขณะที่ การหลุดแนวรับ 1,420 จะกดดันให้ราคามีโอกาสปรับลดลงไปทดสอบที่ระดับ 1,405 ในระยะถัดไป  โดยคืนนี้ มีแนวต้านที่บริเวณ 1,440/1,450 และแนวต้านที่บริเวณ 1,420/1,405
 
โลหะเงิน   ให้แนวต้านบริเวณ  24 / 24.5 และแนวรับบริเวณ  23.15 / 22.95 แนะนำ Trading ในกรอบ

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/
http://classicgoldfutures.blogspot.com
Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น