วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำและโลหะมีค่า วันที่ 7 พฤศจิกายน 2556 โดยบริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,316 USDต่อออนซ์  เคลื่อนไหวผันผวนระหว่าง 1,314-1,320 USDต่อออนซ์  โดยราคายังคงทรงตัวในกรอบ sideway แคบ ๆ ระหว่าง 1,305-1,325 USDต่อออนซ์ เป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน เนื่องจากขาดปัจจัยชี้นำ  อย่างไรก็ตาม ในคืนนี้จะมีการประกาศผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB)และธนาคารกลางอังกฤษ(BOE) ซึ่งตลาดคาดว่า BOE จะคงดอกเบี้ยและมาตรการไว้ดังเดิม แต่มีโอกาสที่ ECB จะลดดอกเบี้ยลงจาก 0.50% เนื่องจากแรงกดดันเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ แต่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจค่อนข้างเป็นไปอย่างเชื่องช้า ซึ่งการใช้มาตรการรัดเข็มขัดเพื่อแลกรับเงินช่วยเหลือจาก Troika ได้ทำให้อัตราการว่างงานในหลายประเทศยังคงอยู่ในระดับสูง และก็ยังไม่มีอะไรเป็นหลักประกันว่าประเทศเหล่านั้นได้รอดพ้นจากวิกฤติแล้วจริง ๆ 

นักวิเคราะห์คาดว่า ธนาคารกลางยุโรปจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5% ในการประชุมวันนี้ แม้ว่าสัญญาณบ่งชี้ทางเศรษฐกิจล่าสุดจะชี้ให้เห็นถึงการฟื้นตัวที่อ่อนแรงและไม่แน่นอน เนื่องจากอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูงถึง 12.1% ส่วนเงินเฟ้อก็อ่อนตัวลง ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่มีการทำสถิติในปี 2538

สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน(NBS) เผยว่า เศรษฐกิจจีนมีพัฒนาการที่แข็งแกร่งนับตั้งแต่การปฏิรูปและการเปิดประเทศ ซึ่งเศรษฐกิจมีการขยายตัวเฉลี่ย 9.8%ต่อปี ระหว่างปี 2522-2555 เมื่อเทียบกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ 2.8% โดยในปี 2521 เศรษฐกิจจีนรั้งอันดับ 10 ของโลก แต่ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ได้ในปี 2553 และคิดเป็นสัดส่วน 11.5% ของเศรษฐกิจโลกในปี 2555 เทียบกับ 1.8% ในปี 2521 ซึ่งจีนกลายเป็นกลไกสำคัญที่ขับเคลื่อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกนับตั้งแต่เกิดการลุกลามของวิกฤตการเงินระหว่างประเทศ และกิจกรรมของจีนทำให้เศรษฐกิจโลกขยายตัวเฉลี่ยเกินกว่า 20%ต่อปี ทั้งนี้ รายได้ต่อหัวของจีนแตะ 5,680 ดอลลาร์ในปี 2555 เพิ่มขึ้นจากระดับ 190 ดอลลาร์ในปี 2521 โดยรายได้หลังภาษีในรูปมูลค่าที่แท้จริงต่อหัวของพลเมืองในตัวเมืองขยายตัวเฉลี่ย 7.4%ต่อปี นับตั้งแต่การปฏิรูปและเปิดประเทศ แตะ 24,565 หยวน ในปี 2555 ขณะที่รายได้สุทธิในรูปมูลค่าที่แท้จริงต่อหัวของประชากรในชนบทขยายตัวเฉลี่ย 7.5%ต่อปี แตะ 7,917 หยวน ในปี 2555 นอกจากนี้ จีนยังถูกจัดให้เป็นประเทศที่มีรายได้ระดับปานกลาง เมื่ออิงตามมาตรฐานของธนาคารโลก และอายุขัยของประชากรเพิ่มขึ้นเป็น 74.8 ปี 
ในปี 2555 เทียบกับ 67.8 ปี ในปี 2524

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตาม 
- 19:45 ธนาคารกลางยุโรป(ECB) ประกาศอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง  –  ตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำในระดับที่สามารถควบคุมได้ แต่อัตราการว่างงานทั่วยูโรโซนที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง และยังไม่มีแนวโน้มจะลดลงในบางประเทศ ทำให้นักเศรษฐศาสตร์บางส่วนประเมินว่า มาริโอ ดรากี อาจตัดสินใจลดดอกเบี้ยนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจาก ECB ค่อนข้างมีข้อจำกัดในการดำเนินนโยบาย อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยคาดว่าจะยังไม่มีการประกาศปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยในการประชุมคืนนี้

- 20:30 ธนาคารกลางยุโรป(ECB) แถลงสรุปผลการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน  –  ตัวเลขเศรษฐกิจของหลายประเทศในยุโรปมีการฟื้นตัวขึ้นในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา แต่ยังไม่ยืนยันความแข็งแรงที่เด่นชัดต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน รวมทั้งปัญหาวิกฤติหนี้สาธารณะในประเทศกลุ่ม PIIGS ยังไม่ได้รับการแก้ไขโดยสมบูรณ์ ทำให้บางประเทศยังคงต้องขอรับเงินช่วยเหลืออยู่อย่างต่อเนื่อง นักลงทุนจึงควรติดตามถ้อยแถลงดังกล่าวว่า ECB มีท่าทีอย่างไรต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของยูโรโซน และความคืบหน้าการปฏิรูปการเงินการคลังในยุโรป

- 20:30 GDP (ประเมินเบื้องต้น) ไตรมาส 3/2013  –  เป็นประมาณการณ์เบื้องต้นก่อนการสรุปตัวเลขในครั้งหน้าและจะประกาศอย่างเป็นทางการในครั้งถัดไป จึงถือเป็นข้อมูลที่สำคัญมากต่อการประเมินทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งจากการประเมินในคืนนี้ คาดว่าจะออกมา +2.0% ซึ่งแม้จะต่ำลงเมื่อเทียบกับตัวเลขประมาณการณ์ในไตรมาส 2 ที่ +2.5% (ถูกปรับเพิ่มจากเดิมที่ +1.7%) แต่อาจส่งผลลบต่อทองคำได้

- 20:30 จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน รายสัปดาห์  –  อัตราการว่างงานล่าสุดที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจนแตะ 7.2% บ่งชี้ถึงภาวะตลาดแรงงานที่ดีขึ้นมาก  แต่เป้าหมายของ Fed ที่ระดับ 6.5% ยังต้องรอจนกว่าตัวเลขรายสัปดาห์จะทรงตัวในระดับต่ำกว่า 3 แสนราย เสียก่อน  ซึ่งตัวเลขใน 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากปัญหา shutdown แต่มีแนวโน้มเริ่มกลับมาอยู่ใกล้ระดับ 3 แสนราย อีกครั้ง ซึ่งหากอยู่ระหว่าง 3-3.3 แสนราย จะเป็นผลลบต่อราคาทองคำ แต่หากยังอยู่สูงกว่า อาจเป็นผลบวกไม่มากนัก

ทองคำ   ราคายังสวิงผันผวนในกรอบไม่เกิน 20 เหรียญ โดย MACD อ่อนแรงลงใกล้ระดับ 0 ส่วน RSI และ ADX บ่งชี้ลักษณะตลาดที่ sideway และยังไม่มีสัญญาณว่าราคาจะ breakout ออกจากกรอบ 1,305-1,325 อย่างไรก็ตาม หาก ECB มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายกะทันหัน ก็จะทำให้ราคาทองคำทะลุกรอบออกไปทางด้านใดด้านหนึ่งได้ จึงแนะนำให้รอ follow เมื่อ breakout  สำหรับคืนนี้ ให้แนวต้านบริเวณ 1,322/1,328 และให้แนวรับบริเวณ 1,312/1,305

โลหะเงิน   ราคาเคลื่อนไหว sideway ในกรอบแคบ เพื่อรอเลือกทิศทางในระยะถัดไป จึงแนะนำให้รอ follow เมื่อ breakout  โดยคืนนี้ ให้แนวต้านบริเวณ 21.9/22.0 และให้แนวรับบริเวณ  21.5/21.3

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/
http://classicgoldfutures.blogspot.com
Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น