วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ เงิน วันที่ 29 สิงหาคม 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ เงิน วันที่ 29 สิงหาคม 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,790/1770 แนวต้านที่ 1,850 แนวโน้มราคาจาก MACD และ Moving average ยังคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มต่อ

ระวังแรงเทขายเป็นระยะๆ

ราคาทองคำในตลาดเอเชียเปิดตลาดตอนเช้าที่บริเวณ 1813 USDต่อออนซ์ โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวระหว่าง 1810-1825 USDต่อออนซ์ ราคาปรับบวกขึ้นมาได้เมื่อวันศุกร์ในตลาด COMEX จากการประกาศตัวเลข GDP สหรัฐที่ลดต่ำลงสู่ 1% จากเดิมที่ 1.3% และ การที่เฟดยังไม่มีมาตรการ QE3 ออกมา แต่ตลาดยังคาดหวังว่าอาจจะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอีก หลังจากการประชุมในวันที่ 20 – 21 ก.ย.นี้

ประเด็นที่หลายฝ่ายจับตาในสัปดาห์ก่อน ซึ่งส่งผลราคาทองคำค่อนข้างมาก ได้แก่ ผลการประชุมของเฟด สรุปได้ว่า นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังไม่มีรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับการดำเนินมาตรการที่จะสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และยังไม่มี QE 3 แต่เฟดกล่าวว่าจะดำเนินการแบบอื่นที่สามารถทำได้เพื่อแก้ปัญหาการว่างงานในระดับสูง โดยนายเบอร์นันเก้กล่าวว่า จะขยายเวลาในการประชุมกำหนดนโยบายในเดือนก.ย.ออกไปอีก 1 วัน เป็น 2 วัน เพื่อให้เฟดมีเวลาพิจารณาทางเลือกต่างๆ โดยเฟดจะทำการประชุมในวันที่ 20-21 ก.ย.มีการคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในเดือนก.ย. ในขณะที่เฟดเผชิญเงื่อนไขจำนวนมากในการดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อได้ปรับตัวขึ้น เฟดเตือนว่าการดำเนินนโยบายการคลังที่เข้มงวดเร็วเกินไปอาจจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เปราะบาง

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนส่วนใหญ่มีความคาดหวังลดลงเกี่ยวกับการออกมาตรการ QE3 ก่อนการประชุมประจำปีในสัปดาห์ที่แล้ว ดังนั้นการที่นายเบอร์นันเก้ไม่ได้ประกาศมาตรการใหม่ในการประชุมดังกล่าว จึงไม่ได้สร้างความผิดหวังให้แก่นักลงทุนมากนัก นักวิเคราะห์ระบุว่าโอกาสที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหม่สูงถึง 50% หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวเพียง 1% ต่อปีในไตรมาส 2 และ 0.4% ในไตรมาสแรก ขณะที่ยุโรปเผชิญกับวิกฤติหนี้ ซึ่งกาลังส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเช่นกัน


ส่วนตลาดการเงินที่ปรับตัวปั่นปวนในวันศุกร์หลังการแถลงของนายเบอร์นันเก้ เพราะนักลงทุนบางส่วนคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าเฟดจะมีการเปิดเผยรายละเอียดใหม่ๆเกี่ยวกับมาตรการที่อาจนำมาใช้เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่างหนักในช่วงแรก โดยดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงมากถึง 220 จุด แต่ปิดตลาดปรับตัวขึ้นได้ ทำให้ทองคำได้รับผลในเชิงบวกจากการปรับลดของดาวโจนส์ด้วย

การปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันสหรัฐ เมือสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผลจากจากพายุไอรีนที่พัดเข้าสหรัฐจนทำให้หลายฝ่ายคาดว่าต้องมีการปิดโรงกลั่นน้ำมันนานขึ้นและทำให้การผลิตน้ำมันลดลง และอาจจะทาให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามในเช้าวัน 29 ส.ค.บรรดาโรงกลั่น และสถานีน้ำมันแถบอีสต์โคสต์ของสหรัฐสามารถผ่านพ้นพายุไอรีนมาได้ ทาให้ลดความวิตกเกี่ยวกับปัญหาด้านขาดแคลนอุปทานน้ำมันใน โรงกลั่น สถานี และท่อส่งน้ำมันส่วนใหญ่บริเวณอีสต์โคสต์สามารถรับมือกับพายุโซนร้อนไอรีน ซึ่งได้ลดกาลังลงจากพายุเฮอริเคนล่าสุด

ธนาคารกลางจีนได้เพิ่มสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ ส่งผลให้สัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ อยู่ที่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 21.5% สาหรับธนาคารที่ใหญ่ 6 แห่งของจีน นอกจากนั้น ธนาคารกลางจีนยังขึ้นอัตราดอกเบี้ย 5 ครั้งตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว และนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า โอกาสที่จะมีการคุมเข้มนโยบายอีกมีไม่มากนัก
ประเด็นที่ต้องจับตาในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้เพื่อพิจารณาภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ โดยข้อมูลสาคัญได้แก่ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,790/1770 แนวต้านที่ 1,850 แนวโน้มราคาจาก MACD และ Moving average ยังคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มต่อ
ราคาโลหะเงินมีแนวรับที่ 39.7 และแนวต้านที่ 42.3 แนวโน้มราคาจาก MACD และ ADX คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อ

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.classicgold.co.th http://www.chiabsengheng.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgg http://classicgoldfutures.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น