วันอังคารที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2556

บทวิเคราะห์ Gold Futures Strategy Report ประจำสัปดาห์ที่ 2-6 ธันวาคม 2556 โดยบริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

สัปดาห์ที่ผ่านมา (25-29 พ.ย.)  ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 9 USDต่อออนซ์ (+0.72%) มาปิดที่ 1,251.99 USDต่อออนซ์  มีความเคลื่อนไหวในลักษณะ sideway ระหว่าง 1,227–1,256 USDต่อออนซ์  จากนั้นเมื่อเข้าสู่สัปดาห์นี้ ราคาทองคำได้เริ่มไหลลงตั้งแต่วันจันทร์และกำลังทำจุดต่ำสุดใหม่ โดยยังไม่เห็นแรงซื้อกลับ ต่างจากในช่วงสัปดาห์ที่แล้วที่มีการซื้อคืนเพื่อปิดสถานะสัญญาล่วงหน้าทั้งฟิวเจอร์สและออปชั่น ทำให้ราคาหยุดไหลลงชั่วคราว แล้วจึงเริ่มร่วงอีกครั้งเมื่อเข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี ที่โดยทั่วไปมักเป็นช่วงที่ตลาดซบเซา แต่มีความผันผวนสูงขึ้น เนื่องจากเป็นเวลาที่มีการปรับพอร์ตประจำปีก่อนเข้าสู่วันหยุดยาวต่อเนื่องตั้งแต่คริสต์มาสจนถึงปีใหม่  นอกจากนี้ กระแสการคาดการณ์ว่า ผู้ว่าการ Fed คนใหม่ เจเน็ต เยลเลน ซึ่งอยู่ในสายพิราบ จะยังคงมุมมองแนวคิดเช่นเดียวกับ เบน เบอร์นันเก้ ในการคงระดับมาตรการผ่อนคลายทางการเงินต่อไป ทั้ง QE และดอกเบี้ยระดับต่ำ จนกว่าจะมั่นใจได้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ด้วยตัวเองโดยปราศจากการอัดฉีดช่วยเหลือด้านสภาพคล่อง  แต่อย่างไรก็ตาม ความคิดเห็นของคณะกรรมการส่วนใหญ่ใน FOMC กลับมีทัศนะว่า ต้องการเห็นการเริ่มทยอยปรับลดวงเงิน QE จำนวน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ภายในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค.นี้ หรือ อย่างช้าต้นปีหน้า ซึ่งให้เหตุผลที่บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นต่อตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นผลลบต่อราคาทองคำในช่วงนี้ต่อเนื่องถึงปีหน้า

SPDR Gold Trust กองทุน ETF ทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (25-29 พ.ย.)  ขายทองคำทั้งสิ้น 9 ตัน รวมสถานะถือทองคำเมื่อสิ้นสุดสัปดาห์ (29 พ.ย.) และต่อเนื่องถึงวานนี้ (2 ธ.ค) ทั้งสิ้น 843.21 ตัน  โดยมีความถี่ในการขายสุทธิลดลงเหลือเพียง 2 วันทำการ เทียบกับในสัปดาห์ก่อนหน้าที่กองทุนมีการเทขายออกมาทุกวัน  อย่างไรก็ตาม ปริมาณทองคำในพอร์ตของกองทุนได้ลดลงอย่างต่อเนื่องจนล่าสุดแตะระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่สิ้นเดือน ม.ค.2552 ซึ่งราคาทองคำอยู่ที่ประมาณ 900 USDต่อออนซ์  บ่งชี้ถึงมุมมองของนักลงทุนรายใหญ่ในตลาดที่แสดงความไม่เชื่อมั่นต่อการทำกำไรผ่านสินทรัพย์ทองคำในระยะกลาง  ทั้งนี้ การคาดการณ์ของตลาดว่า Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ต่อไป แม้ว่าจะมีการปรับลดวงเงินในมาตรการ QE แล้วก็ตาม ทำให้เม็ดเงินไหลออกจากสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างโลหะมีค่า เข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น เพื่อเก็งกำไร capital gain

รายงานการถือครองสถานะสัญญาล่วงหน้าทองคำในตลาด COMEX รายสัปดาห์ สิ้นสุด 26 พ.ย. พบว่า มีสถานะคงค้าง(Open Interest) 394,432 สัญญา ลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกันอีก 3,158 สัญญา  โดยสถานะซื้อสุทธิของนักลงทุนกลุ่ม Non-Commercial ลดลงมาเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกันแล้วอีก 21,395 สัญญา เหลือเพียง 26,555 สัญญา เกือบถึงระดับต่ำสุด 20,751 สัญญา ที่ทำไว้ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับสถานะขายสุทธิของนักลงทุนกลุ่ม Commercial ที่ลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 อีก 23,279 สัญญา เหลือเพียง 28,236 สัญญา ใกล้เคียงกับช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.ที่ผ่านมา  ซึ่งจากรายงานดังกล่าว กำลังบ่งชี้ถึงภาวะซบเซาในอนาคตของตลาดทองคำ หลังจากที่ทิศทางหลักไม่สามารถเปลี่ยนแปลงกลับตัวไปเป็นขาขึ้นได้ ทำให้นักลงทุนทั้ง 2 กลุ่ม ลดสถานะการถือครองสัญญาลง รวมไปถึงการลดสัดส่วนการลงทุน แต่หันไปเก็งกำไรระยะสั้นและถือสัญญาเพื่อป้องกันความเสี่ยงเป็นหลัก

ประเด็นที่ต้องติดตามในรอบสัปดาห์  ได้แก่  
- สถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในประเทศไทย ส่งผลกระทบโดยตรงให้เงินบาทอ่อนค่า และเพิ่มความเสี่ยงให้เงินทุนไหลออก รวมทั้งยังชะลอการไหลเข้าของเงินตราต่างประเทศผ่านการลงทุนระยะยาว การท่องเที่ยว และรายได้จากการส่งออก  ทั้งนี้ เงินบาทที่อ่อนค่าจะทำให้ราคาทองคำในประเทศลดลงไม่มากเท่ากับราคาทองคำตลาดโลก เช่น ถ้าหากราคาตลาดโลกอยู่ในภาวะขาลง ราคาในประเทศจะเคลื่อนไหว sideway down

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้  ได้แก่  
- วันอังคาร  ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ธ.ค. โดย IBD/TIPP

- วันพุธ  ยอดการจ้างงาน นอกภาคเกษตรกรรม เดือน พ.ย. โดย ADP, ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือน พ.ย., ดัชนี PMI นอกภาคการผลิต เดือน พ.ย. โดย ISM, ยอดขายบ้านใหม่ เดือน ต.ค., ยอดขายบ้านใหม่ เดือน ก.ย., ยอดสต็อกน้ำมัน รายสัปดาห์, รายงานมุมมองเศรษฐกิจ โดย FOMC (Beige Book)

- วันพฤหัสบดี  GDP (สรุปเบื้องต้น) ไตรมาส 3/2556, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน รายสัปดาห์, ยอดคำสั่งซื้อโรงงาน เดือน พ.ย.

- วันศุกร์  ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือน พ.ย., อัตราการว่างงาน เดือน พ.ย., ดัชนีราคาผู้บริโภค เดือน พ.ย., รายจ่าย และรายได้ผู้บริโภค เดือน พ.ย., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ (สรุป) เดือน ธ.ค. โดย ม.มิชิแกน

ภาพทางเทคนิคราคาทองคำรายสัปดาห์ ( 25-29 พ.ย. ) :  หลังจากที่ราคาทองคำเคลื่อนไหว sideway ในกรอบเมื่อสัปดาห์ที่ผ่าน ราคาทองคำได้เลือกทิศทางฝั่งลง โดยมีการ breakout ออกจากกรอบในวันจันทร์นี้ ซึ่งเป็นการเลือกทิศทางในฝั่งลงของราคาทองคำนั้น ไม่ได้เหนือความคาดหมายแต่อย่างใด โดย indicator ทางเทคนิคทุกตัวให้สัญญาณเชิงลบอย่างต่อเนื่อง ทั้ง moving average 200 ,moving average 20 รวมไปถึง macd โดยนักลงทุนที่ยังไม่มีสถานะยังไม่ควร short ที่บริเวณนี้ เนื่องจาก RSI ได้เข้าสู่เขต oversold แล้ว ควรรอให้ราคามีการรีบาวน์ก่อนจะเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมกว่า สำหรับสัปดาห์นี้ให้แนวต้านระยะสัปดาห์ที่บริเวณ 1,240/1,260/1,290 และแนวรับระยะสัปดาห์ที่บริเวณ 1,200/1,180/1,150  แนะนำ trading short 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/
http://classicgoldfutures.blogspot.com
Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น