วันพุธที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2556

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำและโลหะมีค่า วันที่ 4 ธันวาคม 2556 โดยบริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,223 USDต่อออนซ์  เริ่มปรับตัวลดลงในช่วงบ่าย ทำให้ระหว่างวันเคลื่อนไหว 1,212-1,223 USDต่อออนซ์  แต่ราคาทองคำมีแนวโน้มจะทำจุดต่ำสุดเรื่อย ๆ สอดรับกับความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์บางคน รวมไปถึงคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC)บางท่าน ที่ต้องการหรือคาดหวังให้ Fed เริ่มต้นทยอยปรับลดวงเงินมาตรการ QE ในการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 17-18 ธ.ค. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญส่วนใหญ่บ่งชี้ถึงแนวโน้มการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าได้เผชิญกับปัญหา partial shutdown ไปกว่า 2 อาทิตย์ ในเดือน ต.ค. แต่ก็ไม่ได้ทำให้ระดับความเชื่อมั่นและดัชนีทางเศรษฐกิจอ่อนแรงลงอย่างที่หลายฝ่ายคาดไว้ ซึ่งการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้น สวนทางกับราคาทองคำในตลาดโลกที่จะอ่อนแรงลงจากความเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย จึงทำให้ราคาทองคำเผชิญแรงเทขายอย่างหนักหน่วงทุกครั้งที่เข้าใกล้

องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาเศรษฐกิจ(OECD) ระบุว่า เงินเฟ้อในกลุ่ม 34 ชาติสมาชิก เมื่อเดือน ต.ค.ร่วงลงจากระดับสูงสุดของปีนี้ที่ 2.0% ที่ทำไว้เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา จากราคาพลังงานที่ร่วงลง และขาขึ้นของราคาอาหารเริ่มชะลอตัว โดยเงินเฟ้อของกลุ่มยูโรโซนร่วงลงมาอยู่ที่ 0.7% ญี่ปุ่นลดลงมาอยู่ที่ 1.1% สหรัฐลดลงมาอยู่ที่ 1.0% อังกฤษลดลงมาอยู่ที่ 2.2% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อโดยรวมของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาขนาดใหญ่(G20) ลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 2.8%

ทหารเพิ่มกำลัง คาดอาจปะทุหลังรัฐประหาร กองทัพไทยเตรียมระดมกำลังปราบปรามเพิ่มเติม เนื่องจากคาดการณ์ว่า หากการทำรัฐประหารรัฐบาลชุดนี้สำเร็จ สถานการณ์ความวุ่นวายอาจเกิดขึ้นอีกระลอกจากฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลที่ไม่พอใจกับการตัดสินใจ

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตาม 
- 20:15 ยอดการจ้างงาน นอกภาคเกษตรกรรม เดือน พ.ย. โดย ADP  –  ข้อมูลการจ้างงานใหม่รายเดือนในภาคเอกชนที่แสดงถึงแนวโน้มในภาคธุรกิจได้พอสมควร  โดยตัวเลขที่เพิ่มขึ้นในช่วง 1.5-2.0 แสนตำแหน่งงาน แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของเศรษฐกิจ ซึ่งหากประกาศตัวเลขมากกว่าเดือนก่อนหน้า จะส่งผลลบต่อราคาทองคำ และหากสูงกว่าระดับ 2 แสนตำแหน่ง ก็จะกดดันราคาทองคำอย่างมาก แต่ถ้าใกล้เคียงหรือต่ำกว่า 1.5 แสนตำแหน่ง จะเป็นผลดีค่อนข้างมาก

- 20:30 ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือน ต.ค.  –  การขาดดุลการค้ามีผลต่อค่าเงินดอลลาร์โดยตรง แต่ไม่มีผลต่อราคาทองคำ

- 22:00 ดัชนี PMI นอกภาคการผลิต เดือน พ.ย. โดย ISM  –  เป็นผลสำรวจความคิดเห็นของผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในภาคการผลิตที่สถาบันจัดการอุปทานรวบรวมมา โดยเป็นการสอบถามมุมมองโดยรอบ ซึ่งผลสรุปจะชี้ให้เห็นถึงมุมมองต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจากผู้ประกอบการทั่วประเทศ จึงมีผลกระทบต่อราคาทองคำค่อนข้างมาก โดยตัวเลขระหว่าง 50-55 จะเป็นมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ แต่จะส่งผลลบต่อราคาทองคำเล็กน้อย ส่วนค่าที่ต่ำกว่า 50 จะให้ผลบวกระยะสั้นทันทีต่อราคาทองคำ และค่าที่สูงเกิน 55 จะทำให้ทองคำร่วงแรงเช่นกัน

- 22:00 ยอดขายบ้านใหม่ เดือน ต.ค. และเดือน ก.ย.  –  ยอดขายบ้านใหม่กลับมาประกาศอีกครั้งหลังจากได้รับผลกระทบจาก Government Shutdown ในระยะสั้นตัวเลขยอดขายบ้านใหม่นั้นออกมาค่อนข้างผันผวน แต่เมื่อมองในภาพรวมตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา จะเห็นว่าตัวเลขยอดขายบ้านใหม่นั้นมีแนวโน้มที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นสัญญาณหนึ่งของการเริ่มฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งเป็นผลลบต่อราคาทองคำ

- 22:30 ยอดสต็อกน้ำมัน รายสัปดาห์  –  เป็นตัวเลขที่มีความผันผวนสูงมาก และมักออกมาผิดจากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้มาก ซึ่งส่งผลกระทบให้ราคาน้ำมันผันผวนแรงทุกครั้งที่ยอดสต็อกน้ำมันประกาศ แต่ราคาทองคำมักไม่ได้รับผลกระทบต่อตัวเลขนี้มากนัก

- 02:00 รายงานมุมมองเศรษฐกิจ โดย FOMC (Beige Book)  –  ความคิดเห็นต่อเศรษฐกิจในเขตที่ Fed แต่ละสาขาดูแล ซึ่งประธานแต่ละคนจะมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลดังกล่าวระหว่างกัน โดยจะมีการนำเสนอถึงความคิดเห็น, มุมมอง และรูปแบบนโยบายที่คาดว่าจะเหมาะสม รายงานฉบับนี้จึงเปรียบเสมือนคำบอกใบ้ต่อการกำหนดใช้มาตรการในอนาคตของ Fed  ดังนั้น จึงต้องติดตามในรายละเอียดว่ามีประเด็นใดบ้าง โดยเฉพาะความคืบหน้าของแผนการปรับลดมาตรการ QE และช่วงเวลาที่คาดว่าจะเริ่มใช้ โดยเฉพาะการเปิดเผยในคืนนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายในรอบปีนี้

ทองคำ   ราคาปรับตัวลงมาใต้เส้นแนวโน้มขาลงอีกครั้ง ทำให้หมดโอกาสกลับตัวเป็นขาขึ้น และแสดงสัญญาณเตือนให้ระวังแรงขายซ้ำหนัก ๆ ซึ่งจะทำให้ทองคำปรับตัวลงสู่จุดต่ำสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยแม้ในกราฟราย 1 ชม. จะปรากฏสัญญาณ divergence แต่จาก MACD ที่ข้ามไม่พ้นระดับ 0 ทำให้มีช่องว่างสำหรับการอ่อนตัวลงอีกมาก จึงมีความเสี่ยงที่ราคาดิ่งแรง สอดคล้องกับ DI- ที่พุ่งขึ้นพร้อมกับ ADX ที่เริ่มยืนยันแนวโน้มขาลงรอบใหม่  อย่างไรก็ตาม การร่วงรอบนี้อาจทำให้เกิดสัญญาณ technical rebound ขึ้นภายใน 1-3 วัน จากการเกิด divergence ซ้ำ แต่เนื่องจากติดวันหยุดหลายวัน การเก็งกำไรฝั่ง long จึงควรงดเว้นไว้ก่อน ส่วนฝั่ง short อาจถือลุ้นข้ามวันหยุดได้ แต่ต้องจับตาดูตลอดเพราะการหลุดต่ำกว่า 1,200 น่าจะมีแรงซื้อกลับระยะสั้นสวนขึ้นมาได้  สำหรับคืนนี้ ให้แนวต้านบริเวณ 1,220/1,225 ให้แนวรับบริเวณ 1,200/1,180

โลหะเงิน  ราคาร่วงกลับมาอยู่ใน channel ขาลง พร้อมกับทำจุดต่ำสุดใหม่เช่นเดียวกับราคาทองคำ แต่มีแรงซื้อเข้ามาเป็นระยะ ๆ โดย MACD กำลังตัดเส้น signal ลงมา แต่ RSI เข้าเขต oversold แล้ว จึงคาดว่าโลหะเงินน่าจะมีความผันผวนสูงกว่าทองคำ แต่การรีบาวน์น่าจะทำได้ดีกว่า จึงอาจรอจังหวะดักเก็งกำไรจาก technical rebound เมื่อราคาร่วงหนัก   สำหรับคืนนี้ ให้แนวต้านบริเวณ 19.1/19.2 และให้แนวรับบริเวณ  18.4/18.1

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/
http://classicgoldfutures.blogspot.com
Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น