วันพฤหัสบดีที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2560

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 16 มิถุนายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 16 มิถุนายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold เรามองว่าการเคลื่อนไหวของตลาดทองคำตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมามีลักษณะ “ทรงตัวกับทรุด” จากปัจจัยลบในตลาดโดยเฉพาะคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ในครั้งต่อไป อย่างไรก็ตามปัจจัยบวกสำหรับตลาดทองคำก็ยังคงมีให้เห็นจากดัชนีทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประกาศไม่สดใส/ต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาดแต่ก็ไม่สามารถพยุงให้ตลาดทองคำกลับมาเคลื่อนไหวในแดนบวกได้อย่างมีนัยสำคัญ แนะนำนักลงทุนวางกลยุทธ์ตามการเคลื่อนไหวในลักษณะ “ทรงตัวกับ Key Factors • Gold การเคลื่อนไหวของตลาดทองคำตลอดกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาดูไม่ค่อยสดใสมากนักแม้จะได้รับปัจจัยบวกบ้างแต่ไม่ต่อเนื่องและก็ไม่สามารถพยุงตลาดให้กลับมาเคลื่อนไหวในแดนบวกได้อย่างมีนัยสำคัญ สำหรับในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ได้รับปัจจัยลบกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่กลับมาแข็งค่าเพิ่มขึ้น(แต่ยังถือว่าอ่อนค่าอยู่) จากคาดการณ์ของนักลงทุนในตลาดต่อประเด็นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ อีกครั้งในปีนี้ ประกอบกับแรงขายจากกองทุนหลักอย่าง SPDR ซึ่งลดสถานะการถือครองทองคำท่ำสู่ระดับ 853.68 ตัน กดดัน Sentiment ในภาพรวมของตลาดทองคำอีกครั้ง สำหรับการเคลื่อนไหวในวันนี้ไปจนถึงตลอดค่ำคืนตามเวลาประเทศไทยเราคงมุมมอง Short Position จาก Sentiment เชิงลบในตลาดโดยคาดการณ์ว่าตลาดทองคำจะเคลื่อนไหว “ทรงตัวกับทรุด” ไปก่อนจนสิ้นสัปดาห์นี้ Exclusive News • ทองคำร่วงลงแตะจุดต่ำสุด 3 สัปดาห์: ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ร่วงลง 7.18 ดอ ลลาร์ สู่ 1,253.50 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี หลังจากดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 3 สัปดาห์ที่ 1,251.18 USD/toz ในระหว่างวัน โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ในขณะที่นักลงทุนเริ่มต้นประเมินความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้และโอกาสดังกล่าวก็ได้รับแรงหนุนจากตัวเลข ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ • ดอลลาร์แข็งค่ารับข้อมูลเศรษฐกิจแกร่งหนุนเฟดขึ้นดอกเบี้ยอีก: ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ในวันพฤหัสบดี ขณะที่การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐช่วยสนับสนุนแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังคงคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไปในปีนี้ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งวัดค่าดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้า 6 สกุลเงินสำคัญปรับตัว ขึ้นสู่ระดับ 97.557 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค. Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ • Strategy : คงมุมมอง Short Position วางกลยุทธ์ตามการเคลื่อนไหวในลักษณะ “ทรงตัวกับทรุด” [/color] [color=#0066FF] Smart Stock Today Strategy: ราคาน้ำมันดิบกดดัน Upside ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงเคลื่อนไหวไร้ทิศทางในภาพรวมและยังคงไร้ปัจจัยบวกภายในประเทศที่มีนัยสำคัญพอจะชี้นำการเคลื่อนไหวได้ โดยที่ตลอดระยะเวลากว่า 2 สัปดาห์การเคลื่อนไหวส่วนใหญ่ถูกกำหนดโดยปัจจัยภายนอกเป็นหลักทั้งฝั่งสหรัฐฯ และยุโรปซึ่งส่งผลต่อกระแสเงินทุนที่ไหลเข้า/ออก สลับกันตลอดสัปดาห์ สำหรับเมื่อวานนี้ก็เช่นกันดัชนีตลาดหุ้นเริ่มกลับมาเคลื่อนไหวผันผวนไร้ทิศทางในระหว่างวันและปรับตัวลดลงอีกครั้งโดย SET Index ปิดตลาดที่ระดับ 1,573.53 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ยังทรงตัวที่ระดับ 39,961.78 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติยังคงกลับมาขายสุทธิที่ -196.30 ล้านบาท รวมสะสมตั้งเเต่ต้นเดือนมิถุนายนกว่า -4,844.86 ล้านบาท กดดัน Sentiment ของตลาดอยู่อย่างต่อเนื่อง ในส่วนของสัญญาฯ S50M17 ปิดตลาดที่ระดับ 991.10 จุด สำหรับการเคลื่อนไหวในวันนี้เรามองว่ามีแนวโน้มที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวในแดนลบและได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบซึ่งส่งกระทบต่อกลุ่มพลังงานภายในประเทศจากอุปทานส่วนเกินที่ยังคงไม่สามารถแก้ไขได้ในเวลาอันสั้น • Strategy : ให้น้ำหนักฝั่ง Short Position ในระหว่างวัน ปัจจัยที่ต้องติดตาม - ค่าเงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องที่ระดับ 33.96 บาท/USD - ราคาน้ำมันดิบ WTI(NYMEX) ที่ยังคงเคลื่อนไหวลดลงต่ำกว่าระดับ 45 USD/bbl ข่าวในประเทศ - ศก.โลกป่วนสหรัฐฯ ลดขาดดุลงบฯ: กระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังจากเฟด ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1-1.25% ต่อปี ว่าเป็นเรื่องที่ตลาดมีการคาดการณ์ไว้ แต่สิ่งที่ต้องจับตาคือการปรับลดการขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ ที่จะลดลงแสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ จะลดแรงการกระตุ้นเศรษฐกิจให้น้อยกว่าเดิม มีนโยบายเข้มงวดไม่ผ่อนคลายเหมือนที่ผ่านมา - คาด 3 ปี ไอโอทีดันเงินสะพัด 3.4 หมื่นล. กสทช.เร่งจัดสรรคลื่นรับตลาดโต: กสทช. เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีการสื่อสารมีการพัฒนาและเกิดรูปแบบใหม่ในการทำธุรกิจผ่านระบบ Internet of Things (ไอโอที) จากข้อมูลสถิติพบว่าปัจจุบันมีอุปกรณ์ไอโอทีที่เชื่อมต่อกันกว่า 13,000 ล้านชิ้น และคาดการณ์ว่าภายในปี 62 การใช้งานในหลายภาคส่วนจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้เศรษฐกิจโลกถึง 1.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นประมาณร้อยละ 10 จีดีพีของสหรัฐอเมริกา - (THAIM17)บอร์ดทีจีไม่เพิ่มทุนนกแอร์ อ้างเร่งฟื้นฟูไทยสมายล์ Q2 เคบินแฟคเตอร์ 80%: การบินไทยอ้างเหตุไม่ได้เพิ่มทุน NOK รอแผนฟื้นฟูที่ชัดเจน พร้อมต้องเร่งเดินหน้าดูแลไทยสมายล์ที่ขาดทุน พร้อมเผยเล็งปรับทีโออาร์สรรหาดีดี เปิดกว้างมากขึ้น เตรียมชงบอร์ดอนุมัติแผนจัดหาเครื่องบิน 28 ลำช่วง 5 ปี อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น