วันพุธที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2560

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 15 มิถุนายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

[b][color=green]บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 15 มิถุนายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ทองคำถูกเทขายออกระหว่างค่ำคืนที่ผ่านมาในช่วงก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเป็นทางการในขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับไม่ตอบรับประเด็นดังกล่าวเท่าที่ควร ด้านค่าเงินดอลลาร์ก็ยังคงเคลื่อนไหวอ่อนค่าไม่ได้รับประโยชน์จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์ โดยการปรับตัวลงของทองคำส่วนหนึ่งเรามองว่ามาจากการปรับลดสถานะการถือครองทองคำของทองคำของกองทุน SPDR ซึ่งลดสถานะค่อนข้างมาก Key Factors • Gold ตลาดทองคำมีแรงขายออกมาค่อนข้างรุนแรงโดยเฉพาะในช่วงก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 100-125 Basis Point เพื่อให้สอดรับกับสภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่กำลังฟื้นตัวประกอบกับการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำเป็นเวลานานมีผลต่อการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจอื่นๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กดดันให้ราคาทองคำถูกเทขายร่วงลงในช่วงกว่า 20 ดอลลาร์ในตลอดค่ำคืนที่ผ่านมา ในขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้งสามดัชนีหลักกลับไม่ค่อยตอบรับประเด็นดังกล่าวเท่าที่ควรและเคลื่อนไหวทรงตัวปิดบวก/ลบ สลับกัน ส่วนหนึ่งเรามองว่าเป็นผลมาจากการปรับสถานะลงทุนของกองทุน SPDR ซึ่งขายออกค่อนข้างมาก สำหรับวันนี้เรามองว่าตลาดทองคำเริ่มกลับมามีแรงซื้ออีกครั้งหลังนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลต่อประเด็นการปรับขึ้นอัตตราดอกเบี้ยนโยบาย แนะนำนักลงทุนกลับมาเปิดสถานะ Long Position ในกรอบได้อีกครั้ง Exclusive News • ทองร่วงลงหลังเฟดเผยผลประชุม: ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ร่วงลง 4.67 ดอลลาร สู่ 1,260.68 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันพุธหลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25 % แต่ไม่ได้แสดงแนวโน้มแบบสายพิราบมากเท่ากับที่นักลงทุนเคยคาดการณ์กันไว้ ทางด้านดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงิน ดิ่งลงอย่างมากในช่วงแรก ก่อนจะลดช่วงติดลบกลับขึ้นมาได้เกือบหมด • ดอลล์ดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดรอบ 7 เดือนรับแถลงการณ์เฟด: ดอลลาร์ทรงตัว ในวันพุธโดยฟื้นตัวจาก การติดลบในช่วงเช้า หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ยตามคาดและระบุว่าเฟดเตรียมที่จะคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไป Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ • ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ • แรงขายของสินทรัพย์เสี่ยง • Strategy : ฝั่ง Long Position ได้เปรียบระหว่างวันหากราคาเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1,260 USD/toz ระหว่างวัน [/color] [color=#0066FF] Smart Stock Today Strategy: ผันผวนในกรอบที่กว้างขึ้น เมื่อวานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตั้งแต่เปิดตลาดภาคเช้าสวนทางกับตลาดอื่นๆในภูมิภาคซึ่งเผชิญแรงขายและปิดตลาดในแดนลบกันเป็นส่วนใหญ่ โดยสิ่งที่เราพิจารณาเป็นข้อสังเกตคือนักลงทุนในตลาดส่วนมากทั้ง นักลงทุนรายย่อย, นักลงทุนต่างชาติและบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ มีสถานะขายสุทธิทุกกลุ่มในขณะที่ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญระหว่างวัน โดยที่ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ระดับ 1,577 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ไม่มากไม่น้อยที่ระดับ 39,506.41 ล้านบาท ในขณะที่สัญญา S50M17 ปิดตลาดในแดนบวกเช่นกันแต่เคลื่อนไหวผันผวนกว่าที่ระดับ 992.40 จุด สำหรับวันนี้เรามองว่าในภาคเช้าตลาดอาจมีแรงขายและส่งผลให้ตลาดเคลื่อนไหวผันผวนจากการปรับสถานะของนักลงทุนหลังการประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างเป็นทางการของธนาคารกลางสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ แนะนำนักลงทุนถือเงินสดรอพิจารณาสถานการณ์การเคลื่อนไหวในภาคเช้าก่อนค่อยเปิดสถานะลงทุน • Strategy : พิจารณา Sentiment ของตลาดในภาคเช้าก่อนค่อยเปิดสถานะลงทุน ปัจจัยที่ต้องติดตาม - ค่าเงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง - Sentiment หลังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ข่าวในประเทศ - บาทแข็งรอบ3ปีหลุด34บาท เงินต่างชาติทะลัก1.37แสนล. นักลงทุนไม่มั่นใจถือดอลลาร์: ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยว่าค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐในวันที่ 14 มิ.ย.แข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 33.9 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี นับตั้งแต่ เดือน ก.ค.58 โดยแข็งค่าขึ้นจากปิดตลาดเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่ระดับเกิน 34 บาทต่อดอลลาร์ โดยสาเหตุที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาจากปัญหาของสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจในการถือครองดอลลาร์ ส่งผลให้มีเงินทุนต่างประเทศเคลื่อนย้ายเข้ามาในไทยตลอดทั้งปีเกินกว่า 1 แสนล้านบาท - จี้คลัง-ธปท.คุมเงินไฮเทค ล้อมคอกคนไทยถูกหลอก: รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าได้มอบหมาย ให้กระทรวงการคลัง ร่วมมือกับ ธปท. ปรับปรุงกฎระเบียบให้เหมาะสมกับฟินเทค ว่าควรนำมาปรับใช้กับไทยหรือไม่ซึ่งเชื่อว่าในส่วนนี้ ธปท.รู้และสามารถปรับหลักเกณฑ์ให้เหมาะสมได้ ขณะเดียวกันเร่งปฏิรูประบบการเงินการคลังให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกเหมือนกับประเทศอื่น ที่เริ่มต้นทำเรื่องนี้ไปแล้ว - (BTSM17)BTS พื้นฐานเปลี่ยน ผลงานปีนี้โตเท่าตัว บุ๊กเดินรถ 7.5 พันล.: BTS พื้นฐานเปลี่ยนแรง โบรกประเมินคาดรายได้-กำไรหลักโตเกือบเท่าตัว เล็งบุ๊กการเดิน สายเขียวเหนือ-ใต้ กว่า 7.5 พันล้านบาทา จ่อเซ็นสายสีชมพู-เหลือง กลางเดือนมิ.ย.นี้ อนาคตรับเดินรถสายสีอื่นต่อเนื่อง อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android [/color][/b]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น