วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2554

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ เงิน วันที่ 6 กันยายน 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ เงิน วันที่ 6 กันยายน 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

ราคาทองคำมีแนวรับที่1,850 แนวต้านที่ 1,930 แนวโน้มราคายังคาดว่าเพิ่มต่อเนื่อง แต่อาจจะมีการปรับตัวลดลงเพื่อปรับฐานเป็นระยะๆ

ปัจจัยพื้นฐานยังผลักดันราคาทอง


ความวิตกเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ยูโรโซนทำให้ราคาทองเพิ่มเหนือระดับ 1,900 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ โดยตลาด COMEX เปิดตลาดอยู่ที่1,899 ดอลลาร์/ออนซ์ คาดว่าความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับวิกฤติหนี้ของยูโรโซนทำให้นักลงทุนพากันเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ในขณะที่ยุโรปก็กำลังเผชิญกับบททดสอบทางการเมืองและทางกฎหมายในสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจกระทบความพยายามแก้ไขวิกฤติหนี้ ขณะที่ประเทศที่มีหนี้สินสูงในยุโรปใน กลุ่ม PIIGS ก็โดนแรงกดดันจากประเทศสมาชิกยุโรป ต่างๆ ให้หาทางแก้ไขปัญหาการเงินของประเทศ แม้นว่ายังไม่มีแนวโน้มว่ากลุ่มประเทศนี้จะขายทองออกมาในช่วงนี้ เนื่องจากราคาทองในปัจจุบันอยู่ในระดับที่สูงมาก และเพิ่งทำสถิติสูงสุดที่ระดับใกล้ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์แม้นว่ารัฐบาลโปรตุเกส, กรีซ และสเปนครอบครองทองในคลังสูงกว่า 750 ตันในปัจจุบัน หรือราว 17 % ของปริมาณอุปทานทองในปี 2010 ที่ได้จากเหมืองทอง กลุ่มประเทศ PIIGS ซึ่งประกอบด้วยโปรตุเกส, ไอร์แลนด์, อิตาลี, กรีซและสเปนยังไม่ได้นำทองสำรองออกขายเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ในช่วงนี้ ถึงแม้ประเทศกลุ่มนี้มีภาระหนี้สูงมาก

อย่างไรก็ดี โปรตุเกส, ไอร์แลนด์ กับกรีซได้ขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศไปแล้วเป็นมูลค่าหลายพันล้านยูโร นายแฟรงค์ แชฟเลอร์ นักการเมืองของเยอรมนี กล่าวว่าโปรตุเกสควรจะขายสินทรัพย์ของตัวเอง "โดยเฉพาะทองสำรอง ก่อนที่จะเอาเงินของคนอื่นมาเสี่ยง" อย่างไรก็ดี เสียงเรียกร้องดังกล่าวเป็นการมองข้ามความจริงที่ว่า ทองไม่ใช่ทรัพย์สินที่รัฐบาลกลุ่ม PIIGS สามารถขายได้ อิตาลีเป็นประเทศที่ถือครองทองมากเป็นอันดับ 4 ของโลก และถือครองทองมากที่สุดในกลุ่ม PIIGS โดยอิตาลีถือครองทองราว 2,450 ตัน หรือคิดเป็นมูลค่าราว9.5 หมื่นล้านยูโรตามราคาปัจจุบันอย่างไรก็ดี ถ้าหากอิตาลีขายทอง 2,450 ตันออกมา การกระทำดังกล่าวก็จะส่งผลให้ราคาทองทรุดตัวลงอย่างรุนแรง และจะเป็นการทำลายความเชื่อมั่นในความสามารถของรัฐบาลอิตาลีถึงแม้ไม่มีการขายทอง แต่ประเทศที่มีหนี้สินสูงก็มีทางเลือกอื่นๆในการใช้ประโยชน์จากทอง


แหล่งข่าวในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 หรือ G 7 กล่าวว่า ผู้นำกลุ่มจี-7 มีแนวโน้มที่จะทำข้อตกลงกันใน สัปดาห์นี้ในการทำให้นโยบายการเงินอยู่ในภาวะผ่อนคลายต่อไปพร้อมกับดำเนินการปฏิรูปโครงสร้าง ทั้งนี้รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ,แคนาดา, ญี่ปุ่น, เยอรมนี, ฝรั่งเศส, อิตาลี และอังกฤษจะประชุมกันในวันศุกร์นี้ที่เมืองท่ามาร์เซยส์ของฝรั่งเศสเพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโลกโดยประเด็นสำคัญจะเป็นเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและวิธีการที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหาทั้งเช่น ราคาน้ำมันที่ระดับสูงและปัจจัยอื่นๆ ซึ่งได้แก่วิกฤติหนี้รัฐบาล และความขัดแย้งในการปรับเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐ กลุ่มจี-7 ไม่ได้วางแผนที่จะออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการหลังการประชุมครั้งนี้แต่ฝรั่งเศสซึ่งเป็นประธานการประชุมอาจจะออกแถลงการณ์สรุป

การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาทองคำมีแนวรับที่1,850 แนวต้านที่ 1,930 แนวโน้มราคายังคาดว่าจะปรับเพิ่ม โดยอาจมีการปรับตัวลดลงเพื่อปรับฐานเป็นระยะๆ
ราคาโลหะเงินมีแนวรับที่ 42.3 และแนวต้านที่ 44.2 จาก MACD และ CCI อาจจะเกิดการปรับฐานเป็นช่วงๆ

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th/
http://www.classicgold.co.th/
http://www.chiabsengheng.co.th/
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgg
http://classicgoldfutures.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น