วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2554

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ เงิน วันที่ 30 กันยายน 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ เงิน วันที่ 30 กันยายน 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)



++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,580 /1,530 แนวต้านที่ 1645 /1,679 สัญญาณระยะสั้นในราย 240 นาที เส้นค่าเฉลี่ย MA 25 วัน กดไว้ หากผ่าน 1,645 / 1,679 เป็นสัญญาณดี คาดระยะสั้นราคาเคลื่อนไหวในกรอบ 1,580 - 1,645


ราคาทองคำในตลาดเอเชียเปิดตลาดตอนเช้าวันที่ 30 ก.ย.ที่บริเวณ 1,601 USDต่อออนซ์ โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวระหว่าง 1,601 – 1,640 USD ต่อออนซ์ ราคาเปลี่ยนแปลงผันผวนระหว่างวันหลังจากผลประชุมของเยอรมันเมื่อวานนี้ออกมาปรากฏว่ามีมติให้ความเห็นชอบในการเพิ่มวงเงินกองทุน EFSF เนื่องจากตลาดคาดการณ์ไปแล้วว่า รัฐสภาเยอรมันจะลงมติเห็นชอบ ทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นไปก่อนหน้าตั้งแต่วันอังคารที่ 27 ก.ย. หลังจากนั้นเกิดความกังวลต่อความไม่แน่นอนทำให้ราคาปรับลดลงเมื่อวันพุธ ครั้นถึงเมื่อมีมติเห็นชอบทำให้ราคาไม่ปรับขึ้นมากนัก ส่วนประเด็นที่ต้องติดตามในช่วงนี้ ได้แก่ สหรัฐประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจ และตัวเลขเศรษฐกิจของจีน ขณะที่ประเด็นปัญหาหนี้สินของกรีซก็มีผลต่อต่อราคาสินทรัพย์เสี่ยงทั้งในตลาดทองคำ และหุ้น ราคาอาจมีความผันผวนแกว่งตัวแบบ side way ในช่วงนี้

รัฐสภาเยอรมนีมีมติด้วยคะแนนเสียง 523 ต่อ 85 ให้ขยายเงินทุนและประสิทธิภาพของกองทุน EFSF ซึ่งปัจจุบันมีวงเงินอยู่ 4.40 แสนล้านยูโร (5.99 แสนล้านดอลลาร์) โดยมติดังกล่าวจะเปิดทางให้กองทุน EFSF เข้าไปลงทุนในตลาดหลัก เพิ่มทุนให้กับภาคธนาคาร และมีศักยภาพเพิ่มขึ้นในการให้ความช่วยเหลือประเทศยูโรโซนที่ประสบปัญหา การผ่านมติดังกล่าวได้ช่วยคลี่คลายความวิตกในตลาดลงได้ ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงทั้งในตลาดหุ้น และสินค้าโภคภัณฑ์มีแรงซื้อเพิ่มขึ้น แต่การปรับขึ้นจะอยู่ในกรอบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนส่วนหนึ่งอาจรอดูความชัดเจน กรณีการชำระหนี้ของกรีซในระยะต่อไป นอกจากรัฐบาลเยอรมนีมีมติให้ความเห็นชอบต่อการขยายอำนาจของ EFSF ประเทศสมาชิกยูโรโซนอีก 10 ประเทศได้มีมติเห็นชอบไปแล้วเช่นกัน ส่วนประเทศสมาชิกยูโรโซนที่เหลืออีก 6 ประเทศจะ ลงมติในเรื่องนี้ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ปัญหาหนี้สินกรีซ น่าจะมีความชัดเจนได้ในช่วงต้นสัปดาห์หน้า ว่าจะได้รับความช่วยเหลือหรือไม่ ซึ่งหากได้รับความช่วยเหลือก็จะเป็นปัจจัยผลักดันทางบวกต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงและค่าเงินยูโร แต่หากไม่ได้รับความช่วยเหลือก็มีความเสี่ยงสูงที่จะผิดนัดชำระหนี้ ซื่งต้องคงต้องรอดูความชัดเจนต่อไป โดยยุโรปจำเป็นต้องใช้มาตรการที่มีขนาดใหญ่ขึ้นในการสกัดกั้นการลุกลามของวิกฤติหนี้

เศรษฐกิจสหรัฐ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวสหรัฐที่ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกร่วงลง 37,000 คน สู่ 391,000 คน ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดรอบ 5 เดือน ส่วนกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 2/2011 เพิ่มขึ้น 1.3%จากประมาณการครั้งก่อนที่ 1.0% และสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ที่ 1.2% ช่วยให้นักลงทุนลดความกังวลเรื่องการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และช่วยหนุนหุ้นกลุ่มวัฏจักรเศรษฐกิจให้ปรับขึ้น ซึ่งเป็นผลบวกต่อเศรษฐกิจ และตลาดหุ้นดาวน์โจนส์


ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ภาคการผลิตของจีนหดตัวลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนก.ย.ซึ่งบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกได้รับผลกระทบจากชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกทั้งนี้ เอชเอสบีซีเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ทรงตัวที่49.9 ในเดือนก.ย. โดยไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนส.ค. โดยดัชนี PMI บ่งชี้ถึงภาวะธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งถือเป็นระยะเวลาที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินระดับโลก ทำให้เกิดความวิตกว่า จีนจะไม่สามารถช่วยผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกเหมือนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพื่อชดเชยกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรป ภาคการค้าจะเผชิญกับความเสี่ยงเพิ่มขึ้น แต่การขยายตัวของการส่งออกในช่วงที่ผ่านมามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และจีนยังไม่ได้เผชิญกับการทรุดตัวของอุปสงค์ทั่วโลกเหมือนในปี 2009

การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์หน้า (3-7 ต.ค.) มีดังนี้:-
วันจันทร์ ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนส.ค. ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ย. วันอังคาร ยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนส.ค. วันพุธ ตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศเดือนก.ย. ดัชนีภาคบริการเดือนก.ย. ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันพฤหัสบดี จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ วันศุกร์ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย. สต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนส.ค.

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,580 /1,530 แนวต้านที่ 1645 /1,679 สัญญาณระยะสั้นในราย 240 นาที เส้นค่าเฉลี่ย MA 25 วัน กดไว้ หากผ่าน 1,645 / 1,679 เป็นสัญญาณดี คาดระยะสั้นราคาเคลื่อนไหวในกรอบ 1,580 - 1,645
++ ราคาโลหะเงินมีแนวรับที่ 29.6 / 28.5 และแนวต้านที่ 31.5 / 32.8 / 33.3 ในราย 240 นาที มีเส้น MA 25 กดไว้ คาดราคาเคลื่อนไหวในกรอบ 29.6 – 32.8

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th/
http://www.classicgold.co.th/
http://www.chiabsengheng.co.th/
http://www.facebook....lassicgoldgroup/
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgg
http://classicgoldfutures.blogspot.com/
http://itunes.apple....d464234361/?mt=8


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น