วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2554

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ เงิน วันที่ 26 กันยายน 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ เงิน วันที่ 26 กันยายน 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,560 1,536 แนวต้านระยะสั้นที่ 1,645 – 1,655 1,690 ระยะสั้นเส้น MA 5 ยังกดไว้ คาดว่าราคาเคลื่อนไหวในกรอบ ถ้าราคาไม่สามารถผ่าน 1,645 – 1,655 ก็จะลงมารับที่ 1,560 ถ้าราคาสามารถผ่าน 1,655 มีโอกาสไปถึง 1,690

ราคาผันผวนแรง

ราคาทองคำในตลาดเอเชียเปิดตลาดตอนเช้าวันที่ 26 ก.ย.ที่บริเวณ 1,655 USDต่อออนซ์ โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวระหว่าง 1,532 – 1,663 USD ต่อออนซ์ ราคาเคลื่อนไหวต่ำกว่า เส้น Moving ระยะสั้น 5 วัน และมีบางช่วงที่ rebound แต่ไม่สามารถผ่าน MA 5 วันได้ ราคาจึงปรับลดลงมาอีก อย่างไรก็ตาม การปรับลดลงแรงในช่วงบ่ายวันจันทร์โดยลงไปทำ low บริเวณ 1,532 และมีการ rebound ขึ้นในระยะสั้น ซึ่งเมื่อพิจารณากราฟในราย 60 นาที 30 นาทีจะเห็นว่า มีแรง rebound กลับได้ดีและเร็ว คาดว่ามีโอกาสที่ราคาจะวิ่งไปถึง 1,655 / 1,690 USDต่อออนซ์

สำหรับปัจจัยที่นักลงทุนต้องจับตามองและคาดว่าจะมีผลกระทบต่อราคาทองคำในช่วงนี้ ได้แก่ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐและยุโรป ปัญหาหนี้ของกรีซ การที่ CME เพิ่มมาร์จิ้นของทองคำอีก 21.5% การถือครองทองคำของ IMF และผลประชุม G20 / EU

สถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐ นักลงทุนยังขาดความเชื่อมั่นต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจโลก หลัง Fed ใช้นโยบายว่าจะคงนโยบายดอกเบี้ยต่ำต่อไป ด้วยการออกพันธบัตรระยะยาวทดแทนพันธบัตรอายุสั้น วงเงิน 4 แสนล้านเหรียญฯ (Operation Twist) โดยนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่านโยบายดังกล่าว ไม่น่าจะช่วยแก้ไขปัญหาว่างงานที่สูงถึง 9.1%

สหภาพยุโรป ปัญหาขาดสภาพคล่องได้ขยายตัวในวงกว้าง โดยเฉพาะ ธ.พ. ยุโรป เพิ่มความระมัดระวังในการปล่อยกู้ระหว่างกัน ซึ่งปัญหาคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ในช่วงซับไพร์ม คาดว่าจะเป็นอุปสรรคต่อการค้าระหว่างประเทศที่ต้องอาศัยสินเชื่อการค้า (Trade Financing ผ่านการเปิด L/C และ T/R) โดยสรุปปัจจัยนี้ยังมีน้ำหนักถ่วงค่าเงินยูโร และทำให้ค่าเงินดอลล่าร์ยังแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งน่าจะกดดันให้ราคาน้ำมันดิบโลก และหุ้นที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ อ่อนตัวต่อ

ปัญหาหนี้ของกรีซ การที่กรีซมีมาตรการรัดเข็มขัดเพิ่มเติมฉบับใหม่เพื่อช่วยให้ได้รับเงินช่วยเหลือจาก IMF และ EUจนถึงปี 2557 และไม่ต้องประสบกับภาวะขาดแคลนเงินสดในเดือนต.ค.นี้ แต่ทำให้ชาวกรีซกว่า 3 พันคนประท้วงบนถนนสายต่างๆ โดย รมว.คลังกรีซได้กล่าวต่อสมาชิกรัฐสภาว่า เขาคาดว่ามีความเป็นไปได้ 3 ทางในการคลี่คลายวิกฤติหนี้กรีซ โดยความเป็นไปได้ทางแรก คือ การที่กรีซจะผิดนัดชำระหนี้อย่างเป็นระเบียบ โดยใช้วิธี "haircut" หรือการปรับลดมูลค่าหลักทรัพย์ที่นำมาใช้ค้ำประกันการกู้ยืมสำหรับผู้ที่ถือพันธบัตรของกรีซ หรือเท่ากับว่ากรีซเข้าข่ายผิดนัดชำระหนี้ในลักษณะที่สามารถจัดการได้ โดยขอให้ผู้ถือครองพันธบัตรรัฐบาลกรีซปรับลดหนี้ลง 50% ความเป็นไปได้ทางที่สองก็คือการผิดนัดชำระหนี้อย่างไม่เป็นระเบียบ และความเป็นไปได้ทางที่สาม คือ การดำเนินการตามแผนให้ความช่วยเหลือทางการเงินรอบสองซึ่งมีขนาด 1.09 แสนล้านยูโร (1.46 แสนล้านดอลลาร์) โดยกรีซกับกลุ่มเจ้าหนี้ได้ตกลงกันเรื่องมาตรการให้ความช่วยเหลือนี้เมื่อวันที่ 21 ก.ค.54 ซึ่งหากเป็นจริงก็ส่งผลกระทบกับสถาบันการเงินและประเทศต่างๆที่มีการลงทุนในพันธบัตรของกรีซ โดยเฉพาะประเทศขนาดใหญ่ในยุโรปอย่างสเปน, อิตาลี, ฝรั่งเศส และเยอรมัน นักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่า ยุโรปอาจจำเป็นต้องใช้กองทุนกู้วิกฤติที่มีขนาดราว 2 ล้านล้านยูโร ถ้าหากวิกฤติหนี้ลุกลามไปถึงสเปนและอิตาลี

CME เพิ่มมาร์จิ้นของทองคำอีก 21.5% และมีผลบังคับใช้ในวันจันทร์นี้ซึ่งจะส่งผลลบต่อราคาทองคำได้พอควร จากดีมานต์ที่ลดลงไป และข้อมูลจากคณะกรรมการการค้าสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ (CFTC) ของสหรัฐระบุว่า นักลงทุนลดการถือครองสัญญาล่วงหน้าและออปชั่นทองลงเป็นสัปดาห์ที่ 6 ในรอบ 7 สัปดาห์ที่ผ่านมา

IMF มีที่ท่าว่าจะมีเงินไม่เพียงพอในการให้กู้กับประเทศที่มีปัญหาทางด้านการเงิน หาก IMF ประกาศระดมเงินทุนโดยการขายทองคำอีกจะเป็นปัจจัยลบต่อตลาดทองคำได้มาก ซึ่งในตอนนี้ IMF ถือว่ามีการถือครองทองคำมากเป็นอันดับ 3 รองจาก สหรัฐและเยอร์มัน โดยเชื่อว่าหากมีการขายออกมาจริงตามข้อสังเกต จะเป็นการขายให้กับธนาคารกลางเป็นส่วนใหญ่ ผ่านตลาดไม่มากนัก แต่อย่างไรก็ตามข่าวการขายทองคำของ IMF จะส่งผลลบต่อตลาดได้รุนแรงในระยะสั้นก่อน

การประชุม G20 และ IMF ไม่ได้ลงรายละเอียดเรื่องการแก้ปัญหาวิกฤติยูโรโซน แต่เน้นภาพใหญ่เกี่ยวกับการเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหาร, ฟื้นฟูสาธารณูปโภคพื้นฐานในประเทศยากจน และเสริมสร้างเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น

เจ้าหน้าที่ยุโรปก็มุ่งความสนใจไปยังวิธีการต่างๆในการเพิ่มเงินทุนในกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ซึ่งมีวงเงิน 4.40 แสนล้านยูโรในปัจจุบัน แต่ต้องผ่านร่างอนุมัติขยายกองทุน EFSF ซึ่งต้องลุ้นให้เยอรมัน Vote ผ่านรัฐสภาของเยอรมันในวันพฤหัสบดีที่ 29 ก.ย.

ผลสรุปในประเด็นทั้งหมดไม่สามารถทำให้นักลงทุนมั่นใจต่อการแก้ปัญหาทางของเศรษฐกิจโลก จึงได้เทขายเลี่ยงสินทรัพย์ทุกประเภท และหันมาถือครองเงินสดสกุลดอล์ล่าร์แทน

การประชุมที่ต้องติดตาม
การประชุมสภาของเยอรมัน ในวันที 29 ก.ย. 54 เกี่ยวกับเรื่องการเพิ่มขนาดกองทุน EFSF ซึ่งจะต้องผลักดันให้ผ่าน

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,560 1,536 แนวต้านระยะสั้นที่ 1,645 – 1,655 1,690 ระยะสั้นเส้น MA 5 ยังกดไว้ คาดว่าราคาเคลื่อนไหวในกรอบ
ถ้าราคาไม่สามารถผ่าน 1,645 – 1,655 ก็จะลงมารับที่ 1,560 ถ้าราคาสามารถผ่าน 1,655 มีโอกาสไปถึง 1,690
++ ราคาโลหะเงินมีแนวรับที่ 27 26 และแนวต้านที่ 29.6 30.9 34.8 ระยะสั้นคาดว่าราคาเคลื่อนไหวในกรอบ

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgg
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น