Today Strategy: Gold ราคาลงมาใกล้แนวรับรับสำคัญบริเวณ 1,360 อาจมีการ rebound สั้นๆอาจ Trading Long ลุ้น rebound ได้ แต่มีจุด Stop loss แต่ถ้าหลุดบริเวณ 1,360 แนะนำ เปิด Short SET50 บาทอ่อนยืน 32 บาทต่อUSD ชี้แนวโน้มเงินต่างชาติยังไม่ไหลกลับง่าย ๆ หุ้นไทยทำได้อย่างมากแค่ทรงตัว จึงยังเน้นฝั่ง short ต่อไป
• Gold ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานปิดลดลง 23.85 USDต่อออนซ์ ราคาปรับตัวลดลงแรง หลังจากหลุดแนวรับบริเวณ 1,385 ลงมา เมื่อตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐประกาศออกมาดี ได้แก่ การจ้างงานภาคเอกชน จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนี PMI นอกภาคการผลิต ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลในเรื่องเฟดจะลดขนาดมาตรการ QE ลง ในการประชุม FOMC วันที่ 17 – 18 ก.ย. นอกจากนี้ ค่าเงิน USD ที่แข็งค่าขึ้นมาก ECB และ BOE ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิม โดยจะใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินต่อไป ทำให้ค่าเงินยูโรร่วงลง BOJ ประกาศอัดฉีดเงินเพิ่มฐานเงิน ทำให้ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น และการที่สหรัฐจะยังไม่เข้าโจมตีซีเรียจนกว่าจะได้รับอนุมัติจากสภาคองเกรสเป็นปัจจัยที่กดดันราคาทองคำสำหรับในตลาดทองคำมีรายงานจากฮ่องกงว่า จีนนำเข้าทองคำจากฮ่องกงเพิ่มขึ้น 129.232 ตันในเดือนก.ค. ซึ่งมากกว่าเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 111.718 ตัน ส่วนการปรับตัวลดลงของราคาทองคำในช่วง 2 วันที่ผ่านมามีการปรับลดลงแรงกว่า 3% แล้ว และมาทำ low บริเวณ 1,365 ใกล้แนวรับสำคัญ 1,360 หากบริเวณนี้ไม่สามารถรับได้ ราคาทองคำมีโอกาสลงไปที่บริเวณ 1,320/1,300 สำหรับวันนี้คาดว่ามีแนวรับบริเวณ 1,360/1,350 ส่วนแนวต้านบริเวณ 1,385/1,400 แนะนำ เปิด Long โดยมีจุด Stop loss ถ้าหลุดบริเวณ 1,360 หรือเปิด Short เมื่อหลุด 1,360
• ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเพิ่มขึ้น 6.61 จุด เมื่อตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดี แต่นักลงทุนมีความกังวลในเรื่องที่เฟดจะลดมาตรการ QE
• USD/THB ปิดที่ 32.31 บาทต่อUSD เงินบาทอ่อนตัวลงแรง ส่วนเงิน USD แข็งค่าขึ้นมาก เมื่อตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดี และธนาคารกลางประเทศต่างๆคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำต่อไป
• Oil ราคาน้ำมัน Nymex พุ่งขึ้น เมื่อตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดีกว่าคาด และมีรายงานตัวเลขสต๊อคน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง
• Gold ปิดวันที่ 1,366.99 USDต่อออนซ์ มีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,364–1,399 USDต่อออนซ์ โดยในเช้าวันนี้ ราคาอยู่ที่บริเวณ 1,371 USDต่อออนซ์ คาดว่าวันนี้มีแนวต้านบริเวณ 1,385/1,400 และแนวรับ 1,360/1,350
• USD/THB ปิดที่ 32.31 บาทต่อUSD เช้านี้อยู่ที่บริเวณ 32.36 บาทต่อUSD วันนี้ให้แนวต้านบริเวณ 32.4/32.6 ให้แนวรับบริเวณ 32.2/32
• ICE Brent ปิดที่ 115.26 USDต่อบาร์เรล วันนี้ให้แนวต้านบริเวณ 115.6/116 ให้แนวรับบริเวณ 114.3/113.3
Spot Gold
ระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,250 – 1,450 แนะนำ Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน
ระยะกลาง : อยู่ในกรอบ 1,150 –1,500 สะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว
ระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,100 – 1,550 สะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว
Positive View( + )
• นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารต่างๆ ทั่วโลก
• สหรัฐอาจใช้กำลังทหารเข้าโจมตีซีเรีย
• เงินบาทอ่อนค่า
• ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น
Negative View( - )
• เฟดอาจยุติมาตรการ QE ในกลางปีหน้า
• ความต้องการทองคำในตลาด Physical
• ความกังวลในเศรษฐกิจยุโรป
• อินเดียออกมาตรการจำกัดการนำเข้าทอง
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้
• การประชุม G20 วันที่ 5 – 6 ก.ย.
[/color]
[color=#0066FF]
Spot Silver
โลหะเงินปรับตัวปรับตัวลดลงหลังไม่สามารถยืนอยู่เหนือเส้น uptrend line ได้ อีกครั้ง macd line อยู่ต่ำกว่าเส้น signal lineแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มเชิงลบ ราคามีโอกาสปรับตัวลดลงได้อีก
ให้แนวต้านบริเวณ 23.6 / 24
ให้แนวรับบริเวณ 22.8 / 22.4
Strategy: trading short
USD/THB
เงินบาทอ่อนค่าอีกครั้งในเช้าวันนี้ แตะระดับ 32.4 ราคามีโอกาสอ่อนค่าลงได้อีก ตราบใดที่ราคายังสามารถยืนอยู่เหนือเส้น moving average 200 ได้
ให้แนวต้านบริเวณ 32.4 / 32.6
ให้แนวรับบริเวณ 32.2 / 32
Strategy: trading long
ICE Brent
ราคาน้ำมันดิบ Brent เคลื่อนไหวในลักษณะ sideway ในกรอบแคบ โดย RSI อยุ่บริเวณ 50 แสดงให้เห็นว่ายังไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจน
ให้แนวต้านบริเวณ 115.6 / 116
ให้แนวรับบริเวณ 114.3 / 113.3
Strategy: trading ในกรอบ
SET 50
ดัชนี SET50 พยายามยืนเหนือระดับ 900 จุด แต่ไม่สำเร็จ โดยการเคลื่อนไหวบริเวณเส้น moving average ในขณะที่ macd ยังอยู่ในระดับติดลบ และ rsi ไม่ชี้ทิศทางต่อไปที่ชัดเจน จึงทำให้ภาพระยะสั้นยังคงเป็นขาลงต่อไป และเตือนว่าอาจมีการร่วงลงแรง ๆ อีกครั้ง
Strategy: ถือ short และ stop loss หากดัชนียืนเหนือ 900 จุด
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
- อิยิปต์ยังไม่สงบ ดันราคาน้ำมันสูงเพิ่มต้นทุนเอกชน
- ซีเรียเสี่ยงถูกพันธมิตรตะวันตกโจมตีหนุนน้ำมันทะยาน หลังโอบามายันจะโจมตีซีเรียหากได้รับอนุมัติจากรัฐสภา
- ค่าเงินบาทอ่อนค่าเหนือ 32 บาทต่อUSD แสดงความไม่เชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทย แม้รัฐมีแผนอัดฉีดกระตุ้นเศรษฐกิจในปลายปีนี้
ข่าวในประเทศ
- คลังและแบงค์ชาติเตรียมปรับเป้า GDP หลังตัวเลขส่งออกวูบหนัก ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของ ม.หอการค้าไทย ร่วง 9 เดือนติด
- สมาคมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ(TAFEX) กำลังหารือแนวทางการปรับเพิ่มส่วนต่างอัตราซื้อขายเงินตราต่างประเทศ จากปัจจุบันที่ 5 สตางค์/เหรียญสหรัฐ เป็น 8-10 สตางค์/เหรียญสหรัฐ เนื่องจากค่าเงินมีความผันผวนมากขึ้น โดยเปลี่ยนแปลงครั้งละ 20-30 สตางค์/เหรียญสหรัฐ ส่งผลให้บางช่วงขาดทุน โดยหากมีการปรับเพิ่ม จะช่วยให้มีกำไรเพิ่มเป็น 13-14% ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยกำลังพิจารณาผ่อนคลายระเบียบการขายคืน 80% ของเงินตราต่างประเทศที่ถือครองทั้งหมดทุกสิ้นเดือน ซึ่งคาดว่าจะทำให้ธุรกิจมีความคล่องตัวมากขึ้น
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/
http://classicgoldfutures.blogspot.com
Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น