ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,393 USDต่อออนซ์ ผันผวนระหว่างวันในกรอบ 1,381–1,393 USDต่อออนซ์ โดยรายงานล่าสุดถึงความเป็นไปได้ที่กลุ่มพันธมิตรชาติตะวันตกจะเข้าโจมตีซีเรียเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่กรรมาธิการวุฒิสภาสหรัฐมีมติเสียงข้างมากเห็นชอบกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ในการเข้าแทรกแซงอย่างระมัดระวังโดยกำหนดให้ใช้เวลาไม่เกิน 60 วัน หรือ เพิ่มได้อีก 30 วัน หากประธานาธิบดีเห็นชอบ แต่ห้ามส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปยังพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งเป็นการเปิดทางให้เกิดสงครามระยะสั้นได้ทันที เหลือเพียงการตัดสินใจของโอบามาเท่านั้น ที่อาจกำลังรอดูหลักฐานจากการเข้าตรวจสอบพื้นที่ของสหประชาชาติ และท่าทีของนานาชาติ โดยเฉพาะรัสเซีย, อิหร่าน และจีน ทำให้ราคาทองคำจะได้รับอานิสงค์เชิงบวกเมื่อเกิดภาวะสงครามในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย และยังได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากกรณีที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นด้วย นอกจากนี้ ราคาทองคำในประเทศยังได้เงินบาทที่อ่อนค่าช่วยหนุนให้ราคาปรับตัวขึ้นได้มากกว่าปกติ(หรือลดลงน้อยกว่าปกติ) อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำกำลังแกว่งตัวในกรอบ sideway down ซึ่งเป็นการปรับฐานหลังจากขึ้นมาประมาณ 160 USDต่อออนซ์ จึงมีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะยังไม่ส่งสัญญาณการปรับขึ้นได้จริงจนกว่าจะยืนเหนือระดับ 1,400 USDต่อออนซ์
ประธานธนาคารกลางสหรัฐสาขามินเนอาโพลิส นารายานา โคเชอร์ลาโคตา เผยว่า แนวโน้มเงินเฟ้อและอัตราว่างงานของสหรัฐบ่งชี้ว่ายังจำเป็นต้องมีมาตรการผ่อนคลายเพื่อหนุนเศรษฐกิจมากขึ้น ทั้งนี้ เขาเป็นผู้สนับสนุนโครงการซื้อพันธบัตรวงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน และได้เรียกร้องให้เฟดใช้มาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจเพิ่มเติมโดยการลดเพดานว่างงานลงเหลือ 5.5% หลังจากที่ FOMC ได้ให้คำมั่นว่า จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับใกล้ 0% ตราบเท่าที่อัตราว่างงานอยู่เหนือระดับ 6.5% และแนวโน้มเงินเฟ้อไม่เกิน 2.5%
ยอดเงินลงทุนจากต่างประเทศในพันธบัตรของเกาหลีใต้ในเดือน ส.ค.ปรับตัวลง 2.1 ล้านล้านวอน (1.9 พันล้านดอลลาร์) เนื่องมาจากการครบกำหนดไถ่ถอนของพันธบัตรจำนวนมากที่ออกโดยธนาคารกลางเกาหลีใต้ โดยเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน ที่ยอดดังกล่าวลดลง ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศมียอดซื้อพันธบัตรสุทธิในเดือน ส.ค. 1.6 ล้านล้านวอน ลดลงจากยอดซื้อสุทธิจำนวน 3.9 ล้านล้านวอน ในเดือน ก.ค.
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตาม
- 19:30 ธนาคารกลางยุโรป(ECB) แถลงนโยบายการเงินและมุมมองต่อเศรษฐกิจ – ตัวเลขเศรษฐกิจของหลายประเทศในยุโรปมีการฟื้นตัวขึ้นในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา แต่ยังไม่ยืนยันความแข็งแรงที่เด่นชัดต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน รวมทั้งปัญหาวิกฤติหนี้สาธารณะในประเทศกลุ่ม PIIGS ยังไม่ได้รับการแก้ไขโดยสมบูรณ์ ทำให้บางประเทศยังคงต้องขอรับเงินช่วยเหลืออยู่อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การเลือกตั้งทั่วประเทศของเยอรมันในวันที่ 22 ก.ย. อาจสร้างจุดเปลี่ยนให้กับแนวทางการดำเนินนโยบายในยูโรโซนของเยอรมันก็ได้ จึงคาดว่า ECB จะยังคงมาตรการเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมต่อไป
- 19:30 จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน รายสัปดาห์ – ตัวเลขในระดับต่ำกว่า 4 แสนราย แสดงถึงภาวะที่ดีขึ้นของการจ้างงานในสหรัฐ สอดคล้องกับอัตราการว่างงานที่ล่าสุดที่ระดับ 7.4% ซึ่งลดลงผิดคาด ชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐดีขึ้นมาก แต่เป้าหมายของ Fed ที่ระดับ 6.5% ยังต้องรอให้ตัวเลขรายสัปดาห์ทรงตัวในระดับต่ำกว่า 3 แสนราย เสียก่อน โดยหากในคืนนี้ประกาศตัวเลขระหว่าง 3.0–3.5 แสนราย เช่นเดียวกับสัปดาห์ก่อน จะเป็นผลลบต่อราคาทองคำเล็กน้อย โดยหากใกล้กับระดับ 3 แสนราย จะเป็นผลลบมากขึ้น แต่หากอยู่ในช่วง 3.5-4.0 แสนราย จะส่งผลบวกทันที
- 19:30 ยอดผลผลิต นอกภาคเกษตรกรรม (ตัวเลขสรุป) ไตรมาส 2
- 19:30 ต้นทุนค่าจ้างแรงงาน นอกภาคเกษตรกรรม (ตัวเลขสรุป) ไตรมาส 2/2013 – เป็นข้อมูลค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานทั้งในภาครัฐและเอกชน โดยเป็นหนึ่งในดัชนีที่ใช้คาดการณ์ภาวะเงินเฟ้อและแนวโน้มเศรษฐกิจในแง่อำนาจซื้อของประชาชน ซึ่งบ่งชี้ถึงประสิทธิภาพการผลิตเมื่อพิจารณาร่วมกับยอดผลผลิตที่ออกมาพร้อมกัน โดยการประกาศตัวเลขในช่วงบวกหรือลบ 2% มักไม่ส่งผลต่อราคาทองคำ แต่หากออกมาตามคาดในคืนนี้ทั้ง 2 ตัว จะเป็นผลลบต่อราคาทองคำในแง่ประสิทธิภาพการผลิตที่สูงขึ้น
- 21:00 ดัชนี PMI นอกภาคการผลิต เดือน ส.ค. โดย ISM – เป็นผลสำรวจความคิดเห็นของผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ที่สถาบันจัดการอุปทานรวบรวมมา โดยเป็นการสอบถามมุมมองโดยรอบ ซึ่งผลสรุปจะชี้ให้เห็นถึงมุมมองต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจากผู้ประกอบการทั่วประเทศ จึงมีผลกระทบต่อราคาทองคำค่อนข้างมาก โดยตัวเลขระดับ 45-55 ถือว่าปกติ ซึ่งค่าที่สูงเกิน 50 จะส่งผลลบต่อราคาทองคำ ส่วนค่าที่ต่ำกว่า 50 จะให้ผลบวกต่อราคาทองคำ ทั้งนี้ หากประกาศนอกกรอบระดับปกติ จะส่งผลต่อราคาทองคำได้มาก
- 21:00 ยอดคำสั่งซื้อโรงงาน เดือน ก.ค. – ผลสำรวจมูลค่าการผลิตและการหมุนเวียนสินค้าของผู้ผลิตภายในสหรัฐ เป็นข้อมูลที่มักใช้ควบคู่ไปกับยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน เพื่อคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจในอนาคต แต่ยอดที่ประกาศค่อนข้างผันผวน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับหลายปัจจัย จึงมีผลต่อราคาทองคำไม่มากนัก ทั้งนี้ หากออกมาตามตัวเลขคาดการณ์ที่ลดลงเกิน -2% อาจช่วยหนุนราคาทองคำได้เล็กน้อย
- 22:00 ยอดสต็อกน้ำมัน รายสัปดาห์ – ยอดที่ประกาศออกมาในแต่ละครั้งมีความผันผวนสูง เนื่องจากปริมาณการใช้น้ำมันในสหรัฐขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนั้น แม้ราคาทองคำจะค่อนข้างเคลื่อนไหวสอดคล้องกับราคาน้ำมันในระยะยาว แต่ในระยะสั้นอาจไม่เป็นไปใน
ทองคำ ราคาทองคำแกว่งตัวผันผวนมาก โดย macd และ rsi ในกราฟราย 1 ชม. ให้สัญญาณพร้อมดีดขึ้นในลักษณะรีบาวน์ระยะสั้น จึงคาดว่าราคาจะไม่สามารถยืนเหนือ 1,400 ได้ จึงแนะนำให้เล่นเก็งกำไรความผันผวนของราคา หรือ รอจังหวะราคาอ่อนตัวมากจึงเข้าซื้อสะสม สำหรับคืนนี้ ให้แนวต้านบริเวณ 1,396/1,408 ให้แนวรับบริเวณ 1,380/1,364
โลหะเงิน ราคาร่วงหลุดเส้น neckline ที่ 23.4 แต่ดีดกลับขึ้นไปได้อย่างรวดเร็ว แต่ความเสี่ยงที่จะเกิดรูปแบบ head & shoulder ยังคงมีอยู่ ซึ่งหากหลุด neckline เดิมลงมาอีกครั้ง อาจทำให้ราคาดิ่งลงแรงได้ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงการเกิดสงครามระหว่างชาติตะวันตกกับซีเรียยังคงช่วยหนุนราคาต่อไป จึงแนะนำให้เก็งกำไรเร็วจากความผันผวนของราคา สำหรับคืนนี้ ให้แนวต้านบริเวณ 23.6/24.0 ให้แนวรับบริเวณ 22.85/22.1
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/
http://classicgoldfutures.blogspot.com
Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น