วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2556

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 28 มกราคม 2556 ช่วงเย็น


บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 28 มกราคม 2556 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) 

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,659 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวระหว่าง 1,655-1,662 USDต่อออนซ์ โดยแกว่งตัวแคบในช่วงเช้า และร่วงลงมาแตะจุดต่ำสุดที่ 
1,655 USDต่อออนซ์ โดยในสัปดาห์นี้ นักลงทุนกำลังรอผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ในวันที่ 29-30 ม.ค. 
โดยมีการจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับประเทศในยูโรโซนตามข้อตกลงเป็นประเด็นรอง ทั้งนี้ ราคาทองคำได้รับแรงกดดันมาตลอดตั้งแต่กลางสัปดาห์ที่แล้ว 
เนื่องจากไม่มีข่าวสำคัญที่มีน้ำหนักเชิงลบต่อเศรษฐกิจ และการประเมินว่าในปีนี้เศรษฐกิจของหลายประเทศกำลังจะดีขึ้น ทำให้กระแสเงินไหลออกจากสินทรัพย์ปลอดภัยไป
เข้าหาสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น โดยค่าเงินยูโรค่อนข้างทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง และค่าเงินดอลล่าร์ค่อนข้างนิ่ง แต่ค่าเงินบาทกลับอ่อนตัวสวนทางราคาทองคำมาทดสอบบริเวณ 
30 บาทต่อUSD ทำให้ราคาทองคำเมื่อคิดเป็นเงินบาทแล้ว ไม่ได้รับผลกระทบทางลบของราคาสปอตที่ลดลงมากนัก อย่างไรก็ตาม การยืนอยู่เหนือระดับ 1,650 USDต่อออนซ์ 
ทำให้ยังไม่ต้องเผชิญแรงขายจากกองทุน SPDR มากนัก และนักลงทุนยังสามารถสะสม long ได้ แต่ถ้าหากราคาหลุดระดับ 1,650 USDต่อออนซ์ 
ก็จำเป็นต้องขายตัดขาดทุนออกมาดูสถานการณ์ก่อน

ญี่ปุ่นและสหรัฐเตรียมจัดการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำของ 2 ประเทศ ในวันที่ 21 หรือ 22 ก.พ.นี้ ทั้งนี้ คาดว่านายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโสะ อาเบะ 
จะเดินทางไปเยือนสหรัฐในวันที่ 19 ก.พ. และเข้าพบประธานาธิบดีบารัค โอบามา โดยมีแนวโน้มจะหารือกันในหลายประเด็น ซึ่งรวมถึงแผนการย้ายฐานทัพสหรัฐภาย
ในจังหวัดโอกินาวา ท่ามกลางการประท้วงอย่างรุนแรงของชาวญี่ปุ่น รวมทั้งการมีส่วนร่วมที่อาจจะมีขึ้นของญี่ปุ่นในการเจรจาการค้าเสรีสำหรับหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ
ภาคพื้นแปซิฟิก(TPP)ที่นำโดยสหรัฐ ซึ่งเผชิญกระแสคัดค้านจากเกษตรกรชาวญี่ปุ่น

รัฐบาลญี่ปุ่นปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นในปีงบประมาณ2556 ซึ่งจะเริ่มในเดือนเม.ย. มาอยู่ที่ราว 2.5% 
ในแง่ความเป็นจริง และ 2.7% ในแง่ตัวเลข โดยคาดว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ครั้งล่าสุดจะหนุนอุปสงค์ภายในประเทศ ขณะที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวขึ้น 
โดยดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น 0.5% ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกนับแต่ปีงบประมาณ 2551 ส่วนเงินเยนที่อ่อนค่าอาจจะหนุนการส่งออก 
แต่ยังคงมีความเป็นไปได้ที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อในญี่ปุ่นอาจจะชะลอลงกว่าที่คาด ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตหนี้สาธารณะยุโรป
และภาวะขาดแคลนไฟฟ้าที่อาจจะเกิดขึ้นในญี่ปุ่น

หนึ่งในคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางเกาหลีใต้กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเผชิญหน้ากับสงครามค่าเงินในปีนี้ 
ซึ่งเป็นผลมาจากเงินเยนของญี่ปุ่นที่อ่อนค่าลงหลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ)ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณโดยไม่กำหนดวันสิ้นสุดมาตรการ 
รวมทั้งยังมีเรื่องนโยบายกีดกันการค้าที่กำลังลุกลามไปทั่วโลกอยู่ในเวลานี้ ซึ่งเกาหลีใต้จำเป็นต้องรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างจริงจัง เนื่องจากประเทศพึ่งพาเศรษฐกิจภายนอก
อย่างมาก

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม  ได้แก่
20:30   ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือน ธ.ค.  –  เป็นดัขนีชี้นำสภาพเศรษฐกิจล่วงหน้าที่ดีตัวหนึ่ง โดยบ่งบอกได้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิต 
แต่เนื่องจากเป็นตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยการผลิต จึงมีความผันผวนสูงจากหลายสาเหตุ ดังนั้น จึงควรพิจารณาทั้งยอดที่รวมกับยอดที่ไม่รวมยานพาหนะมาประกอบกัน 
และเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนด้วย ทั้งนี้ ยอดที่มีการเปลี่ยนแปลงมากกว่าปกติมักเกิดขึ้นจากคำสั่งซื้ออากาศยานหรือยุทโธปกรณ์ทางทหาร 
ซึ่งจะทำให้ราคาทองคำแกว่งตัวผันผวนในช่วงสั้นได้ โดยการประกาศตัวเลขในกรอบบวกหรือลบ 1% จะมีผลไม่มากนัก

22:00   ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย เดือน ธ.ค.  –  คล้ายกับดัชนีในภาคอสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ ที่เป็นเครื่องชี้นำภาวะเศรษฐกิจในระยะใกล้ 
แต่จะบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของผู้ซื้อได้อย่างชัดเจน เนื่องจากเป็นการตัดสินใจว่าจะทิ้งเงินจองหรือเงินดาวน์หรือไม่ ทั้งนี้ การปรับตัวสอดคล้องไปดัชนีที่อยู่อาศัยตัวอื่น 
จะแสดงถึงความแข็งแกร่งของตลาดบ้านได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงของข้อมูลในแต่ละเดือน ไม่ได้มีนัยสำคัญต่อทิศทางราคาทองคำ 
จึงส่งผลกระทบไม่มากนัก และหากออกตามคาดในคืนนี้ จะมีผลดีต่อราคาทองคำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

  ทองคำ  สัญญาณ macd และ rsi ในกราฟราย 1 ชม. เกิด divergence อย่างชัดเจน ภาวะการเก็งกำไรและปริมาณการซื้อขายก็แสดงการสะสมสถานะ
ของนักลงทุน ดังนั้น ในช่วงสั้นนี้ มีลุ้นดีดกลับได้แรง โดยให้แนวสำคัญที่ 1,650 ซึ่งหากหลุดลงไป จะทำให้เกิดสัญญาณขายอีกครั้งและนักลงทุนที่ได้สะสมสถานะไว้ก่อนหน้า
ก็จะขายออกมา แต่ถ้าหากสามารถยืนอยู่เหนือระดับนี้ได้ ก็มีโอกาสจะดีดกลับทางเทคนิคทันทีได้ในระดับ 10-20 เหรียญ โดยให้แนวรับ บริเวณ 1,650/1,645 
และแนวต้านบริเวณ 1,665/1,673 แนะนำว่าหากไม่ผ่านแนวต้าน ให้ปิดทำ long ทำกำไรระยะสั้น แล้วรอสะสมสถานะ long อีกครั้งเมื่อราคาอ่อนตัว

  โลหะเงิน  ให้แนวรับบริเวณ 31.0/ 30.3 ส่วนแนวต้านบริเวณ 31.5/31.8 แนะนำ Trading ในกรอบ

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 11-12,16
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
https://itunes.apple.com/th/app/classic-gold/id464234361?mt=8
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
https://market.android.com/details?id=com.codemobiles.classicgold 
http://web.stagram.com/n/ilovecgf/
http://www.classicgoldgroup.tumblr.com 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น