บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 6 มีนาคม 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)
ผันผวนรอผลการ swap พันธบัตรกรีซ 8 มี.ค.
ราคาทองคำเปิดตอนเช้าตามเวลาตลาดเอเซีย วันที่ 6 มี.ค. อยู่ที่บริเวณ 1,705 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,695 - 1,708 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำมีแนวโน้มอ่อนตัว ตามสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ ที่ต่างปรับตัวลดลง หลังจากที่จีนประกาศเป้าหมายอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจรายปีที่ต่ำที่สุดในรอบ 8 ปีที่ระดับ 7.5% และมีความไม่แน่นอนในปัญหาหนี้ในยุโรป ทั้งนี้ นักลงทุนกำลังรอผลการแลกเปลี่ยนพันธบัตรของกรีซ ที่กำหนดวันที่ 8 มี.ค. เป็นวันสุดท้ายสำหรับนักลงทุนที่จะเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนพันธบัตร และผลการประชุมที่รัฐมนตรีคลังยูโรโซนอาจทำการตัดสินใจเกี่ยวกับการเพิ่มวงเงินในกองทุนปกป้องยูโรโซน ในวันที่ 30-31 มี.ค. สำหรับ ภาพทางเทคนิค ราคาทองคำในระยะสั้นมีแนวโน้มอ่อนตัว หลังจากไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,726 อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำอยู่ในโซน oversold ดังนั้น อาจพบการดีดกลับเมื่อถึงแนวรับสำคัญที่ 1,688/1,675 โดยฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำ หากราคาอ่อนตัวลงมาบริเวณแนวรับสำคัญ จะมีแรงซื้อกลับเข้ามา โดยนักลงทุนในตลาด physical ยังคงเข้าซื้อทองคำในช่วงราคาอ่อนตัว
ประเด็น เรื่องการ swap พันธบัตรของกรีซ คาดว่าจะประสบความสำเร็จ มิฉะนั้นจะทำให้เกิดผลกระทบต่อลุกลามต่อเนื่องไปยัง อิตาลี และสเปนหากกรีซผิดนัดชำระหนี้ อย่างไรก็ตาม ประเด็น กรีซยังคงสร้างความผันผวนให้กับตลาดได้ แม้ว่า กรีซจะ swap พันธบัตรได้สำเร็จ เนื่องจาก จะทำให้เกิดผลขาดทุนแก่เจ้าหนี้ภาคเอกชน ซึ่งเป็นสถาบันการเงิน และสถาบันจัดอันดับจะต้องมีการประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ของกรีซตามมา นอกจากนี้ ราคาน้ำมันมีแนวโน้มอ่อนตัวลง เมื่อ อิหร่านยินยอมให้ IAEA เข้าตรวจสอบในพื้นที่ทางทหารของอิหร่าน คาดว่า จะช่วยลดความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตก นอกจากนี้ ปธน.โอบามาของสหรัฐ และนายกรัฐมนตรีของอิสราเอลได้ประชุมกัน เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงระหว่างอิหร่านและอิสราเอล
ค่าเงิน USD มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น กดดันราคาทองคำ เมื่อตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ประกาศออกมาดีอย่างต่อเนื่อง แสดงถึงเศรษฐกิจของสหรัฐกำลังฟื้นตัว และทางธนาคารกลางสหรัฐยังไม่จำเป็นต้องดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน (QE3) ในช่วงนี้ ค่าเงิน USF ที่แข็งค่าขึ้น กดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงทองคำ และทำให้ความต้องการถือครองทองคำเพื่อเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง
จีนประกาศอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายในปีนี้ที่ 4.0% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด ทำให้สามารถใช้นโยบายการเงิน และการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงการควบคุมราคามากนัก
สถาบันการเงินรายใหญ่ 12 แห่ง ได้ลงนามในคำมั่นสัญญาว่าจะมีส่วนร่วมในแผนการบรรเทาภาระหนี้สินของกรีซ สำหรับสถาบันการเงิน 12 รายนั้น รวมถึงบริษัทประกัน อลิอันซ์ ของเยอรมนี ธนาคารบีเอ็นพี พาริบาส์ ของฝรั่งเศส ธนาคารคอมเมิร์ซ แบงก์ ของเยอรมนี ธนาคารยูโรแบงก์ อีเอฟจี ของกรีซ ธนาคารดอยช์ แบงก์ ของเยอรมนี และเนชันแนล แบงก์ ออฟ กรีซ ทั้งนี้ กรีซกำลังพยายามโน้มน้าวธนาคารพาณิชย์และกองทุนเพื่อการลงทุนรายอื่นๆให้ เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการปรับโครงสร้างหนี้ ผ่านการสว็อปพันธบัตร หรือการปรับลดมูลค่าหน้าพันธบัตรของรัฐบาลกรีซลง 53.5% ซึ่งเป็นโครงการที่จะช่วยให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ ขณะที่ เอสแอนด์พี มองว่าการปรับลดมูลค่าหน้าตั๋วของพันธบัตรรัฐบาลกรีซลงมาอยู่ที่ระดับ "ผิดนัดชำระหนี้บางส่วน (selective default)" จากระดับ CC เมื่อวันที่ 29 ก.พ.ที่ผ่านมา และ เมื่อวันเสาร์ที่ 3 มี.ค. มูดีส์ ก็ได้ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรสกุลเงินในประเทศและต่าง ประเทศของกรีซ ลงจากระดับ Ca สู่ระดับ C ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในระบบการจัดอันดับของมูดีส์
สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) เตือนกรีซเตือนกรีซผิดนัดชำระหนี้กระทบยูโรโซนเสียหายกว่า 1 ล้านล้านยูโร สถาบันการเงินระหว่างประเทศ ระบุว่า การผิดนัดชำระหนี้ของกรีซจะส่งผลให้อิตาลีและสเปนจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากภายนอกประเทศเพื่อสกัดความเสี่ยงมิให้ลุกลามออกไป และจะทำให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจยูโรโซนคิดเป็นมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านยูโร (1.3 ล้านล้านดอลลาร์) IIF ต้องการให้ผู้ถือพันธบัตรรัฐบาลกรีซทำการลงนามในข้อตกลงแลกเปลี่ยนพันธบัตรภายในวันพฤหัสบดีนี้เพื่อลดหนี้ของกรีซลงกว่า 1 แสนล้านยูโร ซึ่งหากไม่มีการลงนามในข้อตกลงดังกล่าว ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ก็จะประสบกับผลขาดทุนจำนวนมาก จากการที่อีซีบีปล่อยเงินกู้แก่กรีซถึง 1.77 แสนล้านยูโร
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ในวันที่ 7 มี.ค.ได้แก่
- 20.15 น. ADP Employer Services เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศเดือนก.พ.
- 20.30 น. ธนาคารกลางสหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่สองสำหรับประสิทธิภาพการผลิต และต้นทุนแรงงานต่อหน่วยประจำไตรมาส 4/2554
- 22.00 น. สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ(EIA)เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์
ภาพกราฟในรายวันยังส่งสัญญาณ Bearish ส่วนภาพกราฟในราย 4 ช.ม.มีแนวต้านแรกบริเวณเส้น MA 200 บริเวณ 1,726 และถัดไปบริเวณเส้น MA 34 บริเวณ 1,737 ส่วนแนวรับมีที่บริเวณ 1,688/1,675 USDต่อออนซ์ คาดว่าในสัปดาห์นี้ราคามีโอกาสแกว่งตัว side way ในกรอบ 1,688 – 1,737 การยืนเหนือบริเวณ 1,726/1,737 ได้ในสัปดาห์นี้ได้ ราคาอาจไปต่อบริเวณ 1,750/1,760 ในสัปดาห์ถัดไป ส่วนการไม่สามารถยืนเหนือ 1,700 ได้ราคาอาจปรับลดลงมาที่บริเวณ 1,680/1,650 ภาพกราฟในราย 2 ช.ม. หากราคายืนเหนือ 1,710/1,720 มีแนวโน้มจะขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,737 แนะนำ นักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 1,675 – 1,737
โลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 32.4/31.9 แนวต้านบริเวณ 34.3/35.0 นักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 31.9 – 35.0
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8 https://plus.google....509313835/posts https://market.andro...les.classicgold
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น