บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 16 มีนาคม 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)
ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานปิดที่ 1,659.50 USDต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 16.60 USDต่ออออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,636.20 – 1,667.40 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำในตลาดที่ COMEX รีบาวนด์ขึ้นได้ โดยได้รับหนุนจากค่าเงิน USD ที่อ่อนค่าลง และแรงซื้อจากนักลงทุนเมื่อราคาปรับตัวลดลง Buy the dip ประกอบกับการทำ short covering ของนักลงทุนระยะสั้น ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ประกาศเมื่อคืนนี้ออกมาดี เช่น จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานลดลงเหลือ 351,000 รายลดลงต่อเนื่อง ดัชนีราคาผู้ผลิตปรับตัวสูงขึ้น และดัชนีแนวโน้มธุรกิจปรับตัวดีขึ้น สำหรับประเด็นปัญหาหนี้ของกรีซคลี่คลายลงเมื่อ IMF ปล่อยเงินกู้ให้กับกรีซทำให้กรีซไม่ต้องผิดนัดชำระหนี้ ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงิน USD โดย USD อ่อนค่าลงจากระดับแข็งค่าสุดเมื่อเทียบกับเงินสกุลต่างๆ เมื่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐลดลง โดยนักลงทุนได้ขายสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น เพิ่มขึ้นทำให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปรับบวกได้ต่อเนื่อง ราคาน้ำมันดิบ Nymex ปรับลดลง เมื่อผู้นำอังกฤษร่วมมือกับสหรัฐในการปล่อยน้ำมันสำรองในคลังออกมา ส่วนราคาทองคำในช่วงเช้าวันนี้เคลื่อนไหวบริเวณ 1,660 USDต่อออนซ์ ซึ่งเป็นการ rebound ขึ้นจากการปรับลดลงแรงเมื่อวานนี้ คาดว่าวันนี้โมีแนวต้านแรกบริเวณ 1,680 และถัดไปบริเวณ 1,700 ถ้าผ่านแนวต้านบริเวณเส้น MA 200 วันบริเวณ 1,680 และแนวต้านทางจิตวิทยาที่บริเวณ 1,700 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ส่วนแนวรับมีที่บริเวณ 1,650 -1,656 และถัดไป 1,625 นักลงทุนระยะสั้นปิด Long เมื่อราคา rebound ขึ้นสู่แนวต้าน หรือ Trading ในกรอบ 1,625 – 1,700
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำ ได้แก่ การกลับมาอ่อนค่าของเงิน USD เมื่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวดลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นๆ อย่างไรก็ตาม การเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น และการไม่ส่งสัญญาณว่าจะมี QE 3 ยังเป็นประเด็นที่กดดันราคาทองคำ และทำให้คาดว่า การ rebound ขึ้นของราคาทองคำอาจเป็นเพราะราคาปรับลดลงมาแรง โดยราคาอาจไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,700 / 1,720 ไปได้ส่วนปัจจัยบวก ได้แก่ ประเด็นกรีซคลี่คลายเมื่อ IMF ให้เงินช่วยเหลือแก่กรีซ 2.8 หมื่นล้านยูโร การเข้าซื้อ
ทองคำของนักลงทุนระยะยาว buy the dip และการทำ short covering ทำให้ราคาหยุดตกชั่วคราว และยังยืนเหนือ 1,650 USDต่อออนซ์ได้
ประเด็นที่ต้องติดตาม การแถลงการณ์ของประธานเฟด ในวันอังคารที่ 20 มี.ค. การที่ยูโรโซนจะเพิ่มขนาดกองทุนช่วยเหลือถาวรของยุโรปก่อนสิ้นเดือนนี้หรือไม่ ในการประชุมวันที่ 30/31 มี.ค.
การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันศุกร์ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ. ข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิตเดือนก.พ. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนมี.ค.
SPDR ถือทองคำจำนวนเท่าเดิม 1,293.27 ตัน
ราคาโลหะเงินปิดเพิ่มขึ้น 0.55 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 32.73 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 31.94 – 32.90 USDต่อออนซ์ ishares silver trust ถือโลหะจำนวนเท่าเดิม 9,752.67ตัน ส่วนโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 32.0/ 31.6 แนวต้านบริเวณ 33.3/ 33.9 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 31.6 – 33.9
แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,625 – 1,700 Trading ในกรอบ 1,625 – 1,700
แนวโน้มระยะกลาง : อยู่ในกรอบ 1,600 – 1,800 แนะนำ รอสัญญาณการกลับตัวและสร้างฐานได้ก่อนค่อยเปิด Long หรือ เปิด Short เมื่อราคา rebound ขึ้นสู่แนวต้าน โดยมีเป้าหมายบริเวณแนวรับ โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,700
แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,600 - 1920 แนะนำ Trading ในกรอบ 1,600 – 1,920
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8 https://plus.google....509313835/posts https://market.andro...les.classicgold
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น