วันพุธที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2555

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 14 มีนาคม 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 14 มีนาคม 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

แนวรับสำคัญที่ 1,662/1,656

ราคาทองคำเปิดตอนเช้าตามเวลาตลาดเอเซีย วันที่ 13 มี.ค. อยู่ที่บริเวณ 1,677.85 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,663 - 1,682 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำอ่อนตัวต่อเนื่อง หลังจากชนแนวต้านที่ 1,700 แล้วไม่ผ่าน ทั้งนี้ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจเชิงบวกในช่วงที่ผ่านมาของสหรัฐ และการคาดการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เกี่ยวกับแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง แทนทองคำ นอกจากนั้น ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันจาก การที่ เฟด ไม่มีสัญญาณการออกมาตรการ QE3 อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ทางฝั่งยุโรปเริ่มมีแนวโน้มเชิงบวก อาทิ ฟิทช์ ประกาศเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรชุดใหม่ของกรีซ และ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่าเศรษฐกิจยูโรโซนดูเหมือนกำลังจะเข้าสู่เสถียรภาพ อาจส่งผลบวกต่อราคาทองคำในระยะกลาง ทั้งนี้ ภาพทางเทคนิค ยังส่งสัญญาณลบ เมื่อราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือ 1,680 อาจพบการอ่อนตัวลงมาที่บริเวณ 1,662 และถัดไปบริเวณ 1,656

ฟิทช์ ประกาศเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรชุดใหม่ของกรีซขึ้นสู่ระดับ B- โดยให้แนวโน้มมีเสถียรภาพ หลังจากกรีซได้เสร็จสิ้นการทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนพันธบัตรกับกลุ่มเจ้าหนี้ เอกชน ซึ่งเป็นหนทางที่จะช่วยให้กรีซได้รับความช่วยเหลือรอบที่ 2 ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ฟิทช์ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรของรัฐบาลกรีซ นับตั้งแต่วิกฤตหนี้สาธารณะของกรีซเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2552 รัฐบาลกรีซได้เสร็จสิ้นการแลกเปลี่ยนพันธบัตรมูลค่า 1.772 แสนล้านยูโร (2.325 แสนล้านดอลลาร์) แล้วเมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงที่รัฐบาลกรีซได้ทำร่วมกับเจ้าหนี้ภาคเอกชน การแลกเปลี่ยนพันธบัตรมีเป้าหมายที่จะช่วยบรรเทาภาระหนี้สินสาธารณะของกรีซและจะช่วยให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ นอกจากนี้ ยังถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้กรีซมีคุณสมบัติเพียงพอต่อการรับเงิน ช่วยเหลือรอบที่ 2 จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และองค์กรอื่นๆ โดยคาดว่าจะมีการแถลงผลการตัดสินใจในเรื่องดังกล่าวในวันนี้ (14 มี.ค.)


ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่าเศรษฐกิจยูโรโซนดูเหมือนกำลังจะเข้าสู่เสถียรภาพ และไม่มีแนวโน้มเผชิญความเสี่ยงด้านภาวะเงินเฟ้อ โดยเรียกร้องให้รัฐบาลและธนาคารพาณิชย์ใช้ช่วงเวลานี้ในการเดินหน้าการปฏิรูปต่อไป ในขณะที่ธนาคารกลางเยอรมนี แสดงความกังวลว่า มาตรการอัดฉีดเงินทุนครั้งใหญ่ของอีซีบีอาจจะก่อให้เกิดผลข้างเคียง เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ นอกจากนั้น ช่องว่างด้านผลผลิตยังคงอยู่ในระดับที่กว้างมากในหลายๆส่วนของยูโรโซน หรือในทั่วทั้งยูโรโซน และอัตราการว่างงานก็ยังคงอยู่ในระดับสูงในทุกๆที่ ดังนั้น ประเทศสมาชิกยูโรโซนจำเป็นต้องปรับปรุงและเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ประสิทธิภาพทางการแข่งขันของตน เพื่อความมั่งคั่งและเพื่อเสถียรภาพของสหภาพการเงินโดยรวม ถ้าหากไม่มีการเดินหน้าปฏิรูปโครงสร้างไปด้วยกัน ก็เป็นเรื่องยากที่จะทำให้ประเทศสมาชิกยูโรโซนอยู่ด้วยกันได้ต่อไป

นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวว่า เป้าหมายการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่ 7.5% เป็นผลมาจากการควบคุมเศรษฐกิจมหภาคในเชิงรุก และไม่ถือว่าเป็นระดับที่ต่ำ โดยมูลค่าจีดีพีของจีนพุ่งขึ้นแตะระดับ 47 ล้านล้านหยวน (7.46 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) และตามหลักแล้ว อัตราการขยายตัวที่ระดับ 7.5% ไม่ถือว่าต่ำ นอกจากนี้ การที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงนั้นเนื่องจากผลกระทบจากวิกฤตหนี้ยุโรปและการหด ตัวของอุปสงค์ในต่างประเทศ ซึ่งจากสถานการณ์เหล่านี้ ทำให้จีนต้องปรับลดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะให้สอดคล้องกับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจภายในประเทศ
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
- 19.30 น. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดประจำไตรมาส 4/2554
- 19.30 น. กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.พ.

ภาพกราฟในรายวัน RSI ส่งสัญญาณ divergence เมื่อราคาทำ low ใหม่บริเวณ 1,662 แต่ RSI ไม่ทำ low ใหม่ วันนี้มีแนวต้านแรกบริเวณเส้น MA 200 วันบริเวณ 1,680 และถัดไปบริเวณ 1,693 เส้น MA 4 วันและ 9 วัน การลงไปทำ Low บริเวณ 1,662 ซึ่งต่ำกว่า low ของเดิมที่ 1,664 ส่งสัญญาณ bearish มากขึ้น คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,662 และถัดไปบริเวณ 1,656 แนะนำ นักลงทุนระยะยาวรอเปิด Long บริเวณ 1,656/1,650 buy the dip ภาพกราฟในราย 120 นาทีมีแนวต้านแรกบริเวณ 1,680 – 1,693 และถัดไปบริเวณ 1,700 – 1,705 แนะนำ นักลงทุนระยะสั้นปิด Long เมื่อราคา rebound ขึ้นสู่แนวต้าน หรือ Trading ในกรอบ 1,656 – 1,705


ส่วนโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 33.0/32.0 แนวต้านบริเวณ 33.8/ 34.0 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 32.0 – 34.0

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8
https://plus.google....509313835/posts
https://market.andro...les.classicgold

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น