บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 28 มีนาคม 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)
แกว่งตัวในกรอบ
ราคาทองคำเปิดตอนเช้าตามเวลาตลาดเอเซีย วันที่ 28 มี.ค. อยู่ที่บริเวณ 1,679.81 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,673 - 1,684 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา หลังจากการประกาศดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงในเดือนมี.ค.สู่ระดับ 70.2 ซึ่งต่ำกว่าคาด และมีการคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐจะพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน นักลงทุนบางส่วนยังไม่เชื่อว่า เฟดจะมี QE 3 ในเร็วๆนี้ เนื่องจากเฟดต้องรักษาเสถียรภาพด้านราคาไม่ปล่อยให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเร็วเกินไป ดังนั้น การปรับเพิ่มขึ้นของราคาทองคำจึงยังไม่สามารถผ่าน 1,700 ได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกหนุนราคาทองคำให้ลดลงในกรอบจำกัด อาทิ การประมูลขายพันธบัตรรัฐบาลของอิตาลีประสบความสำเร็จ และมีอัตราผลตอบแทนลดลงมาก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของฝรั่งเศสต่อสถานการณ์เศรษฐกิจปรับตัวเพิ่มขึ้น และราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้เมื่อราคาร่วงลงไปใกล้แนวรับสำคัญที่ 1,670 ก็สามารถ Rebound กลับขึ้นมาได้ โดยคาดว่าคืนนี้จะยังเคลื่อนในกรอบ 1,670 – 1,695 เนื่องจากนักลงทุนรอปัจจัยใหม่ในช่วงปลายสัปดาห์ เช่น การประกาศตัวเลข GDP และผลการประชุมของ รมว.คลังยูโรโซน ในวันที่ 30/31 มี.ค. นี้
เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่ายังเร็วเกินไปที่จะประกาศชัยชนะในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่มิให้นิ่งนอนใจในการกำหนดนโยบาย แม้แนวโน้มเศรษฐกิจสดใสขึ้น เนื่องจากการว่างงานยังคงอยู่ในระดับสูงและตลาดที่อยู่อาศัยยังคงอ่อนแอ ดังนั้นเฟดจึงจะไม่ตัดทางเลือกใดๆในการพิจารณา อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ระบุว่าการซื้อพันธบัตรรอบใหม่จะมีขึ้นในเร็วๆนี้ ทั้งนี้ เฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยใกล้ระดับ 0% นับตั้งแต่เดือนธ.ค.2008 และได้ซื้อตราสารหนี้มูลค่า 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ผ่านทางโครงการซื้อพันธบัตร2 โครงการเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ นายเบอร์นันเก้ ยังกล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐจำเป็นต้องมีการขยายตัวเร็วขึ้นเพื่อรับประกันความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องในการลดอัตราการว่างงาน ซึ่งความเห็นดังกล่าวได้หนุนราคาหุ้นพุ่งขึ้นทั่วโลก เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าเฟดอาจจะวางแผนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของฝรั่งเศสต่อสถานการณ์เศรษฐกิจ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5 จุดในเดือนมีนาคม เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้บริโภคมีมุมมองแง่ลบน้อยลงเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านการเงิน และตลาดแรงงาน ทั้งนี้ ความพึงพอใจของภาคครัวเรือนต่อฐานะการเงินในช่วงที่ผ่านมาและในอนาคต ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3 จุด และ 7 จุด ตามลำดับ เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ ในขณะที่ความต้องการซื้อสินค้ายังอยู่ที่ระดับเดิม ในส่วนของอัตราว่างงาน ประชาชนที่คาดว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นในอนาคตมีจำนวนลดลง โดยดัชนีชี้วัดการว่างงานปรับตัวดีขึ้น 6 จุด แต่ยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวอย่างมาก โดยการแสดงความคิดเห็นของภาคครัวเรือนบ่งชี้ถึงการคาดการณ์เกี่ยวกับแรงกดดัน จากเงินเฟ้อที่ไม่มากนัก ในขณะที่ความต้องการด้านการออมยังอยู่ที่ระดับเดิม เนื่องจากดัชนีวัดความสามารถด้านการออมของผู้บริโภคในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับ -12 จุด
กรีซอาจจะจัดการเลือกตั้งในวันที่ 6 พ.ค.นี้ แต่ยังไม่มีการยืนยันวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ รัฐบาลผสมของนายกรัฐมนตรีลูคัส ปาปาเดมอสได้ถูกจัดตั้งขึ้นในเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว โดยมีอำนาจชั่วคราวเพื่อสรุปการเจรจาเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และจัดการเลือกตั้งรัฐสภา โดยรัฐบาลชุดนี้มีพรรคประชาธิปไตยใหม่ และพรรคสังคมนิยม(PASOK) รวมอยู่ด้วย พรรคประชาธิปไตยใหม่ ซึ่งมีคะแนนนำในการสำรวจความเห็นประชาชนเปิดเผยในสัปดาห์ที่แล้วหลังจากรัฐสภาได้อนุมัติข้อตกลงช่วยเหลือว่า การเลือกตั้งน่าจะจัดขึ้นในวันที่ 29 เม.ย. หรือ 6 พ.ค.
ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เปิดเผยว่า บริษัทต่างๆและผู้บริโภคยังคงแห่ถอนเงินออกจากธนาคารของกรีซในอัตราสูงในเดือนก.พ. ซึ่งตอกย้ำถึงการขาดความเชื่อมั่นต่อระบบธนาคารของกรีซ ทั้งนี้ เงินฝากของภาคเอกชนในธนาคารของกรีซลดลง 2.7% ในเดือนก.พ.หลังจากที่ลดลงเกือบ 3% ในเดือนม.ค. โดยปริมาณเงินฝากทั้งหมดลดลงสู่1.701 แสนล้านยูโร ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2006 และลดลงราว30% จากระดับสูงสุดในเดือนธ.ค.2009 ส่วนเงินฝากของภาคเอกชนในโปรตุเกส และประเทศอื่นๆในช่วงระหว่างที่เกิดวิกฤติหนี้นั้น อยู่ในสถานะที่ดีกว่ามาก โดยเงินฝากในโปรตุเกสและสเปนแทบไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่ลดลงไม่ถึง 1% ในไอร์แลนด์ และเพิ่มขึ้นกว่า 1% ในอิตาลี ปริมาณเงินฝากในธนาคารของประเทศที่มีเศรษฐกิจอ่อนแอทุกประเทศลดลงอย่างต่อเนื่องในปีที่แล้ว ยกเว้นของโปรตุเกส ข้อมูลดังกล่าวยังไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนค่าตามฤดูกาล และมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยจากข้อมูลของธนาคารกลางในแต่ละประเทศไม่รวมเงินฝากจากรัฐบาลกลาง และสถาบันการเงิน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
- 19.30 น. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ.
- 22.00 น. สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ(EIA)เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์
ภาพกราฟในราย 60 นาทีมีแรงขายบริเวณ 1,696 จากนั้นราคาปรับตัวลดลงต่อมีโอกาสลงมาทดสอบแนวรับบริเวณ 1,675 – 1,672 ถ้าไม่สามารถ rebound ขึ้นและยืนเหนือ 1,687 ได้ อาจปรับตัวลดลงต่อไปที่บริเวณแนวรับถัดไป 1,660/1,640 แนะนำ นักลงทุนรอราคาอ่อนตัวบริเวณแนวรับ 1,675 และถัดไป 1,660 /1,640 คาดว่าวันนี้มีแนวต้านแรกบริเวณ 1,690/1,700 นักลงทุนระยะสั้นที่ปิด Long ทำกำไรไปแล้ว รออ่อนตัวบริเวณแนวรับค่อยเปิด Long หรือ Trading ในกรอบ 1,640 - 1,700
ส่วนโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 32.4/ 32.0 แนวต้านบริเวณ 33.2/ 33.5 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 32.0 – 33.5
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8 https://plus.google....509313835/posts https://market.andro...les.classicgold
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น