ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,320 USDต่อออนซ์ แกว่งตัวระหว่าง 1,316 -1,326 USDต่อออนซ์ ราคาอ่อนตัวลงมาหลังจากการปรับขึ้นเมื่อวันจันทร์แล้วยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,350 ขึ้นไปได้ โดยมีปัจจัยกดดัน จากการที่อินเดียขึ้นภาษีนำเข้าทองคำจาก 8% เป็น 10% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งที่ 3 ในรอบ 8 เดือน นอกจากนี้ มีการคาดการณ์ว่า ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่จะประกาศในสัปดาห์นี้จะออกมาดี ซึ่งจะทำให้นักลงทุนกังวลว่า เฟดจะปรับลดการใช้มาตรการ QE ลงในไม่ช้า ค่าเงิน USD มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ในขณะที่ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นจากการผลิตน้ำมันที่ลดลงในลิเบีย และการไม่สามารถขนส่งน้ำมันได้ สำหรับภาพทางเทคนิคของราคาทองคำ คาดว่าในสัปดาห์นี้จะเป็นการแกว่งตัวในกรอบระหว่าง 1,300 -–1,350 โดยจะมีการแกว่งตัวสร้างฐานบริเวณ 1,315 – 1,325 ไปก่อน การขึ้นผ่านแนวต้านบริเวณ 1,350 จะทำให้ภาพขาขึ้นในระยะสั้นชัดเจนขึ้น แต่ในสัปดาห์นี้อาจจะยังไม่สามารถผ่านได้ ส่วนการอ่อนตัวลงไม่หลุด 1,300 ยังมีโอกาสปรับขึ้นต่อได้ โดยมองว่าการปรับลดลงมาเพื่อเป็นการสร้างฐาน
สรุปข่าวที่น่าสนใจ:
เศรษฐกิจฝรั่งเศสพ้นภาวะถดถอยหลังจีดีพีโตเกินคาด 0.5% ใน Q2 สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส (INSEE) รายงานในวันนี้ว่า เศรษฐกิจฝรั่งเศสเติบโต 0.5 % ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นระดับที่แข็งแกร่ง เกินคาด และส่งผลให้เศรษฐกิจฝรั่งเศสสามารถหลุดพ้นจากภาวะถดถอย โดยก่อนหน้านี้โพลล์รอยเตอร์คาดการณ์ โดยเฉลี่ยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของฝรั่งเศส อาจขยายตัวเพียง 0.2% ในช่วงไตรมาสเดือนเม.ย.-มิ.ย.
เยอรมนีเผยศก.โตเกินคาด 0.7% ใน Q2 สูงสุดในรอบกว่า 1 ปี สำนักงานสถิติของเยอรมนีเปิดเผยว่า เศรษฐกิจของเยอรมนี ขยายตัว 0.7% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบรายไตรมาส ซึ่งเป็นอัตรา การขยายตัวสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ อันเนื่องจากการบริโภคของภาคเอกชน และการใช้จ่ายของภาครัฐ ขณะเดียวกัน เมื่อเทียบรายปี เศรษฐกิจของเยอรมนีขยายตัว 0.9% การขยายตัวรายไตรมาสแข็งแกร่งกว่าที่ผลสำรวจของรอยเตอร์คาดไว้ว่าจะขยายตัว 0.6%
เศรษฐกิจยูโรโซนพ้นจากภาวะถดถอยในไตรมาสที่2 GDP ขยายตัว 0.3% สูงกว่าคาด โดยมีฝรั่งเศสและเยอรมัน ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยูโรโซนช่วยให้ยูโรโซนหลุดพ้นจากภาวะถดถอยที่ยาวนาน แต่เศรษฐกิจของสเปนหดตัวลง 0.1% ในขณะที่อิตาลีและเนเธอร์แลนด์หดตัวลง 0.2%
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตาม
- 19:30 ดัชนีราคาผู้ผลิต เดือน ก.ค. – ตัวเลขค่อนข้างผันผวนสูง เนื่องจากเป็นการคิดรวมราคาอาหารและพลังงานเข้ามาด้วย เพื่อให้สะท้อนสภาพเศรษฐกิจที่แท้จริง ซึ่งดัชนีที่บวกเพิ่มขึ้นแสดงว่าเศรษฐกิจอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น แต่เป็นผลกดดันราคาทองคำ โดยคาดว่าราคาน้ำมันที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูงจะทำให้ดัชนีเป็นบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 แต่ตัวเลขอาจต่ำกว่าเดือน มิ.ย. ในขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิตที่ไม่คิดรวมราคาอาหารและพลังงาน คาดว่าจะออกมา +0.2% จึงอาจส่งผลลบเล็กน้อยต่อราคาทองคำ
- 21:30 ยอดสต็อกน้ำมัน รายสัปดาห์ – ยอดที่ประกาศออกมาในแต่ละครั้งมีความผันผวนสูง เนื่องจากปริมาณการใช้น้ำมันในสหรัฐขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนั้น แม้ราคาทองคำจะค่อนข้างเคลื่อนไหวสอดคล้องกับราคาน้ำมันในระยะยาว แต่ในระยะสั้นอาจไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันก็ได้ จึงประเมินว่า ยอดที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงไม่เกิน 5 ล้านบาร์เรล จะไม่มีผลต่อราคาทองคำอย่างมีนัยสำคัญ
Technical Analysis:
ทองคำ ราคาอ่อนตัวลงมาสร้างฐานบริเวณ 1,315 – 1,325 แต่ถ้าไม่หลุด 1,300 ยังมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น rsi อยู่ที่ระดับ 54.4 MACD กลับมาเป็นบวก วันนี้มีแนวต้านบริเวณ 1,330/1,341 แนวรับบริเวณ 1,315/1,307 แนะนำ Trading ในกรอบ
โลหะเงิน ราคาพักตัวหลังจากปรับขึ้นแรง rsi อ่อนตัวลงมาเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 68.4 ราคาจะมีการสร้างฐานก่อนที่จะมีการปรับตัวขึ้นต่อ ให้แนวต้านบริเวณ 21.6/21.75 ให้แนวรับบริเวณ 21.1/20.9 แนะนำให้ trading long เมื่ออ่อนตัว
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/
http://classicgoldfutures.blogspot.com
Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น