บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 31 ตุลาคม 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)
เริ่มดีดตัวขึ้น
ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,711 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวระหว่าง 1,710 - 1,717 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบแคบในช่วงเช้า แต่ในช่วงบ่ายราคาดีดตัวขึ้นได้จากข่าวดีทางด้านยุโรป ได้แก่ ยอดค้าปลีกของเยอรมันพุ่งเกินคาด ยอดขาดดุลการคลังของสเปนลดลง และ รมว.คลังของยูโรโซนประชุมกันพิจารณาแผนการรัดเข็มขัดของกรีซก่อนที่จะมีการให้เงินช่วยเหลือในรอบต่อไป ทำให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น และค่าเงิน USD อ่อนค่าลงสนับสนุนราคาทองคำ และในคืนนี้ CME Group จะเปิดห้องค้าของตลาด COMEX/NYMEX หลังจากพายุเฮอริเคนแซนดี้ เคลื่อนตัวผ่านนิวยอรค์ไปแล้ว ทำให้ราคาทองคำ ราคาน้ำมันมีแนวโน้มจะแกว่งตัวแรงขึ้น หลังจากที่แกว่งตัวในกรอบแคบๆมา 2 วัน โดยประเด็นที่ตลาดติดตามยังอยู่ที่ฝั่งยุโรปโดยเฉพาะประเด็นของกรีซ และการแข็งค่าของเงินยูโรมีส่วนสนับสนุนราคาทองคำ คาดว่าการแกว่งตัวของราคาทองคำมีแนวโน้มอยู่ในกรอบ 1,705 – 1,725
เยอรมนีเผยยอดค้าปลีกพุ่งเกินคาดในเดือนก.ย. ข้อมูลเบื้องต้นบ่งชี้ว่า ยอดค้าปลีกของเยอรมนีทำสถิติพุ่งขึ้นในเดือนก.ยมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2011 เมื่อเทียบเป็นรายเดือนโดยเพิ่มขึ้น 1.5% ซึ่งสนับสนุนความหวังที่ว่าการบริโภคของภาคเอกชนจะยังคงเป็นปัจจัยหลักในการสนับสนุนเศรษฐกิจการปรับตัวขึ้นดังกล่าวแข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้ในช่วง -0.4% ถึง 0.8% ขณะที่ตัวเลขประมาณการเฉลี่ยอยู่ที่ 0.3%
ยอดขาดดุลการคลังของสเปนลดลงเหลือ 4.39% ของ GDP ในเดือนก.ย.จาก 4.77% ของ GDP ในเดือนส.ค. จากการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้เพิ่มขึ้น 11.9% YoY แสดงว่าแผนการรัดเข็มขัดของสเปนมีความคืบหน้า และการขาดดุลการคลังสามารถควบคุมได้
รมว.คลังยูโรโซนประชุมกันในวันนี้โดยมีความพยายามให้แผนการรัดเข็มขัดของกรีซกลับเข้าสู่การพิจารณาก่อนที่กรีซจะได้รับเงินช่วยเหลือในเดือนหน้า โดยมีประเด็นที่พิจารณา คือ กรณีที่ถ้าหนี้ของกรีซต้องมีการตัดเป็นหนี้สูญเพิ่มขึ้น และการไม่ลงรอยกันของนักการเมืองของกรีซ มากกว่าจะเป็นประเด็นเรื่องเพิ่มความเข้มงวดให้กับมาตรการรัดเข็มขัด
ญี่ปุ่นเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตหดตัวรุนแรงสุดในรอบ 18 เดือนในต.ค. ผลสำรวจระบุว่า กิจกรรมภาคการผลิตของญี่ปุ่นหดตัวลงในเดือนต.ค.ในอัตราที่รุนแรงที่สุดในรอบ 18 เดือน ในขณะที่การลดลงของการส่งออกและการชะลอตัวของอุปสงค์ภายในประเทศเป็นปัจจัยกดดันการผลิตในญี่ปุ่น มาร์กิต/เจเอ็มเอ็มเอรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI)สำหรับภาคการผลิตญี่ปุ่นร่วงลงสู่ 46.9 ในเดือนต.ค. จาก 48.0 ในเดือนก.ย.โดยดัชนีที่ระดับต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตหดตัวลง และดัชนีก็อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 เป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันในเดือนต.ค.
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
- 18:00 ยอดขอจดจำนองที่อยู่อาศัย รายสัปดาห์ – ตัวเลขชี้วัดภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์เบื้องต้นที่ออกเร็วที่สุดแบบสัปดาห์ต่อสัปดาห์ จึงมีแนวโน้มที่ยอดที่ออกมาจะผันผวนมาก ทำให้อาจไม่สอดคล้องกับดัชนีเกี่ยวกับตลาดที่อยู่อาศัยตัวอื่น ๆ แต่มักส่งผลให้ราคาทองคำแกว่งตัวได้ในระยะสั้น โดยหากเผยยอดเกิน +5% จะส่งผลลบต่อราคาทองคำ หรือ ต่ำกว่า -5% ก็จะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ
- 19:30 ต้นทุนการจ้างงาน ไตรมาส 3/2012 – หลังจากเกิดวิกฤติซับไพรม์ในปี 2008 ก็ทำให้ตัวเลขนี้ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ แต่จากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกไตรมาส ก็แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐไม่ได้ถดถอย และสามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อไว้ได้ในระดับต่ำด้วย ทั้งนี้ การบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวได้จริงหรือไม่ ควรพิจารณาตัวเลขดังกล่าวร่วมกับรายได้และรายจ่ายบุคคลธรรมดาด้วยว่าสอดคล้องกันหรือไม่ ส่วนการประกาศตัวเลขในคืนนี้ หากใกล้ระดับ +1% จะส่งผลลบเล็กน้อยต่อราคาทองคำ แต่ถ้าหากออกมาประมาณ +0.5% ตามค่าเฉลี่ยการประเมินของนักวิเคราะห์ ก็คาดว่าจะไม่มีผลกระทบกับราคาทองคำ
- 20:45 ดัชนีมุมมองต่อการทำธุรกิจของฝ่ายจัดซื้อ (ชิคาโก) เดือน ต.ค. – เป็นผลสำรวจความคิดเห็นของผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ที่อยู่ในเขตพื้นที่ของเมืองชิคาโก โดยเป็นการสอบถามมุมมองโดยรอบต่อการประกอบการ ทั้งภาวะการจ้างงาน, การใช้กำลังการผลิต, สต๊อคสินค้า, ยอดคำสั่งซื้อ, การตั้งราคาขาย ฯลฯ ซึ่งผลสรุปดังกล่าวจะชี้ให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจจากสภาพความเป็นจริงที่ผู้ประกอบการในเขตที่ทำการสำรวจกำลังเผชิญอยู่ โดยค่ากลางอยู่ที่ 50 และระดับ 45-55 จะส่งผลต่อราคาทองคำเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าหากเกินระดับ 55 จะส่งผลลบต่อราคาทองคำ และหากต่ำกว่า 45 จะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ
- 21:30 ยอดสต๊อคน้ำมัน รายสัปดาห์ – ยอดที่ประกาศออกมาในแต่ละครั้งมีความผันผวนสูง เนื่องจากปริมาณการใช้น้ำมันในสหรัฐขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมัน, ภาวะเศรษฐกิจ, ความเชื่อมั่นในการจับจ่ายของประชาชน, ความต้องการตามช่วงเวลา ฯลฯ ดังนั้น แม้ราคาทองคำจะค่อนข้างเคลื่อนไหวสอดคล้องกับราคาน้ำมันในระยะยาว แต่ในระยะสั้นอาจไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันก็ได้ ดังนั้นจึงประเมินว่า ยอดสต๊อครายสัปดาห์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงไม่ถึง 5 ล้านบาร์เรล จะไม่มีผลต่อราคาทองคำอย่างมีนัยสำคัญ
ราคาทองคำ ภาพกราฟทางเทคนิคในราย 120 นาที ราคาเคลื่อนไหว side way ออกทางด้านข้างและมีการดีดตัวขึ้นได้บ้าง แต่ยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,720/1,725 ขึ้นมาได้ โดยมีแนวรับบริเวณ 1,708 – 1,705 และถัดไปบริเวณ 1,700 ส่วนแนวต้านมีที่บริเวณ 1,720/1,725/1,730 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 1,705 – 1,725 ส่วนนักลงทุนระยะกลางทยอยซื้อสะสมบริเวณ 1,700/1,685
โลหะเงิน ให้แนวรับบริเวณ 31.7/31.5 โดยมีแนวต้านบริเวณ 32.2/32.4 แนะนำนักลงทุน Trading ในกรอบแนวรับแนวต้าน
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 11-12,16
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8
https://plus.google....509313835/posts
https://market.andro...les.classicgold
http://web.stagram.com/n/ilovecgf/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น