บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 22 ตุลาคม 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)
ทยอยซื้อสะสม
ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,723 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวระหว่าง 1,721-1,727 USDต่อออนซ์ ราคาดีดขึ้นมาได้เล็กน้อยและแกว่งตัวแคบหลังจากดิ่งลงแรงในคืนวันศุกร์และร่วงต่อในช่วงเปิดตลาดที่ออสเตรเลีย โดยมีความกังวลต่อทางออกของปัญหาในยูโรโซนที่แม้จะได้ความเห็นพ้องกันในการจัดตั้งสหภาพธนาคารและหน่วยงานควบคุม แต่ปัจจัยความขัดแย้งระหว่างผู้นำเยอรมันกับฝรั่งเศสในรายละเอียดของบางแผนการก็ทำให้วาระการประชุมผู้นำไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนพอจะทำให้ตลาดคลายความวิตกลงไปได้ ส่วนภูมิภาคเอเชียที่ญี่ปุ่นออกมายอมรับถึงผลกระทบด้านลบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากประเด็นความขัดแย้งเรื่องดินแดนกับจีนดังที่นักวิเคราะห์บางคนได้ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ เช่นเดียวกับผลสำรวจของรอยเตอร์สที่นักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์จากหลายสถาบันมีความเห็นสอดคล้องกับรายงานความเห็นต่อการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนในช่วง 12 เดือนข้างหน้าของแบงค์ออฟอเมริกาเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าจะไม่มีการกระตุ้นด้วยวงเงินมหาศาลดังเช่นที่ผ่านมา ในขณะที่เช้าวันพรุ่งนี้ตามเวลาประเทศไทย จะมีการโต้วาทีครั้งที่ 3 ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งจากครั้งที่ 2 ทั้งรอมนีย์และโอบามา ต่างอภิปรายโต้แย้งกันถึงการดำเนินนโยบายที่มีต่อประเทศจีนหลายครั้ง ซึ่งเป็นการสร้างความขัดแย้งระหว่างประเทศยิ่งขึ้น ทำให้ตลาดอาจมีความกังวลต่อปัญหาความเปราะบางของเศรษฐกิจโลกในอนาคตได้ เนื่องจากยังไม่มีภูมิภาคใดเลยที่แข็งแรงพอจะช่วยเหลือคนอื่นได้ ดังนั้น มุมมองต่อทองคำจึงมีแนวโน้มที่จะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงต่อความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและเงินเฟ้อจากการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินทั้งในดอลลาร์, ยูโร และเยน
รอยเตอร์เผยผลสำรวจว่า เศรษฐกิจจีนอาจฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยในไตรมาส 4 หลังจากชะลอการเติบโต 7 ไตรมาสติดต่อกัน โดยจะได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลจีนเพิ่มงบลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน อย่างไรก็ดี การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนจะยังคงอยู่ในภาวะเฉื่อยชาต่อไปจนถึงสิ้นปี 2013 นอกจากนี้ ผลสำรวจยังคาดว่า จีนจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยและจะไม่ดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในช่วง 1 ปีข้างหน้า แต่อาจปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์(RRR)ลงในอนาคต โดยนักเศรษฐศาสตร์ 13 จาก 15 ราย คาดว่า รัฐบาลจีนจะไม่ผ่อนคลายมาตรการควบคุมอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในช่วงก่อนและหลังการเปลี่ยนตัวผู้นำประเทศตั้งแต่เดือน พ.ย.2012 จนถึงเดือน มี.ค.2013 แม้ว่าภาคอสังหาริมทรัพย์จะเป็นเสาหลักสำหรับเศรษฐกิจจีนที่ครองสัดส่วนกว่า 13 % ใน GDP
คณะกรรมการกำกับดูแลด้านการธนาคารของจีน(CBRC) ระบุว่าสัดส่วนหนี้หนี้เสียของธนาคารพาณิชย์สิ้นไตรมาส 3 อยู่ที่ 0.97% เพิ่มขึ้นจาก 0.90% ในช่วงสิ้นไตรมาส 2 ทั้งนี้ ธนาคารได้เพิ่มการกันสำรองไว้ที่ 290.1% ณ สิ้นเดือน ก.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้น 11% จากต้นปี เพื่อรองรับการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น ขณะที่ CBRC กำหนดให้ธนาคารทุกแห่งกันสำรองอย่างน้อย 150%.
ธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ)ปรับลดประมาณการณ์เศรษฐกิจ 8 ใน 9 ภูมิภาคของญี่ปุ่น เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสัญญาณว่าความขัดแย้งทางการทูตกับจีนและอุปสงค์ทั่วโลกที่ชะลอตัวได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่พึ่งพาการส่งออกของญี่ปุ่น
กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเผยว่า การส่งออกในเดือน ก.ย.ของญี่ปุ่นทรุดตัวลง 10.3% แรงที่สุดนับตั้งแต่เกิดเหตุแผ่นดินไหวในปีที่แล้ว ขณะที่ความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2010 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้ตอกย้ำความวิตกที่ว่า ญี่ปุ่นซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลกอาจทรุดตัวลงสู่ภาวะถดถอย ขณะที่ยอดขายไปยังจีนและยุโรปร่วงลงท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และอุปสงค์ในประเทศที่นำโดยการฟื้นฟูประเทศจากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิในปีที่ผ่านมานั้นได้ชะลอตัวลง
ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) กล่าวเตือนว่าแนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังคงไม่แน่นอนท่ามกลางความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับปัญหาหนี้สินของยุโรปและอัตราการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ในขณะที่ BOJ สนับสนุนการผ่อนคลายทางการเงินอย่างมากเพื่อเสริมความแข็งแกร่งแก่การเติบโตทางเศรษฐกิจที่คาดว่าการส่งออกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมจะอ่อนแรง แต่อุปสงค์ภายในประเทศยังคงแข็งแกร่งเนื่องมาจากความต้องการที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูประเทศหลังเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิ โดยแนวโน้มเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวปานกลางอีกครั้ง ในขณะที่เศรษฐกิจต่างประเทศก็จะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
ไม่มี
จากกราฟราย 1 และ 4 ชม. ราคาหลุด neckline ของรูปแบบ head & shoulder ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบ double top เดิมที่เคยชี้ให้เห็นเมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้ราคาร่วงลงทำจุดต่ำสุดเมื่อคืนวันศุกร์ ทำให้มีสัญญาณการดีดตัวระยะสั้นจากการเกิด divergence โดยคาดว่าจะเป็นเพียงการดีดกลับขึ้นได้ประมาณ 1,730-1,735 ก่อนร่วงลงมาทดสอบบริเวณ 1,715 อีกครั้ง โดยมีจุดรับสำคัญของรอบนี้ที่บริเวณ 1,700 ซึ่งแนะนำให้นักลงทุนซื้อสะสมในระดับต่ำกว่า 1,720 เนื่องจากภาพระยะกลางเป็นเพียงการปรับฐานในขาขึ้นเท่านั้น โดยในคืนนี้ให้แนวต้านบริเวณ 1,733/1,743 และแนวรับบริเวณ 1,715/1,700
โลหะเงิน ให้แนวต้านบริเวณ 32.5/33.0 และมีแนวรับบริเวณ 31.6/31.2 แนะนำนักลงทุน Trading ในกรอบ 31.2-33.0
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 11-12,16
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8
https://plus.google....509313835/posts
https://market.andro...les.classicgold
http://web.stagram.com/n/ilovecgf/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น