วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 26 ตุลาคม 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 26 ตุลาคม 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

คืนนี้ 1,700 ต้อง "เอาอยู่"

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,714 USDต่อออนซ์ จากนั้นก็อ่อนตัวลงมาเรื่อย ๆ ตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกที่อยู่ในแดนลบ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่พลิกกลับที่ยืนเหนือระดับ 80 และค่าเงินยูโรที่ร่วงหลุดระดับ 1.30 ยูโรต่อดอลลาร์ ทำให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวอ่อนตัวระหว่าง 1,700-1,714 USDต่อออนซ์ แม้เมื่อคืนนี้ เฟดได้ออกมาการันตีว่าจะดำเนินนโยบายกดดอกเบี้ยให้ต่ำสุดต่อไปพร้อมกับใช้มาตรการ QE3 อย่างต่อเนื่องจนกว่าภาวะการจ้างงานสหรัฐจะดีขึ้นก็ตาม ทั้งนี้ ราคาทองคำกำลังทดสอบระดับแนวรับทางจิตวิทยาที่ 1,700 USDต่อออนซ์ ซึ่งมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนว่าจะยังคงแนวโน้มในทิศทางขาขึ้นในระยะกลางถึงยาวได้ต่อไปหรือไม่? โดยมีโอกาสที่ราคาจะหลุดระดับดังกล่าวลงไป แต่หากมีการดีดกลับขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วแล้ว ก็จะทำให้ภาพรวมของขาขึ้นยังคงไม่เสียหาย และจะเป็นเพียงการปรับฐานในกรอบ 1,700-1,800 USDต่อออนซ์ ไปอีกระยะหนึ่งเท่านั้น แต่ถ้าหากราคาร่วงถึงระดับ 1,680 USDต่อออนซ์ ก็จะเสี่ยงต่อการปรับฐานที่ยาวนานมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำในระดับปัจจุบันถือได้ว่าน่าซื้อสะสม ทั้งการเก็งกำไรระยะสั้นและการลงทุนระยะยาว เนื่องจากหากพิจารณาจากประเด็นความอ่อนแอทางเศรษฐกิจของหลายภูมิภาคทั่วโลกและการอัดฉีดเม็ดเงินสกุลหลักจากหลายประเทศ ก็ทำให้มีแนวโน้มที่นักลงทุนจะแสวงหาสินทรัพย์ที่สามารถรักษามูลค่าเอาไว้ได้ในระยะยาว ซึ่งโลหะมีค่าทั้งทองคำและเงินต่างก็เป็นตัวเลือกที่สำคัญ ทั้งนี้ จากการประเมินภาพรวม ในคืนนี้จำเป็นที่ราคาทองคำจะต้องยืนอยู่เหนือระดับ 1,700 USDต่อออนซ์ เพื่อให้ภาพเชิงบวกต่อทิศทางในสัปดาห์หน้า

ธนาคารกลางสหรัฐ(FED)ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในกรอบ 0-0.25% ด้วยมติ 11 ต่อ 1 เสียง ซึ่งเป็นระดับที่ได้กำหนดไว้ในการประชุมเดือน ธ.ค.2551 โดยย้ำว่าเฟดจะยังคงรักษาอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปอย่างน้อยจนถึงกลางปี 2558 และจะดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 ต่อไป ด้วยการเข้าซื้อหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนอง(MBS) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ทุกเดือน จนกว่าแนวโน้มในตลาดแรงงานจะปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ จะยังคงมาตรการ Operation Twist ไปจนถึงสิ้นปีนี้ตามที่ได้มีการประกาศไว้ก่อนหน้า

ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF)เตือนว่า การปฏิรูปภาคการเงินที่ยังไม่แล้วเสร็จกำลังถ่วงการฟื้นตัวของภาคส่วนที่สำคัญในเศรษฐกิจโลก พร้อมทั้งเรียกร้องให้ผู้นำทำทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อฟื้นฟูระบบการเงินของโลก ซึ่งฟื้นตัวขึ้นจากวิกฤติซับไพรม์ แต่กลับอ่อนแอลงอีกจากวิกฤติหนี้ยูโรโซน โดยมีกลุ่มผลประโยชน์หลายกลุ่มที่กำลังขัดขวางการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบใหม่ว่าจะเป็นภาระมากเกินไป แต่กลับทุ่มเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์ในการล็อบบี้เพื่อคัดค้านการออกกฎ

ธนาคารกลางยุโรป(ECB) เผยว่าเงินฝากเดือน ก.ย.ในธนาคารสเปนและกรีซเพิ่มขึ้น หลังจากที่มีการแห่ถอนเงินเนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับฐานะการคลังของทั้งสองประเทศ โดยปริมาณเงินฝากของภาคเอกชนในธนาคารสเปน เพิ่มสู่ระดับ 1.505 ล้านล้านยูโร จาก 1.492 ล้านล้านยูโร ส่วนปริมาณเงินฝากของธนาคารกรีซ เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.601 แสนล้านยูโร จาก1.587 แสนล้านยูโร แต่เงินฝากรวมยังคงลดลงราว 1 ใน 3 จากระดับสูงสุดในเดือน ธ.ค.2552 และในอิตาลีเพิ่มสู่ระดับ 1.467 ล้านล้านยูโรจาก 1.437 ล้านล้านยูโร นอกจากนี้ ปริมาณเงินฝากในไอร์แลนด์แทบไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนในโปรตุเกสลดลงไม่ถึง 1%

อัตราว่างงานของสเปนปรับตัวสูงขึ้นแตะ 25% ณ สิ้นไตรมาส 3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และสูงเป็นอันดับ 2 รองจากกรีซ ในบรรดาประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป(EU) ส่งผลให้จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.78 ล้านคน

ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมนี เดือน พ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 6.3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า แม้ชาวเยอรมนียังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ แต่ก็เต็มใจที่จะเพิ่มการจับจ่าย โดยดัชนีแนวโน้มการซื้อเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 33.9 จาก 33.1 ส่วนดัชนีคาดการณ์รายได้พุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 29.9 จาก 23.9
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคฝรั่งเศสเดือน ต.ค.ลดลงแตะ 84 จาก 85 ในเดือน ก.ย. เนื่องจากชาวฝรั่งเศสมีมุมมองเชิงลบมากขึ้นเกี่ยวกับฐานะการเงินในภาคครัวเรือนและคาดว่าอัตราว่างงานจะสูงขึ้น

ครม.ญี่ปุ่นอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 4.226 แสนล้านเยน (5.3 พันล้านดอลลาร์) ประกอบด้วยมาตรการให้เงินอุดหนุนและลดหย่อนภาษี ซึ่งจะเป็นการนำเงินในคลังสำรองมาใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการขายพันธบัตรใหม่ แต่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลมีงบประมาณจำกัดในการเพิ่มการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
คาดฮ่องกงยังผูกติดค่าเงินกับดอลล์สหรัฐต่อไป แม้ปัจจัยทางการเมืองและเศรษฐกิจกำลังสร้างความยากลำบากให้แก่ฮ่องกงในการรักษาระบบผูกค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกงไว้กับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งความพยายามดังกล่าวอาจส่งผลให้ราคาอสังหาริมทรัพย์พุ่งสูงขึ้นไปอีก ทั้งนี้ มีการเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราไปแล้ว 4 ครั้ง ในเวลาเพียงสัปดาห์เดียว โดยมีการขายดอลลาร์ฮ่องกงออกมา 1.44 หมื่นล้าน (1.85 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และนักวิเคราะห์คาดว่าอาจมีการแทรกแซงต่อไปให้เป็นไปตามกรอบเป้าหมายที่ระดับ 7.75-7.85 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อดอลลาร์สหรัฐ


ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม  ได้แก่
19:30น. GDP ไตรมาส 3/2012 (ตัวเลขประมาณการณ์ครั้งแรก) – เป็นตัวเลขที่คาดการณ์ล่วงหน้าก่อนการรวบรวมข้อมูลจริงจะเสร็จสิ้น จึงถือเป็นการประเมินจากข้อมูลดิบ ซึ่งจะให้ผลเพียงการประมาณเท่านั้น แต่มักส่งผลต่อความเชื่อมั่นและทิศทางต่อเศรษฐกิจโดยรวม เนื่องจากเป็นตัวเลขชุดแรกที่ออกประกาศ ซึ่งจากยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนล่าสุดที่ประกาศออกมาเมื่อคืนนี้ พุ่งขึ้น แต่ถ้าหากไม่รวมยอดคำสั่งซื้ออากาศยานและยุทโธปกรณ์ทางการทหารแล้ว ถือว่าไม่ดีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐเท่าใดนัก ซึ่งนักวิเคราะห์บางสำนักได้ประเมินตัวเลข GDP ลดลงจากเดิม ทำให้ค่าเฉลี่ยที่คาดการณ์ไว้ในคืนนี้ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะ +1.9% เหลือ +1.7% อย่างไรก็ตาม หากตัวเลขที่จะประกาศในคืนนี้ใกล้เคียงระดับ +2% ก็จะเป็นผลลบต่อราคาทองคำ แต่หากอยู่ในระดับ +1.5% ก็คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก

20:55น. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ต.ค. โดย ม.มิชิแกน (ตัวเลขทบทวน) – เป็นการสรุปผลสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐจากประชาชน 500 คน ที่เคยประมาณไว้ในการประกาศครั้งก่อนหน้า ซึ่งจากตัวเลขที่สูงกว่าระดับ 80 ทั้งก่อนหน้าและคาดการณ์ จึงแสดงถึงผลบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ แต่จะส่งผลลบต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ตาม หากตัวเลขที่จะประกาศในคืนนี้อยู่ในช่วง 80-85 ก็คาดว่าจะมีผลต่อราคาทองคำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์หน้า(29 ต.ค.-2 พ.ย.) :  จันทร์ รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล เดือน ก.ย., ดัชนีการผลิตเขตมิดเวสต์ เดือน ก.ย.  อังคาร ราคาบ้าน เดือน ส.ค., ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ เดือน ต.ค.  พุธ ตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศ เดือน ต.ค., ต้นทุนการจ้างงาน ไตรมาส 3/2012, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) เขตชิคาโก เดือน ต.ค., ตัวเลขสต็อคน้ำมัน รายสัปดาห์  พฤหัสบดี จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน รายสัปดาห์, ตัวเลขประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงาน ไตรมาส 3/2012 (ประมาณการณ์ครั้งแรก), ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง เดือน ก.ย., ดัชนีภาคการผลิต เดือน ต.ค.  ศุกร์ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือน ต.ค., ดัชนีภาวะธุรกิจ (นิวยอร์ค) เดือน ต.ค., ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือน ต.ค.

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 11-12,16
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chaibsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://www.classicgo...es.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8
https://plus.google....509313835/posts
https://market.andro...les.classicgold
http://web.stagram.com/n/ilovecgf/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น