บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 25 ตุลาคม 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)
Rebound ช่วงสั้น?
ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,706 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวระหว่าง 1,705 - 1,717 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำ Rebound กลับขึ้นมาหลังจากลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1,700 โดยได้รับแรงหนุนจากการที่เฟดยังคงเดินหน้าใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษ เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจและลดอัตราว่างงานซึ่งยังอยู่ในระดับที่สูง อีกทั้ง การที่ผู้บริโภคและบริษัทต่างๆนำเงินกลับเข้าฝากในธนาคารของสเปนและกรีซในเดือนที่แล้ว แสดงถึงความมั่นใจในเสถียรภาพของทั้ง 2 ประเทศมากขึ้น ส่งผลหนุนให้ค่าเงินยูโร และราคาทองคำ ปรับตัวสูงขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม การขึ้นของราคาทองคำยังอยู่ในระยะจำกัด เนื่องจาก ตัวเลขการว่างงานของฝรั่งเศสที่อยู่ในระดับสูง การที่มูดี้ส์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ Liberbank ของสเปน และการเจรจาระหว่างเจ้าหนี้กับกรีซยังคงไม่มีข้อตกลงที่ชัดเจน ดังนั้น โดยภาพรวมแล้ว หากยังไม่มีประเด็นบวกที่ชัดเจนเข้ามากระตุ้นแรงซื้อของตลาด ราคาทองคำมีแนวโน้มอ่อนตัวลงมาต่อ โดยให้ดูแนวต้าน 1,730 เป็นสำคัญ หากยังไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านดังกล่าว ราคาทองคำมีโอกาสปรับลดลงต่อในระยะถัดไป
ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เปิดเผยว่า ผู้บริโภคและบริษัทต่างๆนำเงินกลับเข้าฝากในธนาคารของสเปนและกรีซในเดือนที่แล้ว หลังจากที่มีการแห่ถอนเงิน เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับฐานะการคลังของทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ ปริมาณเงินฝากของภาคเอกชนในธนาคารสเปนเพิ่มสู่ระดับ 1.505 ล้านล้านยูโร ณ สิ้นเดือนก.ย. จาก 1.492 ล้านล้านยูโรในเดือนที่แล้ว หลังจากที่ลดลงในเดือนส.ค. โดยปริมาณเงินฝากของธนาคารกรีซเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.601 แสนล้านยูโร จาก1.587 แสนล้านยูโร โดยปริมาณเงินฝากมีเสถียรภาพพอสมควร นับตั้งแต่การเลือกตั้งในเดือนมิ.ย.ช่วยคลายความวิตกที่ว่า กรีซอาจจะออกจากยูโรโซน แต่เงินฝากก็ยังคงลดลงราว 1 ใน 3 จากระดับสูงสุดในเดือนธ.ค.2009 ขณะที่ ปริมาณเงินฝากของไอร์แลนด์แทบไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่ปริมาณเงินฝากของโปรตุเกสลดลงไม่ถึง 1% ส่วนปริมาณเงินฝากในอิตาลีเพิ่มสู่ระดับ 1.467 ล้านล้านยูโร จาก 1.437 ล้านล้านยูโรในเดือนส.ค ข้อมูลดังกล่าวมักจะมีความผันผวนในแต่ละเดือน แต่ปริมาณเงินฝากที่ลดลงอย่างมากติดต่อกันในประเทศที่มีระบบธนาคารที่มีเสถียรภาพนั้น ถือเป็นเรื่องผิดปกติ
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยว่า การเจรจากับรัฐบาลกรีซยังคงดำเนินต่อไป และยังไม่มีการทำข้อตกลงเกี่ยวกับการทบทวนการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของกรีซจนถึงขณะนี้ ซึ่งยังคงหารือกับรัฐบาลกรีซในเรื่องนโยบายต่างๆที่ควรจะนำมาใช้ เพื่อให้การทบทวนมาตรการเศรษฐกิจรอบแรกเสร็จสมบูรณ์ การหารือมีความคืบหน้าในช่วงหลายวันที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีบางประเด็นที่ยังค้างคาซึ่งจะต้องมีการทำข้อตกลงในระดับเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ จะมีการหารือในประเด็นการเงินระหว่างเจ้าหน้าที่ของกลุ่มเจ้าหนี้และรัฐบาลกรีซด้วย
จำนวนผู้ว่างงานในฝรั่งเศสในเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 17 ติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้น 1.6% จากเดือนส.ค. สู่ระดับ 3,057,900 ราย และหากเทียบรายปี จำนวนผู้ว่างงานพุ่งขึ้น 10.1% ซึ่งชาวฝรั่งเศสที่ว่างงานเพิ่มมากขึ้นได้สร้างความกดดันต่อประธานาธิบดีฟรอง ซัวส์ ออลลองด์ของฝรั่งเศส ที่ได้ให้คำมั่นที่จะลดอัตราว่างงาน พร้อมกันส่งเสริมการจ้างงานในกลุ่มคนหนุ่มสาว ในเดือนก.ย. จำนวนผู้ว่างงานในกลุ่มคนหนุ่มสาวได้เพิ่มขึ้น 2.2% จากเดือนส.ค. แตะระดับ 485,400 ราย
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เบื้องต้นของอังกฤษในไตรมาส 3 ปีนี้ ขยายตัว 1.0% จากช่วงไตรมาส 2 ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่แข็งแกร่งที่สุดนับแต่ไตรมาส 3 ปี 2550 และเมื่อเทียบรายปี การเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับทรงตัว จีดีพีของอังกฤษหดตัวลง 0.4% ในช่วงไตรมาส 2 และร่วงลง 0.3% ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ และการที่จีดีพีไตรมาส 3 มีการขยายตัวแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 5 ปี ก็ช่วยให้เศรษฐกิจของอังกฤษรอดพ้นจากภาวะถดถอย โดยจีดีพีไตรมาส 3 ได้รับแรงหนุนจากช่วงวันหยุดพิเศษในงานเฉลิมฉลองการครองราชย์ครบ 60 ปีของสมเด็จพระราชินีในเดือนมิ.ย.และยอดจำหน่ายตั๋วสำหรับเข้าชมการแข่งขัน กีฬาโอลิมปิก
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
- 19:30 จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน รายสัปดาห์
- 19:30 ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือน ก.ย.
- 21:00 ยอดบ้านที่รอการปิดการขาย เดือน ก.ย.
ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐข้างต้นที่จะประกาศมาออกมาในคืนนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าตัวเลขเหล่านี้มีแนวโน้มจะปรับตัวดีขึ้น ซึ่งส่งผลบวกต่อภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ และค่าเงิน US dollar แต่กลับกระทบให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อได้
ราคาทองคำ ภาพกราฟทางเทคนิคในรายวันราคาปรับตัวลดลงมาใกล้บริเวณโซนแนวรับทางจิตวิทยา 1,700 เส้น MA 75 วันเส้น MA 200 วันบริเวณ 1,685 – 1,660 คาดว่าเมื่อถึงแนวรับดังกล่าวอาจมีการ rebound ขึ้นได้ โดยมีแนวต้านบริเวณ 1,715/1,720/1,730 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 1,685 – 1,730 ส่วนนักลงทุนระยะกลางทยอยซื้อสะสมบริเวณ 1,700/1,685
โลหะเงิน ให้แนวรับบริเวณ 31.5/31.2 โดยมีแนวต้านบริเวณ 32.5/33.0 แนะนำนักลงทุน Trading ในกรอบแนวรับแนวต้าน
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 11-12,16
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8
https://plus.google....509313835/posts
https://market.andro...les.classicgold
http://web.stagram.com/n/ilovecgf/
Rebound ช่วงสั้น?
ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,706 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวระหว่าง 1,705 - 1,717 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำ Rebound กลับขึ้นมาหลังจากลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1,700 โดยได้รับแรงหนุนจากการที่เฟดยังคงเดินหน้าใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษ เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจและลดอัตราว่างงานซึ่งยังอยู่ในระดับที่สูง อีกทั้ง การที่ผู้บริโภคและบริษัทต่างๆนำเงินกลับเข้าฝากในธนาคารของสเปนและกรีซในเดือนที่แล้ว แสดงถึงความมั่นใจในเสถียรภาพของทั้ง 2 ประเทศมากขึ้น ส่งผลหนุนให้ค่าเงินยูโร และราคาทองคำ ปรับตัวสูงขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม การขึ้นของราคาทองคำยังอยู่ในระยะจำกัด เนื่องจาก ตัวเลขการว่างงานของฝรั่งเศสที่อยู่ในระดับสูง การที่มูดี้ส์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ Liberbank ของสเปน และการเจรจาระหว่างเจ้าหนี้กับกรีซยังคงไม่มีข้อตกลงที่ชัดเจน ดังนั้น โดยภาพรวมแล้ว หากยังไม่มีประเด็นบวกที่ชัดเจนเข้ามากระตุ้นแรงซื้อของตลาด ราคาทองคำมีแนวโน้มอ่อนตัวลงมาต่อ โดยให้ดูแนวต้าน 1,730 เป็นสำคัญ หากยังไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านดังกล่าว ราคาทองคำมีโอกาสปรับลดลงต่อในระยะถัดไป
ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เปิดเผยว่า ผู้บริโภคและบริษัทต่างๆนำเงินกลับเข้าฝากในธนาคารของสเปนและกรีซในเดือนที่แล้ว หลังจากที่มีการแห่ถอนเงิน เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับฐานะการคลังของทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ ปริมาณเงินฝากของภาคเอกชนในธนาคารสเปนเพิ่มสู่ระดับ 1.505 ล้านล้านยูโร ณ สิ้นเดือนก.ย. จาก 1.492 ล้านล้านยูโรในเดือนที่แล้ว หลังจากที่ลดลงในเดือนส.ค. โดยปริมาณเงินฝากของธนาคารกรีซเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.601 แสนล้านยูโร จาก1.587 แสนล้านยูโร โดยปริมาณเงินฝากมีเสถียรภาพพอสมควร นับตั้งแต่การเลือกตั้งในเดือนมิ.ย.ช่วยคลายความวิตกที่ว่า กรีซอาจจะออกจากยูโรโซน แต่เงินฝากก็ยังคงลดลงราว 1 ใน 3 จากระดับสูงสุดในเดือนธ.ค.2009 ขณะที่ ปริมาณเงินฝากของไอร์แลนด์แทบไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่ปริมาณเงินฝากของโปรตุเกสลดลงไม่ถึง 1% ส่วนปริมาณเงินฝากในอิตาลีเพิ่มสู่ระดับ 1.467 ล้านล้านยูโร จาก 1.437 ล้านล้านยูโรในเดือนส.ค ข้อมูลดังกล่าวมักจะมีความผันผวนในแต่ละเดือน แต่ปริมาณเงินฝากที่ลดลงอย่างมากติดต่อกันในประเทศที่มีระบบธนาคารที่มีเสถียรภาพนั้น ถือเป็นเรื่องผิดปกติ
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยว่า การเจรจากับรัฐบาลกรีซยังคงดำเนินต่อไป และยังไม่มีการทำข้อตกลงเกี่ยวกับการทบทวนการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของกรีซจนถึงขณะนี้ ซึ่งยังคงหารือกับรัฐบาลกรีซในเรื่องนโยบายต่างๆที่ควรจะนำมาใช้ เพื่อให้การทบทวนมาตรการเศรษฐกิจรอบแรกเสร็จสมบูรณ์ การหารือมีความคืบหน้าในช่วงหลายวันที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีบางประเด็นที่ยังค้างคาซึ่งจะต้องมีการทำข้อตกลงในระดับเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ จะมีการหารือในประเด็นการเงินระหว่างเจ้าหน้าที่ของกลุ่มเจ้าหนี้และรัฐบาลกรีซด้วย
จำนวนผู้ว่างงานในฝรั่งเศสในเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 17 ติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้น 1.6% จากเดือนส.ค. สู่ระดับ 3,057,900 ราย และหากเทียบรายปี จำนวนผู้ว่างงานพุ่งขึ้น 10.1% ซึ่งชาวฝรั่งเศสที่ว่างงานเพิ่มมากขึ้นได้สร้างความกดดันต่อประธานาธิบดีฟรอง ซัวส์ ออลลองด์ของฝรั่งเศส ที่ได้ให้คำมั่นที่จะลดอัตราว่างงาน พร้อมกันส่งเสริมการจ้างงานในกลุ่มคนหนุ่มสาว ในเดือนก.ย. จำนวนผู้ว่างงานในกลุ่มคนหนุ่มสาวได้เพิ่มขึ้น 2.2% จากเดือนส.ค. แตะระดับ 485,400 ราย
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เบื้องต้นของอังกฤษในไตรมาส 3 ปีนี้ ขยายตัว 1.0% จากช่วงไตรมาส 2 ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่แข็งแกร่งที่สุดนับแต่ไตรมาส 3 ปี 2550 และเมื่อเทียบรายปี การเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับทรงตัว จีดีพีของอังกฤษหดตัวลง 0.4% ในช่วงไตรมาส 2 และร่วงลง 0.3% ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ และการที่จีดีพีไตรมาส 3 มีการขยายตัวแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 5 ปี ก็ช่วยให้เศรษฐกิจของอังกฤษรอดพ้นจากภาวะถดถอย โดยจีดีพีไตรมาส 3 ได้รับแรงหนุนจากช่วงวันหยุดพิเศษในงานเฉลิมฉลองการครองราชย์ครบ 60 ปีของสมเด็จพระราชินีในเดือนมิ.ย.และยอดจำหน่ายตั๋วสำหรับเข้าชมการแข่งขัน กีฬาโอลิมปิก
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
- 19:30 จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน รายสัปดาห์
- 19:30 ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือน ก.ย.
- 21:00 ยอดบ้านที่รอการปิดการขาย เดือน ก.ย.
ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐข้างต้นที่จะประกาศมาออกมาในคืนนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าตัวเลขเหล่านี้มีแนวโน้มจะปรับตัวดีขึ้น ซึ่งส่งผลบวกต่อภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ และค่าเงิน US dollar แต่กลับกระทบให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อได้
ราคาทองคำ ภาพกราฟทางเทคนิคในรายวันราคาปรับตัวลดลงมาใกล้บริเวณโซนแนวรับทางจิตวิทยา 1,700 เส้น MA 75 วันเส้น MA 200 วันบริเวณ 1,685 – 1,660 คาดว่าเมื่อถึงแนวรับดังกล่าวอาจมีการ rebound ขึ้นได้ โดยมีแนวต้านบริเวณ 1,715/1,720/1,730 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 1,685 – 1,730 ส่วนนักลงทุนระยะกลางทยอยซื้อสะสมบริเวณ 1,700/1,685
โลหะเงิน ให้แนวรับบริเวณ 31.5/31.2 โดยมีแนวต้านบริเวณ 32.5/33.0 แนะนำนักลงทุน Trading ในกรอบแนวรับแนวต้าน
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 11-12,16
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8
https://plus.google....509313835/posts
https://market.andro...les.classicgold
http://web.stagram.com/n/ilovecgf/
- คุณชอบสิ่งนี้
- ไม่ชอบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น