วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2556 ช่วงเย็น


บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2556 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) 

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,670 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวระหว่าง 1,669 - 1,673 USDต่อออนซ์  ราคาทองคำยังสามารถทรงตัวเหนือระดับ 1,660 
โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลการค้าที่สดใสของจีนหนุนการคาดการณ์ ที่ว่า เศรษฐกิจโลกจะแข็งแกร่งขึ้น และอาจส่งผลให้อุปสงค์ทองคำมีมากขึ้นก่อนเทศกาลตรุษจีน อีกทั้ง 
แนวโน้มที่เฟดจะยังคงดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณต่อไป อาจกดดันให้ค่าเงิน US dollar กลับมาอ่อนค่าลงอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อราคาทองคำในระยะถัดไป 
แต่ทั้งนี้ การที่ ECB มีแนวโน้มเข้าแทรกแซงค่าเงินยูโร และภาพรวมของเศรษฐกิจโลกที่มีทิศทางที่ดีขึ้น อาจเป็นแรงกดดันต่อราคาทองคำได้ ทั้งนี้ ข่าวบวก/ลบ ที่ไม่ชัดเจนนี้ 
อาจมีผลทำให้ราคาเคลื่อนไหวผันผวนได้ โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์หน้าที่เป็นช่วงวันหยุดยาวของจีน อาจส่งผลให้ราคาเคลื่อนไหวผันผวน ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง 
จึงควรใช้ความระมัดระวังในการลงทุนในช่วงสัปดาห์หน้า สำหรับภาพทางเทคนิค ราคาทองคำยังไม่ส่งสัญญาณบวก/ลบ ที่ชัดเจน ดังนั้น จับตาดูกรอบ 1,663 – 1,683 
หากทะลุผ่านด้านใดด้านหนึ่งจะเป็นทิศทางบวก/ลบในระยะถัดไป  

ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) 
ด้วยการเข้าซื้อตราสารหนี้ต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้ ถึงแม้มีสัญญาณบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของสหรัฐ และมีความกังวลมากยิ่งขึ้นในเรื่องความเสี่ยงของ QE  
โดยนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก กล่าวว่า เฟดอาจจะต้องเข้าซื้อตราสารหนี้ต่อไปจนถึงสิ้นปีนี้หรือต่อไปในปีหน้า และเฟดอาจจำเป็นต้องดำเนินมาตรการเพิ่มเติม 
ถ้าหากแรงกดดันทางการคลังอยู่ในระดับที่รุนแรงเกินคาด

จีน การส่งออกพุ่งขึ้น 25.0% ในเดือนม.ค. จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย.2011 และสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 
17% ส่วนการนำเข้าพุ่งขึ้น 28.8% ในเดือนม.ค. ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 23.3% ซึ่งสะท้อนถึงภาวะอุปสงค์ที่สดใสในประเทศ

จีน ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค.ปรับตัวลง 1.6% เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่ลดลง 1.9% ในเดือนธ.ค.2555 เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PPI 
เดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือนธ.ค. โดยดัชนี PPI ในเดือนม.ค.ร่วงลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกัน หลังจากที่ดัชนี PPI อ่อนแรงลงในเดือนมี.ค.2555 
ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับแต่เดือนธ.ค.2552 อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กล่าวว่า ดัชนี PPI ปรับตัวลงในอัตราที่ช้ากว่าเดือนธ.ค. 
ซึ่งบ่งชี้ว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนกำลังมีเสถียรภาพ

การส่งออกของเยอรมนีในเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากที่ร่วงลง 2.2% ในเดือนพ.ย. แต่หากเทียบรายปี 
การส่งออกของเยอรมนีหดตัวลง 6.9% จากเดือนธ.ค.2554 ส่วนการนำเข้าในเดือนธ.ค.ลดลง 1.3% เมื่อเทียบรายเดือน และร่วงลง 7.3% 
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สำหรับตลอดปี 2555 มูลค่าการส่งออกขยายตัว 3.4% แตะ 1.097 ล้านล้านยูโร ซึ่งทำสถิติใหม่เหนือ 1 ล้านล้านยูโร 
ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 0.7% สู่ระดับ 9.092 แสนล้านยูโร ซึ่งเป็นระดับที่สูงเป็นประวัติการณ์เช่นกัน

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตาม  ได้แก่
20:30 ดุลการค้า เดือน ธ.ค. -- การขาดดุลการค้ามีผลต่อค่าเงินดอลลาร์โดยตรง แต่ไม่ค่อยมีผลต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ตาม 
ดุลการค้าที่ขาดทุนลดลง อาจเป็นผลลบต่อราคาทองคำในระยะสั้น 

20:30 ยอดสต๊อคสินค้า ภาคค้าส่ง เดือน ธ.ค. --- การเพิ่มขึ้นของยอดสต๊อคสินค้า ภาคค้าส่ง เป็นการแสดงให้เห็นถึงการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ 
ซึ่งขึ้นอยู่กับช่วงฤดูกาลด้วย ดังนั้น หากคืนนี้ยอดสต๊อคสินค้า ภาคค้าส่ง ปรับลดลงตามคาดอาจจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ


การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์หน้า (11-15 ก.พ.) มีดังนี้:  วันจันทร์  ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ  วันอังคาร  
งบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนม.ค.  วันพุธ  ราคานำเข้าและส่งออกเดือนม.ค.  ยอดค้าปลีกเดือนม.ค.  ตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนธ.ค.  
ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์  วันพฤหัสบดี   จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์  วันศุกร์   ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนก.พ.  
ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติเดือนธ.ค.  ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิต เดือนม.ค.   
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนก.พ.

ประเด็นที่ต้องติดตาม การใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน และ ญี่ปุ่น การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของจีน 8 ก.พ.  
IAEA ประชุมกับอิหร่านเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ 13 ก.พ.ฟ

  ทองคำ  ภาพกราฟทางเทคนิค แนวโน้มการขึ้นของราคายังไม่แข็งแรง หากสามารถดีดตัวกลับขึ้นไป ยังเผชิญกับแนวต้านหลายแนว อาทิ 1,676/1,682 
อย่างไรก็ตาม หากผ่านแนวต้านทั้ง 2 ได้ มีโอกาสขึ้นไปทดสอบบริวณ 1,695 และการทะลุบริเวณ 1,695 จะส่งสัญญาณบวกที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม Indicators 
ยังส่งสัญญาณลบ ดังนั้น การปรับขึ้นของราคาอาจอยู่ในกรอบที่จำกัด และอาจอ่อนตัวลงมาเมื่อเผชิญกับแนวต้านสำคัญ ดังนั้น จับตาดูแนวรับบริเวณ 1,668/1,663 
หากยังไม่หลุดแนวรับดังกล่าว ยังเป็นสัญญาณบวก แต่การหลุดแนวรับดังกล่าว โดยเฉพาะหลุดฐานรับบริเวณ 1,656/1,650 จะส่งสัญญาณลบที่ชัดเจน โดยในคืนนี้ 
ให้กรอบแนวรับ 1,668/1,663/1,656 และแนวต้าน 1,676/1,682/1,695--- 
สำหรับสัปดาห์หน้า ราคายังส่งสัญญาณลบ ดังนั้น หากคืนนี้ ราคาไม่สามารถยืนเหนือ 1,660 การเคลื่อนไหวในกรอบสัปดาห์หน้าจะอยู่ที่บริเวณ 1,625 – 1,685  

  โลหะเงิน  ให้แนวต้านบริเวณ 31.8/31.9 มีแนวรับบริเวณ 31.3/31.2  แนะนำ Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 11-12,16
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
https://itunes.apple.com/th/app/classic-gold/id464234361?mt=8
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
https://market.android.com/details?id=com.codemobiles.classicgold 
http://web.stagram.com/n/ilovecgf/
http://www.classicgoldgroup.tumblr.com 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น