บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2556 ช่วงเย็น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2556 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) 

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,595 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบ 1,588 - 1,595 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำยังมีแนวโน้มปรับขึ้นได้ 
หลังจากความไม่แน่นอนทางการเมืองหลังการเลือกตั้งของอิตาลีทำให้เกิดความวิตกอีกครั้งเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ยูโรโซน ส่งผลให้ นักลงทุนเริ่มกลับเข้ามาซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์
ปลอดภัยอีกครั้ง อีกทั้ง การที่ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้าแสดงความเห็นที่เป็นบวกต่อมาตรการ QE ส่งผลหนุนราคาทองคำอีกทาง อย่างไรก็ตาม การซื้อขายยังเป็น
ไปอย่างเบาบาง เนื่องจาก นักลงทุนชะลอการลงทุนก่อนการแถลงการณ์ของนาย เบน เบอร์นันเก้ ในคืนนี้ ต่อเนื่องถึงพรุ่งนี้ ว่าจะมีมุมมองต่อเศรษฐกิจสหรัฐอย่างไร 
และจะกำหนดนโยบายไปในทางใด ซึ่งหากมีแนวโน้มกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม อาจเป็นแรงส่งให้ราคาทองคำ ยืนเหนือระดับ 1,600 ในระยะถัดไปได้ อย่างไรก็ตาม 
ทิศทางราคาทองคำ ยังอยู่ในแนวโน้มขาลงระยะกลาง ดังนั้น อาจพบแรงขายในทุกๆ แนวต้านสำคัญ

นายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา กล่าวว่าเฟดควรยังคงดำเนินการซื้อพันธบัตรต่อไปเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
ของสหรัฐ โดยแผนการซื้อสินทรัพย์อย่างต่อเนื่องเพื่อหนุนการฟื้นตัวและภาวะการจ้างงานของประเทศยังคงมีความเหมาะสมสำหรับในขณะนี้ และเชื่อว่าแนวทางในปัจจุบันจะมีความ
เหมาะสมไปจนถึงช่วงครึ่งหลังของปีนี้เป็นอย่างน้อยที่สุด ก่อนหน้านี้ ตลาดมีความกังวลว่าเฟดจะยุติแผนการซื้อสินทรัพย์เร็วกว่าที่คาด หลังจากที่รายงานการประชุมนโยบายของ
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) เมื่อวันที่ 29-30 ม.ค.ระบุว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายระดับสูงของเฟดหลายรายวิตกว่าการดำเนินนโยบายการเงิน
ที่ผ่อนคลายมากเป็นพิเศษอาจทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น และกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินในอนาคต

ยุโรปดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุนชาวจีนได้มากกว่าสหรัฐถึงสองเท่าในระยะ 2 ปีที่ผ่านมา จากโอกาสทางการค้าและเหตุผลทางการเมือง ทั้งนี้ 
กระแสเงินลงทุนโดยตรงรายปีจากจีนที่ไหลเข้าสู่สหภาพยุโรป (อียู) เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ไม่เกิน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐก่อนปี 2551 สู่ระดับเฉลี่ย 3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2552 
และ 2553 ก่อนที่จะเพิ่มขึ้น 3 เท่ามาอยู่ที่กว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ใน 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจัยหนุนสำคัญของยอดลงทุนจากจีนในยุโรปก็คือลู่ทางการค้าที่เป็นผลมาจากวิกฤตการ
คลังและเศรษฐกิจในยูโรโซน โดยนักลงทุนจีนได้ฉกฉวยโอกาสเข้าซื้อสินทรัพย์และอุตสาหกรรมในยุโรปที่ประสบปัญหาทางการเงิน ซึ่งมีผลตอบแทนระยะยาวที่มีเสถียรภาพ 
อาทิ สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานต่างๆ


ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตาม  ได้แก่
- 21:00 ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในเขต 20 เมืองใหญ่ เดือน ธ.ค. -- เป็นดัชนีประเมินสภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่สำคัญ มีความเกี่ยวข้องกับระดับความเชื่อมั่น,
 ความมั่งคั่ง และการใช้จ่ายของประชาชน โดยวิกฤติซับไพรม์ทำให้ราคาบ้านตกลงเรื่อย ๆ ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แม้ราคาจะยังไม่ฟื้นตัวมากนักก็ตาม แต่ก็เริ่มทรงตัวได้ 
โดยคาดว่าอานิสงค์จากมาตรการ QE3-4 จะช่วยหนุนให้ดัชนีดังกล่าวปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตัวเลขที่ดีขึ้น จะส่งผลลบต่อราคาทองคำ

- 21:00 ดัชนีราคาที่อยู่อาศัย เดือน ธ.ค. -- เป็นระดับราคาซื้อขายโดยเฉลี่ยทั่วประเทศของหนี้จำนองในพอร์ตสินเชื่อของธนาคาร ซึ่งใช้ประกอบกับดัชนี
ราคาที่อยู่อาศัยในเขต 20 เมืองใหญ่ ของ S&P/CS ได้ แต่เมื่อเทียบกับราคาทองคำแล้ว การประกาศในระดับบวกหรือลบไม่เกิน 1.5% จะไม่มีผลกระทบ

- 22:00 ประธาน Fed เบน เบอร์นันเก้ รายงานข้อมูลและมุมมองทางเศรษฐกิจต่อกรรมาธิการเศรษฐกิจของวุฒิสภา

- 22:00 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ก.พ. -- สำรวจความคิดเห็นในปัจจุบันและการคาดการณ์ในอนาคตของครัวเรือนเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจ, 
รายได้, การมีงานทำ, ฯลฯ ทั้งนี้ การปรับตัวดีขึ้น จะเป็นผลลบต่อทอง

- 22:00 ยอดขายบ้านใหม่ เดือน ม.ค. -- แม้ว่าในช่วงเกือบ 2 ปีหลังมานี้ จะมีการกระเตื้องขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แต่การที่ยอดขายยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำกว่า 
4 แสนหลัง/เดือน จึงแสดงให้เห็นว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐยังคงอยู่ในจุดที่ยังไม่มีการฟื้นตัวที่น่าพอใจตามความคาดหวังของภาครัฐ อย่างไรก็ตาม 
การประกาศตัวเลขที่สูงกว่าครั้งก่อน จะกดดันราคาทองคำ 

- 22:00 ดัชนีกิจกรรมในภาคการผลิต (ริชมอนด์) เดือน ก.พ. -- ผลสำรวจความคิดเห็นต่อเศรษฐกิจและการทำธุรกิจของผู้ผลิตในเขตที่เฟดสาขาริชมอนด์ดูแล 
ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่สำคัญในเขตริชมอนด์ แต่มักจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ

  ทองคำ  ภาพกราฟทางเทคนิคทิศทางยังเป็นขาลงในระยะกลาง แต่ระยะสั้น หากราคาทองคำสามารถตั้งฐานเหนือ 1,580 ราคายังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อ 
เพื่อทดสอบแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 1,602/1,609 อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้น มีแนวโน้มชะลอตัวลงเรื่อยๆ จึงแนะนำ ให้ชะลอการลงทุน และสัญญาณการกลับทิศกลับมาเป็น
ขาลงอีกครั้ง เพื่อเปิดสถานะ Short โดยคืนนี้ ให้แนวรับที่บริเวณ 1,585/1,580 --- 1,570 และแนวต้านบริเวณ 1,602/1,609 --- 1,620  

  โลหะเงิน  แนวต้านบริเวณ 29.2/29.6 ส่วนแนวรับบริเวณ 28.9/28.6 แนะนำ Trading ในกรอบ 28.6 – 29.6


อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 11-12,16
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
https://itunes.apple.com/th/app/classic-gold/id464234361?mt=8
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
https://market.android.com/details?id=com.codemobiles.classicgold 
http://web.stagram.com/n/ilovecgf/
http://www.classicgoldgroup.tumblr.com