วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 12 กันยายน 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 12 กันยายน 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

แกว่งแคบรอข่าวต่อไป

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,735 USDต่อออนซ์ ตลอดภาคเช้าแกว่งตัวแบบ sideway up ในกรอบ 1,733–1,737 USDต่อออนซ์ โดยมีการคาดการณ์ว่าศาลรัฐธรรมนูญเยอรมันจะอนุญาตให้รัฐบาลผ่านเรื่องกองทุน ESM ได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ทำให้ราคาทองคำสวิงขึ้นมาได้พร้อมกับเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้น แต่เนื่องจากเงินบาทก็แข็งค่าตามไปด้วย ทำให้ราคาทองคำในประเทศไม่ได้ปรับขึ้นตามไปด้วย ส่วนในช่วงบ่ายวันนี้ ราคาทองคำเริ่มสวิงแรงขึ้นก่อนการแถลงของศาล กระทั่งเมื่อศาลอ่านคำวินิจฉัยเห็นชอบให้ใช้ ESM ได้ ราคาทองคำก็พุ่งขึ้นทันที โดยไปทำจุดสูงสุดของวันที่ 1,747 USDต่อออนซ์ แต่มีแรงขายทำกำไรบ้างทำให้ราคาอ่อนตัวลงมา คาดว่าจะเป็นลักษณะแกว่งตัวสร้างฐานก่อนที่จะ break ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,750

ศาลรัฐธรรมนูญเยอรมนีอนุมัติการให้สัตยาบันรับรองกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป(ESM) ซึ่งจะทำให้กองทุน ESM และเครื่องมืออื่น ๆ สามารถดำเนินการกู้วิกฤตในยูโรโซนได้ อย่างไรก็ตาม ศาลได้กำหนดเงื่อไขว่า การเพิ่มภาระหนี้ของเยอรมันที่มากกว่า 1.90 แสนล้านยูโรต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรของเยอรมนีก่อน

นายกรัฐมนตรีอิสราเอลกับประธานาธิบดีสหรัฐด้สนทนาทางโทรศัพท์นาน 1 ชั่วโมง เพื่อหารือเรื่องภัยคุกคามจากโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งทั้งคู่จะร่วมกันยับยั้งไม่ให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครอง โดยจะหารือกันอย่างใกล้ชิดต่อไป

ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐ จอห์น โบห์เนอร์ ไม่มั่นใจว่าทำเนียบขาวและสภาคองเกรสจะตกลงกันได้ในเรื่องการลดหนี้สินของประเทศ ซึ่งจะทำให้สหรัฐมีความเสี่ยงที่จะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ เนื่องจากวุฒิสภายังไม่ดำเนินการมากพอในเรื่องการขึ้นภาษีและการลดการใช้จ่าย ทั้งนี้ มูดีส์ระบุในแถลงการณ์วานนี้ว่า การเจรจาเรื่องงบประมาณในการประชุมฝ่ายนิติบัญญัติของสภาคองเกรสในปี 2556 จะเป็นตัวกำหนดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ หากการเจรจาดังกล่าวนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะสร้างเสถียรภาพและลดสัดส่วนหนี้สินต่อจีดีพีในระยะกลาง มูดีส์ก็อาจจะคงอันดับความน่าเชื่อถือไว้ที่ AAA และปรับเพิ่มแนวโน้มความน่าเชื่อถือเป็นมีเสถียรภาพ แต่หากการเจรจาไม่สามารถนำไปสู่การกำหนดนโยบายดังกล่าว มูดีส์ก็อาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงมาอยู่ที่ระดับ Aa1
ภาคธุรกิจขนาดเล็กของสหรัฐมีความเชื่อมั่นเพิ่มมากขึ้นในเดือน ส.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน แม้มีรายงานการจ้างงานที่น่าผิดหวังเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติของสหรัฐ(NFIB) ระบุว่าดัชนีปรับเพิ่มขึ้นแตะ 92.9 จาก 91.2 ในเดือน ก.ค. แต่แทบไม่มีสัญญาณบวกสำหรับอนาคต และคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในระยะยาว ทั้งนี้ ภาคธุรกิจขนาดเล็กคิดเป็น 99% ของบริษัททั้งหมดในสหรัฐ และมีการจ้างงานราวครึ่งหนึ่งของแรงงานในประเทศ

ทรอยก้าเผยว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของโปรตุเกสจะอ่อนแอไปถึงปี 2556 และจำเป็นต้องใช้เวลามากขึ้นสำหรับกระบวนการปรับปรุงทางการคลังของประเทศ โดยระบุว่า การบรรลุเป้าขาดดุลครั้งใหม่นั้นจะต้องใช้ความพยายามปฏิรูปเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน, การจ้างงาน และการขยายตัว

ดัชนีราคาผู้บริโภคของเยอรมันในเดือน ส.ค.เพิ่มขึ้น 0.4% จากเดือน ก.ค. และดีดตัวขึ้น 2.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน เนื่องจากได้รับแรงผลักดันจากราคาพลังงาน แต่หากไม่รวมราคาพลังงาน ดัชนี CPI ทรงตัวเมื่อเทียบรายเดือน และบวกขึ้น 1.4% จากปีที่แล้ว

ดัชนีราคาผู้บริโภคของฝรั่งเศสในเดือน ส.ค.เพิ่มขึ้น 0.7% จากเดือนก.ค. และพุ่งขึ้น 2.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาพลังงานที่สูงขึ้น 3.6% จากเดือน ก.ค.และพุ่งขึ้น 6.9% จากเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว

อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปี 2555 จะเพิ่มขึ้น 0.84 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 89.09 ล้านบาร์เรล/วัน โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ(EIA) คาดว่าอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก จะลดลง 1.5% ในปีนี้ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 ปีที่ 18.67 ล้านบาร์เรล/วัน ส่วนความต้องการน้ำมันเบนซิน คาดว่าจะลดลง 0.2% จากปีก่อน สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปีที่ 8.73 ล้านบาร์เรล/วัน นอกจากนี้ การผลิตน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐจะช่วยให้ลดการการนำเข้าน้ำมัน โดยคาดว่าการนำเข้าน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นสุทธิของสหรัฐจะลดลงสู่ 39% ของอุปสงค์ทั้งหมดของประเทศในปี 2556 ซึ่งลดลงจาก 49% ในปี 2553

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
- 19:30 ดัชนีราคาสินค้านำเข้า เดือน ส.ค.
- 21:00 สต็อคสินค้าภาคค้าส่ง เดือน ก.ค.
- 21:30 สต็อคน้ำมัน รายสัปดาห์
-

ทองคำ ภาพกราฟในราย 240 นาที ราคามีการปรับขึ้นใกล้แนวต้านสำคัญบริเวณ 1,750 แล้วไม่ผ่าน ทำให้มีการย่อตัวลงมา คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 1,750/1,760 ส่วนแนวรับมที่บริเวณ 1,730/1,725 ราคาแกว่งตัวสร้างฐาน เพื่อสะสมพลังก่อนที่จะ Break ผ่านไปสู่แนวต้านถัดไป แนะนำ นักลงทุนที่เปิด Long ไว้ถือต่อ โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,760/1,790 หรือ ทยอยทำกำไรในระดับตั้งแต่ 1,760 ขึ้นไป

โลหะเงิน ให้แนวต้านบริเวณ 34.3/34.8 และแนวรับบริเวณ 33.7/33.5 แนะนำให้เล่น trading ในกรอบ 33.5-35.0

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8
https://plus.google....509313835/posts
https://market.andro...les.classicgold
http://web.stagram.com/n/ilovecgf/ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น