วันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำและโลหะมีค่า วันที่ 13 มิถุนายน 2556 โดยบริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,386 USDต่อออนซ์  เคลื่อนไหวระหว่าง 1,385–1,395 USDต่อออนซ์  โดยราคาสร้างกรอบการพักตัวหลังจากดีดขึ้นวานนี้  ซึ่งมีเงินบางส่วนที่ไหลออกจากตลาดหุ้นเข้ามาเก็งกำไรในตลาดทองคำ  ทั้งนี้ ความคืบหน้าเรื่องการวินิจฉัยมาตรการ OMT ของศาลเยอรมัน ไม่ได้เปลี่ยนแปลงความคาดหมายของตลาดที่ว่า น่าจะอนุญาตให้ ECB ใช้มาตรการดังกล่าวได้ต่อไป  โดยคาดหมายกำหนดการณ์ชี้ขาดคำตัดสินในช่วงปลายปีนี้ ทำให้เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ และเป็นผลบวกต่อการเก็งกำไรในตลาดทองคำระยะสั้นด้วย  อย่างไรก็ตาม นักลงทุนที่เทขายทำกำไรหุ้นในตลาดเกิดใหม่ ยังคงให้ความสำคัญกับการถือเงินมากกว่าจะย้ายเงินทุนทั้งก้อนไปเก็งกำไรในสินทรัพย์อื่น เนื่องจากเศรษฐกิจในตลาดเกิดใหม่ยังคงเติบโตได้ดีในระยะยาว แม้ว่าเศรษฐกิจจีนที่มีแนวโน้มเติบโตไม่ถึง 8% ในปีนี้ อาจสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนก็ตาม 

ผลสำรวจของสมาคมธุรกิจชั้นนำของสหรัฐระบุว่า CEO ของบริษัทขนาดใหญ่มีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ โดยคาดการณ์ว่า GDP จะขยายตัว 2.2% ต่อปี เพิ่มขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์ 2.1% ในผลการสำรวจไตรมาสที่แล้ว เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากยอดขายและการจ้างงานที่ปรับตัวดีขึ้นในระดับหนึ่ง แต่ในภาพรวมยังมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังเคลื่อนสู่ระยะฟื้นตัวได้ช้า แม้ศักยภาพทางธุรกิจยังคงแข็งแกร่ง แต่แนวทางทางการคลังของรัฐบาลที่ยังไม่มีทางออกและภาวะแวดล้อมทางการเมืองที่ไม่แน่นอน เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน

นักเศรษฐศาสตร์จาก HSBC คาดว่า มาร์ค คาร์นีย์ ซึ่งจะก้าวขึ้นมาทำหน้าที่ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษในวันที่ 1 ก.ค.นี้ อาจจะใช้แนวทางด้านนโยบายในการหนุนเศรษฐกิจเดินหน้าอย่างชัดเจนในเดือน ส.ค. นอกจากนี้ ธนาคารกลางอังกฤษอาจจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมด้วย หากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหยุดชะงักลง เนื่องจากอุปสงค์ดูเหมือนจะอ่อนแรงเกินกว่าจะหนุนมุมมองบวก ส่วนการขยายตัวของค่าจ้างเป็นไปอย่างเชื่องช้ามาก ซึ่งจะสกัดอำนาจการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน และขณะที่เศรษฐกิจโลกไม่ได้ปรับตัวแข็งแกร่งดังเช่นเมื่อหลายเดือนก่อนนั้น การค้าอาจจะยังคงสร้างความผิดหวัง แม้ว่าปัจจัยชี้วัดต่างๆจะแข็งแกร่งขึ้น แต่เรายังคงคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 2556 ไว้ที่ 0.8%

ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีมติคงอัตราดอกเบี้ย 2.5% ในการประชุมวันนี้ โดยคาดว่าเศรษฐกิจเกาหลีใต้จะยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัวเล็กน้อย ซึ่งสอดคล้องกับการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของเศรษฐกิจโลก โดยมองว่า เศรษฐกิจมีปัจจัยหนุนช่วงขาขึ้น อาทิ การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่อาจจะเพิ่มขึ้นจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนที่แล้ว และการดำเนินแผนการงบประมาณเพิ่มเติม

ธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 6.00% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ อากัส มาร์โตวาร์โดโจ ผู้ว่าการธนาคารกลางคนใหม่ทำหน้าที่ประธานการประชุม หลังจากที่เมื่อวานนี้ ธนาคารกลางอินโดนีเซียปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากข้ามคืนขึ้น 0.25% สู่ระดับ 4.25% โดยมีเป้าหมายที่จะหนุนสกุลเงินรูเปียห์ หลังจากรูเปียห์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2552

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตาม  ได้แก่
- 19:30 จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน รายสัปดาห์  –  ตัวเลขในระดับต่ำกว่า 4 แสนราย แสดงถึงภาวะที่ดีขึ้นของการจ้างงานในสหรัฐ สอดคล้องกับอัตราการว่างงานที่ล่าสุดที่ระดับ 7.6% ซึ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐดีขึ้นมาก แต่เป้าหมาย 6.5% ที่ Fed คาดหวังไว้ ยังคงต้องให้ตัวเลขรายสัปดาห์ทรงตัวต่ำกว่าระดับ 3 แสนราย เสียก่อน  หากในคืนนี้ประกาศตัวเลขออกมาระหว่าง 3.0-3.5 แสนราย เช่นเดียวกับสัปดาห์ก่อน จะเป็นผลลบต่อราคาทองคำ แต่หากประกาศยอดในช่วง 3.5-4.0 แสนราย จะส่งผลบวกสั้น ๆ

- 19:30 ยอดค้าปลีก เดือน พ.ค.  –  ตัวเลขในระดับ +0.5-1.0% ถือเป็นค่าปกติในช่วงที่ไม่ได้เกิดภาวะไม่ดีทางเศรษฐกิจ  ซึ่งความผันผวนตามฤดูกาลมีผลค่อนข้างมากต่อดัชนีเศรษฐกิจตัวนี้  แต่ก็เป็นตัวบ่งชี้ที่ดีในระยะสั้น  ดังนั้น ถ้าหากคืนนี้ประกาศออกมาใกล้เคียงหรือต่ำกว่า 0% ก็จะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ  โดยควรพิจารณาเปรียบเทียบกับยอดค้าปลีกที่ไม่นับรวมยอดขายยานพาหนะด้วยว่า การเปลี่ยนแปลงในยอดซื้อสินค้าทั่วไปเป็นอย่างไร

- 19:30 ดัชนีราคาสินค้านำเข้า เดือน พ.ค.  –  ตัวเลขเบื้องต้นที่บ่งชี้ถึงความเสี่ยงต่อภาวะเงินเฟ้อในระบบเศรษฐกิจ แต่เนื่องจากเป็นดัชนีที่มีความผันผวนไปตามฤดูกาล ทำให้ข้อมูลที่ประกาศเป็นข้อมูลในระยะสั้น ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อราคาทองคำมากนัก  ทั้งนี้ ควรติดตามการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินสกุลสำคัญของโลกเทียบกับสกุลดอลลาร์สหรัฐด้วย

- 21:00 ยอดสต็อกสินค้า ภาคธุรกิจ เดือน เม.ย.  –  การเพิ่มขึ้นของสินค้าคงคลังรายเดือนในระดับ 0-1% เป็นเรื่องปกติที่แสดงให้เห็นถึงการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งขึ้นอยู่กับช่วงฤดูกาลด้วย ดังนั้น หากคืนนี้ประกาศออกมาในช่วงดังกล่าว ก็อาจทำให้ราคาทองคำแกว่งตัวเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าหากสต๊อคสินค้าลดลง ก็จะส่งผลลบต่อราคาทองคำทันที

ทองคำ   กราฟราย 1 ชม. แสดงการแกว่งตัวในกรอบ 1,385–1,395  โดย rsi อ่อนตัว sideway down  แต่ macd ยังทรงตัวได้ดี  จึงมีแนวโน้มที่จะเป็นรูปแบบ flag มากกว่า double top  ทั้งนี้ เป้าหมายของการ break out จากกรอบ หากทะลุขึ้น คาดว่าราคามีโอกาสไปถึง 1,405–1,410 แต่หากทะลุลง คาดว่าราคามีโอกาสร่วงถึง 1,375  ให้แนวต้านบริเวณ  1,395/1,405  ให้แนวรับบริเวณ  1,375/1,365  แนะนำให้ trading ในกรอบแนวรับแนวต้าน

โลหะเงิน   ราคาแกว่งตัวแคบลงสร้างรูปสามเหลี่ยม  โดย rsi เคลื่อนตามราคา แต่ยังไม่บอกทิศทางแน่ชัด  จึงคาดการณ์การแกว่งตัวในกรอบ และควรระวังการ break out ที่จะส่งผลให้ราคาปรับขึ้นหรือลงได้ 0.5–1 เหรียญ  ให้แนวต้านบริเวณ  22/22.2/22.6  ให้แนวรับบริเวณ  21.65/21.4/21.05  แนะนำให้ trading ในกรอบแนวรับแนวต้าน

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/
http://classicgoldfutures.blogspot.com
Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น