วันอังคารที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 12 มีนาคม 2556 ช่วงเย็น


บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 12 มีนาคม 2556 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) 

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,580 USDต่อออนซ์  ทรงตัวระหว่าง 1,580–1,584 USDต่อออนซ์  ซึ่งยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในระดับบนของกรอบการแกว่งตัวระยะสั้น 
1,555-1,588 USDต่อออนซ์  โดยนักลงทุนกำลังรอการประชุมสภายุโรป(EU)กับธนาคารกลางยุโรป(ECB) ในวันที่ 14-15 มี.ค. 
เพื่อทราบความคืบหน้าของแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะในไซปรัส, ไอร์แลนด์, สเปน, โปรตุเกส และอิตาลี  ในขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ)ยืนยันจะเพิ่มมาตรการ
ผ่อนคลายทางการเงินอย่างเต็มที่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศให้พ้นจากภาวะเงินฝืด ทำให้ตลาดมั่นใจในสภาพคล่องเงินทุนของโลกสอดคล้องกับการคาดการณ์ว่า Fed 
จะยังคงใช้มาตรการ QE ต่อไปในปีนี้  จึงมีแรงหนุนให้นักลงทุนซื้อสะสมทองคำและพยุงราคาให้พร้อมจะดีดขึ้นได้ เนื่องจากอยู่ในกรอบราคาที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับการเก็งกำไร
สินทรัพย์สภาพคล่องสูงอื่น ๆ  แต่จากเงินบาทที่แข็งค่าหลุดกรอบแนวรับ 29.6 บาทต่อUSD และเข้าสู่แนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง  ทำให้ระดับราคาทองคำในประเทศถูกกดดันให้
ปรับขึ้นได้ไม่มากนัก

ดัชนีชี้นำกิจกรรมทางเศรษฐกิจในกลุ่มสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ(OECD) 34 ประเทศ ในเดือน ม.ค.ยังคงมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นแตะ 100.4 
จาก 100.3 ในเดือน ธ.ค. โดยดัชนีชี้นำในยูโรโซนเพิ่มขึ้นเป็น 99.7 จาก 99.6 และมีแนวโน้มจะขยายตัวเช่นเดียวกับสหรัฐ อังกฤษ และญี่ปุน หลังจากที่ปรับตัวย่ำแย่มาเป็น
เวลานาน แต่ดัชนีชี้นำของจีน อินเดีย และแคนาดา ส่งสัญญาณอ่อนแอลง

รัฐมนตรีเศรษฐกิจสเปนกล่าวว่า จะไม่มีการควบรวมกิจการระหว่างธนาคารที่ได้รับการแปรรูปเป็นของรัฐบาล ซึ่งได้แก่ ธนาคารบังเกีย, ธนาคารโนบากาลิเซีย บังโก 
และธนาคารคาตาลุนยา บังค์ เนื่องจากทั้ง 3 ธนาคารต่างมีความแข็งแกร่งและมีศักยภาพในการชำระหนี้ พร้อมรับประกันว่ามีสภาพคล่องอย่างเหลือเฟือ

รายงานการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 13-14 ก.พ.ที่ผ่านมา ระบุว่า กรรมการกำหนดนโยบายมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 
0-0.1% และไม่ประกาศผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติม โดยต้องการประเมินผลกระทบของการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อไว้ที่ 2% ซึ่งกรรมการคนหนึ่งเห็นว่า ควรใช้นโยบาย
ผ่อนคลายการเงินแบบปลายเปิดก่อนกำหนดการณ์ที่วางไว้ในปี 2557 ขณะที่บางคนเห็นว่า การซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่มีอายุการไถ่ถอนนานขึ้นจะเป็นทางเลือกหนึ่ง 
หากจำเป็นต้องใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติมในอนาคต

ดัชนีความเชื่อมั่นของบริษัทขนาดใหญ่ในญี่ปุ่นที่มีทุนจดทะเบียนตั้งแต่ 1 พันล้านเยนขึ้นไป อยู่ที่ระดับ 1.0 ในไตรมาสแรกปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ -5.5 ในไตรมาส 4/2555 
เพราะได้แรงหนุนจากเงินเยนที่อ่อนค่าลงและราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นยังคงลังเลที่จะเพิ่มการใช้จ่ายด้านทุน ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของบริษัท
ขนาดใหญ่ที่อยู่นอกภาคการผลิต ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 4.0 ในไตรมาสแรกปีนี้ จากไตรมาส 4/2555 ที่ระดับ -2.9 ท่ามกลางความหวังที่เพิ่มขึ้นว่า นโยบายเศรษฐกิจ, 
การเพิ่มการใช้จ่ายด้านการคลังมูลค่ามหาศาล และการผ่อนคลายนโยบายการเงิน จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นวางแผนที่จะลดการ
ใช้จ่ายด้านทุนลงในปีงบการเงิน 2556 เพราะไม่มั่นใจว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวมากขึ้นเพียงใด โดยบริษัทขนาดใหญ่ในทุกภาคอุตสาหกรรมของประเทศ วางแผนที่จะลดราย
จ่ายด้านทุนลง 6.5% ในปีงบการเงิน 2556 ขณะที่มีแนวโน้มจะเพิ่มการลงทุนอีก 3.3% ในปีงบการเงินปัจจุบันซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 31 มี.ค. นอกจากนี้ บริษัทขนาดใหญ่
ของญี่ปุ่นยังคาดการณ์ว่า สภาวะทางธุรกิจจะฟื้นตัวขึ้นในอีก 6 เดือนข้างหน้า โดยคาดว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวที่ระดับ 3.8 ในไตรมาส 2 และ 9.0 ในไตรมาส 3 ของปีนี้


เรือรบติดอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐจะยังคงประจำอยู่ที่น่านน้ำของเกาหลีใต้ต่อไป เพื่อรักษาความปลอดภัยหากเกาหลีเหนือโจมตีเกาหลีใต้หลังการฝึกซ้อมรบของกองทหารเกาหลีใต้
และสหรัฐสิ้นสุดลงในวันที่ 21 มี.ค. ซึ่งถ้าหากเกาหลีเนือโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ สหรัฐก็จะตอบโต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์จากฐานประจำการในจังหวัดโอกินาวะของญี่ปุ่น หรือ 
เกาะกวมของสหรัฐ และจะเพิ่มการซ้อมรบทางเรือดำน้ำระหว่างสหรัฐกับเกาหลีใต้ หลังจากการปฏิบัติการฝึกซ้อม Foal Eagle ที่เริ่มขึ้นเมื่อ 1 มี.ค. จะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 
เม.ย.

สหรัฐประกาศคว่ำบาตรธนาคารหลักของเกาหลีเหนือ พร้อมเจ้าหน้าที่อาวุโสอีก 4 คน เพื่อกดดันให้เกาหลีเหนือยุติโครงการนิวเคลียร์ โดยไม่สนใจคำขู่ของเกาหลีเหนือที่จะทำ
สงครามนิวเคลียร์ตอบโต้ โดยสหรัฐเผยว่าจะเดินหน้าคว่ำบาตรอย่างรุนแรงยิ่งขึ้น เพื่อกดดันให้เกาหลีเหนือยุติโครงการนิวเคลียร์

  ทองคำ  ราคาพยายามทรงตัวทดสอบ 1,585  ซึ่งเป็นระดับบนของกรอบการเคลื่อนไหวระหว่าง 1,555–1,588  โดยสัญญาณทางเทคนิคเตือนให้ระวังเลือก
ทางในเร็ว ๆ นี้  ทั้งนี้ การผ่าน 1,585 จะทำให้ราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบระดับ 1,600  แต่หากไม่ผ่าน ก็มีโอกาสจะกลับลงมาบริเวณ 1,555–1,560 ได้ 
สำหรับวันนี้คาดว่าจะมีแนวต้านบริเวณ 1,585 / 1,603 และแนวรับบริเวณ 1,565 / 1,560 / 1,555  แนะนำ follow buy เมื่อทะลุ 1,585

  โลหะเงิน  ราคายังคงเคลื่อนตัวเกาะบริเวณ neckline ของ double bottom ที่ 29.05  โดยการผ่านไปได้ จะทำให้ราคาขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญเส้นถัด
ไปที่ 29.45 ซึ่งจะเป็นจุดยืนยันการกลับตัวเป็นขาขึ้น แต่มีจุดสังเกตว่า หากราคาไม่ยืนเหนือ 29 ในวันนี้ ก็จะมีแนวโน้มอ่อนตัวได้ และโอกาสกลับตัวเป็นขาขึ้นก็จะลดลงด้วย 
เนื่องจากสัญญาณทางเทคนิคเริ่มอ่อนแรง  ให้แนวต้านบริเวณ  29.05 / 29.45 / 29.8 และให้แนวรับบริเวณ  28.5 / 27.95  แนะนำให้รอซื้อตามเมื่อทะลุแนวต้าน 
29.05 / 29.45



อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 11-12,16
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
https://itunes.apple.com/th/app/classic-gold/id464234361?mt=8
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
https://market.android.com/details?id=com.codemobiles.classicgold 
http://web.stagram.com/n/ilovecgf/
http://www.classicgoldgroup.tumblr.com  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น