ราคาทองคำเปิดตลาดในเอเชียที่บริเวณ 1,285 USDต่อออนซ์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 1,284-1,292 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำยังไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจน เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,277 – 1,293 USDต่อออนซ์ ซึ่งมีโอกาสสูงที่ราคาจะสามารถ breakout ออกจากกรอบนี้ได้ภายในคืนนี้ โดยจะมีตัวกระตุ้นหลักคือการประกาศตัวเลขในภาคการจ้างงานได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและตัวเลขอัตราการว่างงานที่จะประกาศในเวลา 19.30 น.ตามเวลาประเทศไทย เนื่องจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในหลายครั้งหลังประกาศออกมาค่อนข้างผันผวน จึงเป็นการยากที่จะคาดการณ์ตัวเลขล่วงหน้า ดังนั้นการรอ follow เมื่อราคา breakout ออกจากกรอบจึงเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมกว่าในสถานการณ์เช่นนี้
หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ:
- แรงกดดันด้านเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในยูโรโซน แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งแทบจะไม่ช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะ
เงินฝืดในยูโรโซน ทั้งนี้ดัชนีประเมินเงินเฟ้อในอนาคตของยูโรโซน (EZFIG) ของสถาบันวิจัยวัฏจักรเศรษฐกิจ (ECRI) เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 92.2
ในเดือนก.พ. จากระดับ 91.9 ในเดือนม.ค.
- สำนักปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (SAFE) เปิดเผยว่าจีนมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 1.828 แสนล้านดอลลาร์ และมียอดเกินดุลบัญชีทุนและการเงิน 3.262 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2013 SAFE ระบุว่าจีนจะสามารถรักษายอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดไว้ได้ระดับหนึ่งในปีนี้ ขณะที่รัฐบาลจะทำให้ดุลการชำระเงินของประเทศมีเสถียรภาพ และป้องกันความเสี่ยงจากกระแสเงินทุนข้ามพรมแดน
ประเด็นที่ต้องติดตาม:
- การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐรายวัน
Technical Analysis:
ทองคำ จากกราฟราย 1 ชม. ราคาทองคำ trading อยู่ในกรอบระหว่าง 1277-1293 การ breakout ออกจากรอบนี้ จะทำให้ราคาเคลื่อนไหวได้แรง แนวรับที่ 1,277/1,265 เหรียญ แนวต้านที่ 1,293/1,310 เหรียญ คำแนะนำให้รอ follow การ breakout
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/
http://classicgoldfutures.blogspot.com
Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น