บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันที่ 4 เมษายน 2556 (ช่วงเย็น)

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันที่ 4 เมษายน 2556 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) 

ขาลง เน้นเปิด short 

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,557 USDต่อออนซ์  เคลื่อนไหวระหว่าง 1,540–1,559 USDต่อออนซ์ ราคาดิ่งลงแรงโดยมีปัจจัยทางเทคนิคเป็นปัจจัยที่กดดันราคาทองคำ เมื่อราคาหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 1,575 ลงมาแสดงถึงการเลือกทิศทางเป็นขาลง นักลงทุนจึงขายทองคำออกมาเพื่อป้องกันความเสี่ยงขาลง และยังคง Follow short ต่อไป โดยเป้าหมายการลงอาจลึกลงเรื่อยๆ แต่ในระยะสั้นจะมีแนวรับบริเวณ 1,535/1,525  ซึ่งเป็น low ต่ำสุดที่ทำไว้ในเดือนพ.ค.55 สำหรับนักลงทุนระยะกลาง – ยาว ต้องรอให้มีการสร้างฐานได้ โดยดูแนวรับทางจิตวิทยาบริเวณ 1,500 และ 1,478 ซึ่งเป็น low ต่ำสุดในเดือนก.ค. 54 ก่อนที่จะมีการปรับขึ้นครั้งใหญ่และราคาทำ high ที่บริเวณ 1,920 ในเดือน ก.ย. 54 สำหรับประเด็นลบที่ผลต่อราคาทองคำในช่วงนี้ คือ การแข็งค่าของเงิน USD การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาดี แสดงถึงเศรษฐกิจสหรัฐมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และการขายตามสัญญาณทางเทคนิค  ส่วนประเด็นบวก ได้แก่ การที่เฟดยังคงผ่อนคลายนโยบายการเงินตามมาตรการ QE3 การเพิ่มการซื้อพันธบัตรของ BOJ เพื่อให้อัตราเงินเฟ้อเป็นไปตามเป้าหมาย และธ.กลางของหลายประเทศยังคงผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไป 

ตลาดหุ้นโตเกียว:นิกเกอิร้อนแรงพุ่งกว่า 2% ขานรับมาตรการบีโอเจ ตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นในวันนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ได้ประกาศมาตรการผ่อนคลายทางการเงินขนานใหญ่ ซึ่งรวมถึงการลงทุนเป็น จำนวนมากในกองทุน ETF และกองทุนทรัสต์ที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)  ซึ่งช่วยหนุนหุ้นที่เกี่ยวข้องกับนโยบายกระตุ้นเงินเฟ้อ อาทิ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์  และกลุ่มธนาคาร พุ่งขึ้น   ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดทะยานขึ้น 272.34 จุดหรือ 2.20% สู่ระดับ  12,634.54 โดยฟื้นตัวขึ้นจากการร่วงลงในช่วงแรก อันเนื่องจากความวิตก เกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ  บีโอเจมีมติในการประชุมวันนี้ให้ดำเนินการเร็วขึ้นสำหรับโครงการซื้อ สินทรัพย์แบบไม่จำกัด แทนที่จะเริ่มต้นในปีหน้า และขยายอายุของพันธบัตร รัฐบาลญี่ปุ่นที่บีโอเจเข้าซื้อ รวมทั้งเพิ่มวงเงินการซื้อพันธบัตรระยะยาวสู่ระดับ  7 ล้านล้านเยน/เดือน  บีโอเจยังระบุว่าจะเพิ่มวงเงินในการซื้อกองทุน REIT ขึ้น 3 หมื่นล้าน เยน (323 ล้านดอลลาร์) ต่อปี และเพิ่มวงเงินซื้อกองทุน ETF ขึ้น 1 ล้านล้านเยนต่อปี
ดอลล์พุ่ง 2%ใกล้ทะลุ 95 เยนหลังบีโอเจผ่อนคลายมาตรการครั้งใหญ่ ดอลลาร์พุ่งขึ้น 2% เมื่อเทียบกับเยนในวันนี้ หลังจากที่ธนาคารกลาง ญี่ปุ่น (บีโอเจ) ได้ประกาศมาตรการผ่อนคลายทางการเงินขนานใหญ่เพื่อ ยุติภาวะเงินฝืดที่ดำเนินมาหลายทศวรรษ ดอลลาร์อยู่ที่ 95.05 เยน พุ่งขึ้น 2.1% จากระดับปิดที่ตลาดนิวยอร์ค เมื่อวานนี้ โดยดอลลาร์ปรับตัวอยู่ที่ 92.20 เยน ก่อนการประกาศมติการประชุมของบีโอเจในวันนี้ ในบรรดามาตรการหลายข้อที่ประกาศในวันนี้นั้น บีโอเจได้ปรับเป้าหมาย งบดุลใหม่ และประกาศว่าจะเพิ่มสัดส่วนการถือครองพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นขึ้น  2 เท่าภายในเวลา 2 ปี ขณะที่บีโอเจจะพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ 

ผู้ว่าฯบีโอเจเผยใช้มาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อบรรลุเป้าเงินเฟ้อ นายฮารุโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กล่าวว่า  บีโอเจได้ดำเนินมาตรการทั้งหมดที่มีอยู่ และที่จำเป็น ในการประชุมนโยบาย ในวันนี้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อใหม่ 2%   "วิธีการผ่อนคลายเพียงเล็กน้อยก่อนหน้านี้ไม่เพียงพอที่จะทำให้ญี่ปุ่นฟื้นตัวจากภาวะเงินฝืด และบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ 2% ภายใน 2 ปี"  นายคุโรดะกล่าวในการแถลงข่าวหลังการประชุมนโยบายของบีโอเจ  "ในครั้งนี้ เราได้ดำเนินมาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย" ในการประชุมนโยบายครั้งแรกของนายคุโรดะในวันนี้ในฐานะผู้ว่าการ บีโอเจนั้น ได้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดด้วยการประกาศยกเครื่องระบบ การกำหนดนโยบายครั้งใหญ่ โดยใช้เป้าหมายงบดุลใหม่ และประกาศเพิ่มสัดส่วน การถือครองพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นขึ้น 2 เท่าภายในเวลา 2 ปี

ดัชนี PMI ภาคบริการโดย Markit เดือนมี.ค.เท่ากับ 46.4 ผลสำรวจพบว่า ภาวะเศรษฐกิจยูโรโซนยังคงตกต่ำลงในเดือนมี.ค.  อันเป็นผลจากการทรุดตัวลงอย่างมากของกิจกรรมทางธุรกิจในฝรั่งเศส  ซึ่งรุนแรงกว่าภาวะตกต่ำในสเปนและอิตาลี  ดัชนี PMI ร่วงลงสู่ระดับ 46.4 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 47.9  ในเดือนก.พ. โดยดัชนีอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ที่แบ่งแยกระหว่างการขยายตัว และการหดตัว แทบทุกเดือนในช่วง 20 เดือนที่ผ่านมา และยังปรับตัวลงเล็กน้อยจากข้อมูลขั้นต้นที่ระดับ 46.5 ที่รายงานไปเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน  Markit ระบุว่า สิ่งนี้บ่งชี้ว่า การจัดการที่ผิดพลาดต่อมาตรการ ช่วยเหลือไซปรัสวงเงิน 1.0 หมื่นล้านยูโรในช่วงปลายเดือนมี.ค. ยังไม่มี ผลในทันทีต่อภาคเอกชน แต่ Markitระบุด้วยว่า สัญญาณย่อยระบุว่า ปัญหาของไซปรัส ยังคงมีผลกระทบที่น่าวิตก
[/color]
 [color=#0066FF] 
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตาม  ได้แก่
- 19:30 จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน รายสัปดาห์  –  อัตราการว่างงานล่าสุดลดลงมาอยู่ที่ 7.7% อีกครั้ง ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 4 ปี แต่ยอดการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในเดือน มี.ค.ที่ประกาศเมื่อคืน ปรับตัวลดลงผิดคาด จึงคาดว่ายอดผู้ขอสวัสดิการใหม่ในคืนนี้จะทรงตัวบริเวณ 3.5 แสนราย ซึ่งถ้าหากออกมาต่ำกว่าที่คาด จะสร้างความมั่นใจให้กับตลาด แต่จะเป็นผลลบต่อราคาทองคำ หรือ ถ้าหากประกาศยอดสูงกว่าที่คาดในช่วง 3.5-4.0 แสนราย จะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ

การวิเคราะห์ทางเทคนิค
++ ทองคำ   ราคาดิ่งลงแรงโดยมีปัจจัยทางเทคนิคเป็นปัจจัยที่กดดันราคาทองคำ เมื่อราคาหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 1,575 ลงมา แสดงถึงการเลือกทิศทางเป็นขาลง นักลงทุนจึงขายทองคำออกมาเพื่อป้องกันความเสี่ยงขาลง และยังคง Follow short ต่อไป โดยเป้าหมายการลงอาจลึกลงเรื่อยๆ แต่ในระยะสั้นจะมีแนวรับบริเวณ 1,535/1,525  ซึ่งเป็น low ต่ำสุดที่ทำไว้ในเดือนพ.ค.55 แนะนำ นักลงทุนที่ถือ short อยู่ทยอยปิดทำกำไรบริเวณ 1,535/1,525 และรอให้ราคา rebound ค่อยเปิด Short ใหม่

++ โลหะเงิน   โลหะเงินยังร่วงต่อหนัก  โดย rsi ชะลอตัวในเขต oversold แล้ว  จึงคาดว่าราคาจะเริ่มชะลอตัวลงเพื่อสร้างฐาน ให้แนวต้านบริเวณ  27.08 / 27.73 ให้แนวรับบริเวณ  26.2 / 26.0  แนะนำ นักลงทุนที่เปิด Short ไว้ ทยอยปิดทำกำไร



อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 11-12,16
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
https://itunes.apple.com/th/app/classic-gold/id464234361?mt=8
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
https://market.android.com/details?id=com.codemobiles.classicgold 
http://web.stagram.com/n/ilovecgf/
http://www.classicgoldgroup.tumblr.com