วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2556

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันที่ 18 เมษายน 2556 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)


บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันที่ 18 เมษายน 2556 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

ราคาทองคำร่วงลงทันทีหลังเอเชียเปิดตลาดที่ 1,366 USDต่อออนซ์ ซึ่งคาดว่าเป็นการถูกบังคับขาย(force sell)ครั้งสุดท้ายของการดิ่งลงรอบนี้ โดยมีแรงซื้อกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นราคาค่อย ๆ ปรับตัวขึ้นจนผ่านแนวต้านระยะสั้นที่ 1,389 ทำให้ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 1,336–1,398 USDต่อออนซ์  ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลทางเศรษฐกิจในรายงาน Beige Book ของ FOMC ที่ประเมินว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐช่วยหนุนให้เศรษฐกิจขยายตัว ในขณะที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำและสามารถควบคุมได้นั้น ส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำลงในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย(safe haven) และแม้ว่าราคาที่ลงมาต่ำมากในรอบ 2 ปี จะทำให้ประชาชนหลายประเทศในเอเชียเข้าซื้อทองคำจริง(physical)ก็ตาม แต่ด้วยการคาดการณ์เศรษฐกิจแล้ว ทำให้ผลตอบแทนของทองคำยังไม่จูงใจให้ผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดทองคำเข้าซื้อสะสม จึงทำให้ราคาทองคำมีโอกาสดีดกลับได้ในกรอบจำกัดจากการซื้อคืน(cover short)ของกลุ่มนักลงทุนที่ขายออกมาก่อนหน้าแล้วเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แนวต้านที่ค่อนข้างแข็งแรงสำหรับการรีบาวน์อยู่ที่ระดับ 1,400 จึงควรระวังแรงขายและราคาที่แกว่งตัวผันผวนในบริเวณดังกล่าว และหากผ่านจุดนี้ได้ เป้าหมายการรีบาวน์จะอยู่ที่ 1,450 แต่หากไม่ผ่านระดับดังกล่าว จะทำให้ราคามีแนวโน้มร่วงลงมาทดสอบระดับต่ำสุดที่ 1,320 อีกครั้ง

สหรัฐกำลังจับตาอัตราแลกเปลี่ยนของชาติสมาชิกกลุ่ม G7 ทั้งนี้ รมว.คลังเผยว่า สหรัฐกำลังพิจารณามาตรการผ่อนคลายทางการเงินของญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้มีเป้าหมายกดเงินเยนให้อ่อนค่า นอกจากนี้ สหรัฐจะจับตาดูการปฏิบัติตามพันธสัญญาของสมาชิกกลุ่ม G20 ในการไม่กำหนดเป้าหมายอัตราแลกเปลี่ยน

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) ได้ขอให้ญี่ปุ่นจัดทำแผนการลดหนี้สาธารณะลงสู่ระดับที่เหมาะสม นอกจากแผนการขึ้นภาษีอุปโภคบริโภค โดยในรายงานของ IMF ระบุว่า การใช้งบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจะทำให้ยอดขาดดุลการคลังอยู่เหนือระดับ 9% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP) ในปี 2556 ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงกว่าระดับเฉลี่ยของประเทศที่พัฒนาแล้วถึงกว่า 2 เท่า และจะทำให้ญี่ปุ่นขาดดุลเพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นแสดงความกระตือรือร้นที่จะจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่ 3 มหานครหลัก ได้แก่ โตเกียว โอซาก้า และไอจิ ด้วยการสนับสนุนการลงทุน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและดึงดูดธุรกิจต่างชาติมาสู่ญี่ปุ่น

ราคาบ้านใหม่ของจีนในเดือน มี.ค.ปรับตัวสูงขึ้นในเกือบทุกเมือง ขณะที่การทำธุรกรรมพุ่งขึ้นก่อนจะมีมาตรการควบคุมจากรัฐบาลชุดใหม่ โดยราคาบ้านใน 68 จาก 70 เมืองใหญ่ ปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากการคาดการณ์เกี่ยวกับต้นทุนราคาบ้านที่สูงขึ้นหลังการใช้มาตรการควบคุมภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล ส่งผลให้มีการเร่งซื้อบ้านในเดือน มี.ค. ซึ่งกระตุ้นให้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ปรับราคาขึ้น แทนที่จะลดราคา

การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ(FDI)ที่หลั่งไหลเข้าสู่จีนในเดือน มี.ค.เพิ่มขึ้น 5.65% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 1.24 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนในช่วงไตรมาสแรกของปี 2556 ยอด FDI รวม ขยายตัว 1.44% แตะระดับ 2.99 หมื่นล้านดอลลาร์ จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

เกาหลีเหนือสั่งห้ามตัวแทนนักธุรกิจเกาหลีใต้  10 คน จาก 123 บริษัท ไม่ให้ลำเลียงอาหารและสิ่งของจำเป็นเข้าไปในเขตอุตสาหกรรมแกซอง เพื่อเข้าไปตรวจดูสภาพภายในโรงงานและช่วยเหลือให้เจ้าหน้าที่ที่ติดอยู่ หลังถูกสั่งปิดตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. ท่ามกลางความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี


ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตาม  ได้แก่
- 19:30 จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน รายสัปดาห์  –  ตัวเลขสำคัญที่ควรจับตามองในช่วงนี้ เนื่องจากเป็นดัชนีเบื้องต้นที่จะเผยถึงอัตราการว่างงาน ที่ล่าสุดประกาศออกมา 7.6% ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2552  โดยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ(Beige Book) ของ FOMC ได้ให้มุมมองต่อการจ้างงานทั่วประเทศว่าปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย  ซึ่งตัวเลขคาดการณ์อยู่ต่ำกว่า 3.5 แสนราย จึงคาดว่าการประกาศจะส่งผลลบต่อราคาทองคำ แต่ถ้าหากยอดขอสวัสดิการจริงสูงกว่าที่คาดไว้ จะส่งผลบวกต่อราคาทองคำเล็กน้อย

- 21:00 ดัชนีกิจกรรมภาคการผลิต ในเขตฟิลาเดลเฟีย เดือน เม.ย.  –  เป็นมุมมองเชิงธุรกิจและเศรษฐกิจของผู้ประกอบการในเขตที่ Fed สาขาฟิลาเดลเฟียดูแลอยู่ ดัชนีมีผลต่อราคาทองคำสั้น ๆ ในช่วงที่ประกาศเท่านั้น เนื่องจากตัวเลขมักได้รับผลกระทบจากปัจจัยในระยะสั้น โดยหากดัชนีเป็นบวกก็แสดงว่าดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ แต่ส่งผลลบต่อราคาทองคำ และหากดัชนีเป็นลบก็แสดงว่าไม่ดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ แต่ส่งผลบวกต่อราคาทองคำ

- 21:00 ดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจ เดือน มี.ค.  –  เป็นผลรวมของ 10 ดัชนีย่อยที่มีความสำคัญในการประเมินเศรษฐกิจ โดยหากมีค่าเป็นบวกก็มีแนวโน้มที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเติบโต และหากมีค่าเป็นลบก็มีแนวโน้มว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงในอนาคต แต่เนื่องจากดัชนีรวมนี้ไม่ได้เจาะจงว่าเกิดจากปัจจัยใดเป็นพิเศษ จึงทำให้ไม่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำมากนัก เว้นแต่จะเป็นบวกหรือลบเกิน 0.5%

 ทองคำ   สัญญาณราย 1 ชม. มีแนวโน้มที่ราคาจะทดสอบบริเวณ 1,400  แต่มีโอกาส 50/50 ที่จะดีดขึ้นต่อด้วยรูปแบบ double bottom ซึ่งจะทำให้ราคาสามารถขึ้นได้แรงในระยะสั้น  ซึ่งหากราคาไม่สามารถยืนเหนือ 1,400 ได้ จะมีแนวโน้มร่วงลงทดสอบบริเวณ 1,300-1,330 อีกครั้ง  ซึ่งต้องระวังการร่วงลงแรง ๆ ด้วย  สำหรับคืนนี้ ให้แนวต้านบริเวณ 1,395/1,400  ให้แนวรับบริเวณ 1,350/1,330  แนะนำรอ short หากราคายืน 1,400 ไม่ได้
 
โลหะเงิน   ราคาเริ่มดีดกลับหลังจากอ่อนตัวลงมา  โดย rsi ปรับตัวขึ้นจากเขต oversold  จึงต้องจับตาการทดสอบที่ระดับ 24  หากผ่านไปได้ จะถือว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดของรอบไปแล้ว และกลับตัวเป็นขาขึ้นแบบ double bottom ซึ่งจะพุ่งขึ้นได้แรง  แต่หากไม่ผ่านก็คาดว่าราคาจะแกว่งตัวระหว่าง 22–24 ต่อไป  ให้แนวต้านบริเวณ  23.86/24.36/25.77  ให้แนวรับบริเวณ  22.07  แนะนำให้ผู้มีสถานะ short ให้ปิดทำกำไร


อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 11-12,16
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
https://itunes.apple.com/th/app/classic-gold/id464234361?mt=8
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
https://market.android.com/details?id=com.codemobiles.classicgold
http://web.stagram.com/n/ilovecgf/
http://www.classicgoldgroup.tumblr.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น