วันศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 20 กรกฎาคม 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)


บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 20 กรกฎาคม 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

ขึ้นอย่างอ่อนแรง

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,582 USDต่อออนซ์ โดยเคลื่อนไหวบริเวณ 1,580 - 1,586 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ก่อนการสรุปผลการประชุมรมว.คลังยูโรโซนในวันนี้ ซึ่งคาดว่าจะได้ข่าวดีในการช่วยเหลือสเปน เนื่องจากเยอรมันซึ่งเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ได้อนุมัติมาตรการให้ความช่วยเหลือแล้ว อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในยุโรปยังไม่สู้ดีนัก เมื่อตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตของเยอรมันปรับตัวลดลง และกองทุนไอเอ็มเอฟ ระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจของอังกฤษและยูโรโซน บ่งชี้ถึงภาพรวมมหภาคที่ย่ำแย่ นักลงทุนจึงยังคาดหวังต่อการผ่อนคลายเชิงปริมาณเพิ่มเติม และคาดว่าตลาดอาจจะรักษาแรงหนุนต่อไปได้ แม้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ไม่สามารถให้สิ่งที่ตลาดต้องการในรูปของการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม ขณะที่ทางด้านตลาด Physical ยังไม่มีแรงซื้อขายที่ชัดเจน แม้ว่ากองทุนทองคำ อาทิ SPDR จะทยอยขายทองคำออกมา แต่ยังมีแรงซื้อทองคำจากนักลงทุนบางส่วนกลับเข้ามาเมื่อราคาทองคำลงมาถึงแนวรับสำคัญ ซึ่งคาดว่าการกลับเข้ามาซื้อทองคำจะมีมากขึ้นในเดือนหน้า เนื่องจากเข้าใกล้ช่วงเทศกาลแต่งงานของชาวอินเดีย ดังนั้น ในระยะนี้ ยังคาดว่าราคาทองคำจะยังเคลื่อนไหวในกรอบ 1,550 – 1,640 จนกว่าจะมีแรงซื้อที่ชัดเจนกลับเข้ามา สำหรับคืนนี้ คาดว่าการขึ้นยังอยู่ในกรอบจำกัด โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1,594/1,602 ขณะที่ราคาน้ำมันและค่าเงินยูโร เริ่มอ่อนแรงในการปรับตัวขึ้น

ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของเยอรมนีในเดือนมิ.ย.ปรับตัวลง 0.4% หลังจากติดลบ 0.3% ในเดือนพ.ค. แต่เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI เดือนมิ.ย.ขยายตัว 1.6% หากไม่รวมพลังงาน ดัชนี PPI ขยับลง 0.1% และปรับขึ้น 1.0% เมื่อทียบกับช่วงเดือนมิ.ย.2554 ดัชนี PPI เดือนมิ.ย.ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี จากราคาพลังงานที่ปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยในช่วงเดือนดังกล่าวราคาพลังงานร่วงลง 1.4%

สมาชิกสภานิติบัญญัติเยอรมนีมีมติอนุมัติมาตรการให้ความช่วยเหลือเป็นวง เงินสูงถึง 1 แสนล้านยูโร หรือ 1.22 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับธนาคารที่ประสบปัญหาของสเปน ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากอัตราผลตอบแทน พันธบัตรอายุ 10 ปีของสเปนพุ่งขึ้นเหนือระดับ 7% ซึ่งเป็นระดับที่ไม่สามารถบริหารจัดการได้ ขณะที่ตลาดการเงินไม่มั่นใจว่าสเปนจะสามารถแก้ไขปัญหาในภาคธนาคารได้หรือใหม่ ซึ่งปัญหาดังกล่าวอาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงที่วิกฤตหนี้จะลุกลามในยูโรโซน นอกจากนี้ มาตรการให้ความช่วยเหลือครั้งนี้จะช่วยให้รัฐบาลสเปนสามารถซื้อเวลาในการ สนับสนุนมาตรการปฏิรูป และผ่อนคลายความวิตกกังวลของตลาดและนักลงทุน


ประชาชนหลายพันคนร่วมเดินขบวนประท้วงในเมืองสำคัญต่างๆของสเปน เพื่อต่อต้านมาตรการของลดรายจ่ายของประเทศรวมถึงการขึ้นภาษีซึ่งได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา โดยกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงได้รวมตัวกันเดินขบวนในกว่า 80 แห่งทั่วสเปน ขณะที่ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่ามาตรการทางเศรษฐกิจดังกล่าวไม่ได้ช่วยลดแรงกดดันต่อตลาดหุ้นสเปนแต่อย่างใด โดยค่าพรีเมียมความเสี่ยงในตลาดหุ้นสเปนได้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสเปนยังคงสูงกว่า 7% ขึ้นไปซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ไม่สามารถบริหารจัดการได้ในระยะยาว สำนักข่าวซินหัวรายงาน

ยอดเก็บเกี่ยวข้าวของอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศผลิตข้าวรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ลดฮวบลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ หลังประสบปัญหาฝนตกน้อยในช่วงฤดูมรสุมในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มีการเพาะปลูกลดน้อยลง และอาจส่งผลให้ราคาข้าวในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น ทั้งนี้ การเพาะปลูกข้าวในอินเดียปรับตัวลดลง 19% สู่ระดับ 9.68 ล้านเฮกตาร์ (24 ล้านเอเคอร์) ในปีนี้ จาก 12.04 ล้านเฮกตาร์ในปีก่อน ขณะที่คาดการณ์ว่า อินเดียจะส่งออกข้าว 8 ล้านตันในช่วงระหว่างปี 2554-2555 นับเป็นจำนวน 25% ของตลาดค้าข้าวโลก
การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์หน้า (23-27 ก.ค.) มีดังนี้:- วันจันทร์ ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศเดือนมิ.ย. วันพุธ ยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย. ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันพฤหัสบดี ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมิ.ย. วันศุกร์ ตัวเลขประมาณการครั้งแรกของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 2/2012 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.ค.

ประเด็นที่ต้องติดตาม การประชุมของรัฐมนตรีคลังยูโรโซนในการอนุมัติเงินช่วยเหลือของสเปน (คืนนี้) ทรอยก้าเข้าตรวจกรีซ (24 ก.ค.) เฟดจัดการประชุม (31 ก.ค. – 1 ส.ค.) การประชุม ECB (2 ส.ค.) การปรับลดอันดับเครดิตประเทศและสถาบันการเงินของสถาบันจัดอันดับเครดิต การประมูลพันธบัตรรัฐบาลของสเปน อิตาลี และกรีซ สถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณช่องแคบฮอร์มุช

ทองคำ สัญญาณแสดงการแกว่งตัวขึ้นแบบ sideway up ที่อ่อนแรงลง จึงควรระวังแรงเทขายในช่วงราคาทองคำปรับขึ้น อย่างไรก็ตาม การอ่อนตัวของราคายังมีฐานรับที่แข็งแกร่งที่ 1,570/1,564/1,558 จึงเป็นจังหวะที่ดีสำหรับการซื้อสะสม ทั้งนี้ ให้แนวต้าน 1,594/1,602/1,614 และแนวรับ 1,570/1,564/1,558 แนะนำทยอยซื้อสะสมที่แนวรับ โดยมีจุด Stop loss ที่บริเวณ 1,555 --- สำหรับในสัปดาห์หน้า หากราคาทองคำสามารถปิดบวก หรือยืนเหนือ 1,588 มีแนวโน้มปรับขึ้นต่อในสัปดาห์หน้า ในขณะเดียวกัน การหลุด 1,564/1,558 แสดงสัญญาณ Bearish มากขึ้น อาจทำให้ราคาลงไปทดสอบบริเวณ 1,530/1,520 อีกครั้ง

โลหะเงิน มีแนวรับบริเวณ 27.00 / 26.85 แนวต้านบริเวณ 27.50 / 27.60 แนะนำ trading ในกรอบแนวรับ-แนวต้าน และทยอยซื้อสะสมที่แนวรับ

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8
https://plus.google....509313835/posts
https://market.andro...les.classicgold
http://web.stagram.com/n/ilovecgf/ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น