บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 3 พฤษภาคม 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)
จับตาผลการประชุม ECB ในคืนวันนี้
ราคาทองคำเปิดตอนเช้าตามเวลาตลาดเอเซีย วันที่ 3 พ.ค. อยู่ที่บริเวณ 1,648.72 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,640 - 1,649 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำมีแนวโน้มอ่อนตัวลงมา ตามราคาน้ำมัน และตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ที่ปรับตัวลดลง ทั้งนี้ ราคาทองคำยังถูกกดดันจากวิกฤติหนี้ในยุโรป หลังจากดัชนีภาคการผลิตปรับตัวลดลง และอัตราการว่างงานเพิ่มสูงขึ้น โดยนักลงทุนจับตาดูผลการประชุม ECB และ การประมูลพันธบัตรครั้งแรกของสเปนนับตั้งแต่ถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ ในคืนวันนี้ ซึ่งหากมีแนวโน้มในเชิงบวก จะเป็นแรงผลักดันให้ราคาทองคำกลับมาปรับตัวสูงขึ้นได้ โดยภาพทางเทคนิค ราคาทองคำยังอยู่ในแนวโน้มขาลงในระยะสั้น เนื่องจาก ราคายังไม่สามารถปรับขึ้นไปทำ High ใหม่ที่สูงกว่า High เดิมได้ และ ยังมีเส้น MA หลายเส้นกด ราคาทองคำไว้ ดังนั้น มีโอกาสอ่อนตัวลงมา โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1,636/1,630 หากหลุดบริเวณดังกล่าว อาจกลับไปทดสอบ Low เดิมที่บริเวณ 1,620/1,610 อย่างไรก็ตาม หากราคาทองคำยังสามารถประคองเหนือเส้น Uptrend ระยะยาวได้ โอกาสการกลับมาเป็นขาขึ้นเป็นไปได้ทุกเมื่อ ดังนั้น การยืนเหนือแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1,636/1,630 เป็นแนวโน้มที่ดี และการ rebound กลับขึ้นไปเหนือ 1,660/1,670 เป็นสัญญาณกลับทิศเป็นขาขึ้นที่ชัดเจนมากขึ้น
S&P ประกาศปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซเป็นระดับ "CCC" โดยให้แนวโน้มอันดับเครดิตระยะยาวเป็นมีเสถียรภาพ จากเดิมที่ระดับ "ผิดนัดชำระหนี้บางส่วน" (selective default) ภายหลังจากที่กรีซเสร็จสิ้นการปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เมื่อเดือนที่แล้ว อย่างไรก็ตาม อันดับความน่าเชื่อถือที่ CCC ยังอยู่ในระดับขยะ และแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือที่มีเสถียรภาพหมายความว่า เอสแอนด์พีไม่ได้กำลังพิจารณาที่จะเปลี่ยนแปลงอันดับเพิ่มเติมให้กับกรีซใน เวลานี้ ทั้งนี้ กรีซได้เสร็จสิ้นการแลกเปลี่ยนพันธบัตรกับบรรดาเจ้าหนี้ภาคเอกชนไปเมื่อวัน ที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยพันธบัตรชุดใหม่จะมีอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋วลดลงและมีอายุการไถ่ถอนนานขึ้น ซึ่งจะทำให้ภาระหนี้สินของกรีซลดลงกว่า 1 แสนล้านยูโร และจะช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ที่อาจส่งผลกระทบร้ายแรงไปทั่ว ภูมิภาคและทั่วโลกได้ นอกจากนี้ การสวอปพันธบัตรยังมีเป้าหมายเพื่อปรับลดยอดหนี้สาธารณะของรัฐบาลกรีซ จากระดับประมาณ 160% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศปัจจุบัน ลงมาเหลือ 120.5% ภายในปี 2563
ต้นทุนการกู้ยืมของสเปนมีแนวโน้มพุ่งขึ้นกว่า 1% ในการประมูลพันธบัตรประเภทอายุ 3 ปี และ 5 ปีในคืนวันนี้ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังสเปนจะขายพันธบัตรที่ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่30 ก.ค.2015, 31 ม.ค.2017 และ 30 ก.ค.2017 ซึ่งมีวงเงิน 1.5-2.5พันล้านยูโร (2.0-3.3 พันล้านดอลลาร์) พันธบัตรอายุ 3 ปีมีผลตอบแทนราว 4% ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ5 ปีอยู่ที่ 4.7% ในตลาดรองเมื่อวานนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 1% จากการประมูลครั้งล่าสุดในช่วงต้นปีนี้ การประมูลในวันนี้นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P)สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสเปนลง 2 ขั้น สู่ระดับ BBB+ ในสัปดาห์ที่แล้ว และเกิดขึ้นหลังมีการเปิดเผยข้อมูลที่แสดงว่าเศรษฐกิจสเปนเผชิญกับภาวะถดถอยเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่ปลายปี2009 สเปนกลายเป็นจุดสนใจในวิกฤติหนี้ยูโรโซน ขณะที่มีความวิตกเกี่ยวกับยอดขาดดุลงบประมาณ และเศรษฐกิจที่หดตัวลง รวมทั้งมีแรงกดดันมากขึ้นให้จัดทำแผนเพิ่มทุนธนาคาร ซึ่งมีหนี้เสียจำนวนมากจากการทรุดตัวลงของตลาดอสังหาริมทรัพย์
โปรตุเกสระดมทุนได้ 1.5 พันล้านยูโร (1.98 พันล้านดอลลาร์) ขณะต้นทุนการกู้ยืมปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ โปรตุเกสขายตั๋วเงินคลังอายุ 12 เดือนซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนพ.ค.2556 ได้ 1 พันล้านยูโร ที่อัตราผลตอบแทน 3.908% ซึ่งสูงกว่าระดับ 3.652% ในการประมูลเดือนมี.ค. ขณะที่ความต้องการซื้อสูงกว่าจำนวนที่นำออกประมูลอยู่ 2.7 เท่า เทียบกับระดับ 2.5 เท่าในการประมูลครั้งก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ โปรตุเกสยังขายตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือน ซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนพ.ย.2555 ได้ 500 ล้านยูโร ที่อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 2.935% เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.9% ในการประมูลเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ความต้องการซื้อสูงกว่าจำนวนที่นำออกประมูลอยู่ 4.1 เท่า เทียบกับระดับ 5 เท่าในการประมูลเดือนที่แล้ว
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
- 19.30 น. ธนาคารกลางสหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่สองสำหรับประสิทธิภาพการผลิต และต้นทุนแรงงานต่อหน่วยประจำไตรมาส 1/2555
- 19.30 น. กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
- 21.00 น. สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยดัชนีภาคบริการเดือนเม.ย.
ภาพทางเทคนิครอสัญญาณการจบรอบขาลงในระยะกลาง โดยราคาทองคำยังสามารถประคองตัวเหนือเส้น Uptrend ระยะยาว เป็นสัญญาณที่ดี แต่ในระยะสั้น ยังถูกกดดันด้วยเส้น MA หลายเส้น และ Stochastic ในรายวัน ยังหักหัวชี้ลง จึงคาดว่ายังมีแนวโน้มอ่อนตัวลงมาได้อีก ซึ่งมีแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1,636/1,630 หากไม่หลุดบริเวณดังกล่าว และสามารถ rebound กลับขึ้นไปเหนือ 1,660/1,670 การส่งสัญญาณกลับทิศเป็นขาขึ้นจะชัดเจนมากขึ้น
ส่วนโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 30.4/ 29.9 แนวต้านบริเวณ 31.0/ 31.6 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 29.9 – 31.6
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8
https://plus.google....509313835/posts
https://market.andro...les.classicgold
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น