วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 30 พฤษภาคม 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)


บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 30 พฤษภาคม 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

วิกฤติยูโรโซน กดดันราคาทองคำ

ราคาทองคำเปิดตอนเช้าตามเวลาตลาดเอเซีย วันที่ 30 พ.ค. อยู่ที่บริเวณ 1,547.07 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,545 - 1,551 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำ Rebound กลับขึ้นมาเล็กน้อยหลังจากที่ปรับลดลงไปแรงเมื่อคืนวานนี้ ขณะที่การอ่อนค่าของค่าเงินยูโร และการปรับลดลงของราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่อง ยังคงกดดันราคาทองคำต่อในระยะถัดไป ทั้งนี้ ความวิตกต่อภาคธนาคารของสเปนและต้นทุนการกู้ยืมที่พุ่งขึ้นของสเปนส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตลาด ขณะที่นักลงทุนรอผลการประชุม G30 ที่จะมีขึ้นในวันศุกร์นี้ สำหรับภาพทางเทคนิค ส่งสัญญาณลบมากขึ้น ถ้าหากราคายังไม่สามารถกลับไปยืนเหนือบริเวณ 1,550 มีแนวโน้มอ่อนตัวลงมาอีกครั้ง

ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เปิดเผยว่า การปล่อยสินเชื่อให้แก่ภาคครัวเรือนและภาคเอกชนในยูโรโซนมีอัตราการเพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาดในเดือนเม.ย. ขณะที่ธนาคารต่างๆได้เพิ่มการปล่อยสินเชื่อให้แก่ภาคธุรกิจ ทั้งนี้ การปล่อยสินเชื่อให้แก่ภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย.จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เทียบกับผลสำรวจของรอยเตอร์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% ปริมาณการปล่อยสินเชื่อให้แก่ภาคครัวเรือนมีมูลค่า 6 พันล้านยูโร ซึ่งเท่ากับการเพิ่มขึ้นในเดือนที่แล้ว ส่วนปริมาณการปล่อยสินเชื่อให้แก่บริษัทที่ไม่ใช่ภาคการเงินเพิ่มเป็น 1.0 หมื่นล้านยูโร หลังจากที่ลดลง 7 พันล้านยูโรในเดือนมี.ค. ส่วนปริมาณเงิน M3 ของยูโรโซนขยายตัว 2.5% ต่อปีในเดือนเม.ย. จาก3.1% ในเดือนมี.ค. และต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 3.4%

ผลสำรวจคาดว่า ชาวกรีซจะสูญเสียรายได้ปัจจุบันต่อหัวประมาณ 55% และเศรษฐกิจกรีซจะถดถอยลงกว่า 22% หากกรีซออกจากยูโรโซน ในการประเมินผลกระทบของกรณีดังกล่าว ผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารระบุถึงภาพรวมที่ซบเซาของกรีซในรายงานพิเศษเกี่ยวกับ “วิกฤตขั้นรุนแรง" ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าอัตราการว่างงานมีโอกาสที่จะพุ่งสูงขึ้นแตะ 34% และอัตราเงินเฟ้ออาจสูงถึง 30% เนื่องจากราคาสินค้านำเข้าที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากอาจจะลบล้างผลดีใดๆจาก การปรับลดค่าเงิน หลังจากที่มีการผลักดันนโยบายรัดเข็มขัดมานาน 2 ปี เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตหนี้รุนแรงที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2552 ซึ่งสร้างความเสี่ยงที่กรีซจะผิดนัดชำระหนี้อย่างไม่เป็นระบบ คาดว่าชาวกรีซได้สูญเสียรายได้ไปแล้วเฉลี่ยราว 25% เศรษฐกิจกรีซถดถอยลง 14 % ตั้งแต่ปี 2552-2555 อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2% และอัตราการว่างงานเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ที่เกินกว่า 20% ทั้งนี้ ความไม่มั่นคงทางการเมือง นอกเหนือจากปัญหาการคลังของกรีซ หลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ยังไม่ได้ข้อสรุปแน่ชัด และความล้มเหลวของพรรคการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาลผสมได้สร้างความหวั่นวิตก เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับอนาคตทางเศรษฐกิจของกรีซ 


จีนไม่มีแผนจะดำเนินมาตรการเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจขนานใหญ่เหมือนดังเช่นในช่วงวิกฤตการเงินโลกในปี 2551 บทความเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจระบุว่า รัฐบาลจีนมีเจตนารมณ์ที่ชัดเจนอย่างมากที่จะไม่ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งใหญ่ ขณะที่ความพยายามในปัจจุบันในการสร้างเสถียรภาพด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะ ไม่ซ้ำซ้อนกับแนวทางของเมื่อ 3 ปีก่อน ที่มีการกระตุ้นทางการคลังในวงเงิน 4 ล้านล้านหยวน ทั้งนี้ การยับยั้งแผนกระตุ้นเศรษฐกิจอาจบ่งชี้ถึงความกังวลที่ว่าการปล่อยกู้ที่สูง เป็นประวัติการณ์ ซึ่งได้ช่วยเศรษฐกิจจีนในการรับมือกับการหดตัวทางการค้าในช่วงปี 2551-2552 ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาหนี้เสีย

ธนาคารออมทรัพย์ของสเปน 3 แห่งได้ตกลงควบรวมกิจการกันและจะขายธุรกิจบางส่วน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านงบดุลบัญชี ขณะที่วิกฤตเศรษฐกิจที่ยืดเยื้อกำลังส่งผลกระทบต่อระบบการธนาคารของประเทศ ธนาคารทั้ง 3 แห่งประกอบด้วย Ibercaja, Liberbank และ Caja3 โดยหลังจากควบรวมกิจการแล้วจะส่งผลให้มีธนาคารขนาดใหญ่อันดับ 7 ของประเทศที่มีสินทรัพย์มูลค่า 1.20 แสนล้านยูโร รายงานที่เสนอต่อหน่วยงานกำกับดูแลตลาดการเงินของสเปนระบุว่า ธนาคารแห่งใหม่ดังกล่าว จะมี Ibercaja ถือหุ้น 46.5% ขณะที่ Liberbank เป็นเจ้าของหุ้น 45.5% และ Caja3 จะมีหุ้นอยู่ 8% การควบรวมกิจการครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่บังเกีย ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 4 ของสเปน ต้องขอเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล 1.9 หมื่นล้านยูโร (2.38 หมื่นล้านดอลลาร์) ที่มากเป็นประวัติการณ์สำหรับสเปน ซึ่งสะท้อนถึงความเปราะบางของภาคการธนาคารสเปน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ขณะที่ต้นทุนการกู้ยืมของสเปนพุ่งขึ้น เนื่องจากนักลงทุนไม่เชื่อมั่นในเศรษฐกิจของประเทศ


ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
- 21.00 น. ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนเม.ย.
- 21.00 น. อัตราจ้างงานและอัตราว่างงานในเมืองใหญ่เดือนเม.ย.

ภาพกราฟทางเทคนิคในรายวันจะส่งสัญญาณ Bearish มากขึ้น ถ้าไม่สามารถยืนเหนือ 1,550 ได้ และราคาอาจลงไปที่บริเวณ 1,533 อีกครั้ง แนะนำ นักลงทุนระยะสั้นเปิด Short ถ้าราคาหลุด 1,550 โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,533 / 1,522 โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,565

ส่วนโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 27.7/27.0 แนวต้านบริเวณ 28.8/ 29.3 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 27.0 – 29.3


อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8
https://plus.google....509313835/posts
https://market.andro...les.classicgold 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น