วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 11 พฤษภาคม 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 11 พฤษภาคม 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

ตลาดยุโรปกดดันราคาทองคำ

ราคาทองคำเปิดตอนเช้าตามเวลาตลาดเอเซีย วันที่ 11 พ.ค. อยู่ที่บริเวณ 1,586 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,573 - 1,587 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำอ่อนตัวอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1,600 เมื่อคืนวานนี้ ทั้งนี้ ราคาทองคำปรับตัวลงมาต่ำกว่าแนวรับสำคัญที่ 1,575 หลังจากที่ตลาดยุโรปเปิดทำการ ทั้งนี้ คาดว่าเป็น Panic sell จากความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มการเมืองของกรีซ, ผลขาดทุนมหาศาลจากเจพีมอร์แกน และความวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับภาคธนาคารของสเปน ทำให้ความเชื่อมั่นในตลาดถดถอยลงไปอย่างมาก โดยขณะนี้ ราคาทองคำสามารถ Rebound กลับมาประคองตัวเหนือ 1,575 ซึ่งคาดว่า หากคืนวันนี้ยังสามารถประคองเหนือบริเวณดังกล่าว ทิศทางราคาทองคำยังคงอยู่ในเชิงบวก ในทางกลับกัน หากไม่สามารถรับอยู่ ราคาอาจถูกกดดันมาอยู่ที่บริเวณ 1,560/1,550 โดยภาพทางเทคนิคโดยรวมยังอยู่ในเชิงลบ

รมว.ต่างประเทศเยอรมนี กล่าวว่า กรีซจะได้รับความช่วยเหลือทางการเงินอย่างต่อเนื่อง ก็ต่อเมื่อกรีซดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจ โดยเยอรมัน ระบุว่าจะไม่สามารถมีการเจรจาใหม่เกี่ยวกับสนธิสัญญาการคลังในด้านวินัยงบประมาณ ตามที่ ประธานาธิบดีคนใหม่ของฝรั่งเศสเรียกร้อง และย้ำว่ากรีซต้องดำเนินการปฏิรูปที่ให้สัญญาไว้

เยอรมนี ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับ 0.3% ในเดือนมี.ค. และดีดตัวขึ้น 2.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ ราคาพลังงานเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุน CPI ขึ้น หากไม่รวมพลังงาน ดัชนี CPI ขยับขึ้น 0.1% เทียบรายเดือน และ 1.5% เทียบรายปี

อิตาลี คาดว่าการผลิตในภาคอุตสาหกรรมของอิตาลีจะลดลง 0.6% ในเดือนเม.ย.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากมีการปรับตัวขึ้นเกินคาดในเดือนมี.ค. โดยระบุว่าการปรับตัวลงของภาคอุตสาหกรรมดังกล่าว มีแนวโน้มจะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ร่วงลงกว่า 1% เมื่อพิจารณาประกอบกับภาวะวิกฤตสินเชื่อ การใช้จ่ายของภาคครัวเรือนที่ลดลง และอัตราว่างงานที่สูงขึ้น ทั้งนี้ การผลิตในภาคอุตสาหกรรมของอิตาลีในเดือนมี.ค.ปรับเพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบรายเดือน แต่หากเทียบเป็นรายปี ข้อมูลการผลิตกลับลดลง 5.8% เมื่อเทียบรายไตรมาส การผลิตในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ยังคงติดลบ 2.1% หลังจากร่วงลง 2.5% ในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว


สเปนจะประกาศมาตรการต่อไปในการแก้ปัญหาสินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ที่มี ปัญหาของธนาคาร ซึ่งครั้งนี้จะนับเป็นครั้งที่ 4 ที่สเปนพยายามโน้มน้าวให้นักลงทุนเชื่อว่าระบบการธนาคารของสเปนมีความแข็งแกร่ง หลังจากที่ดำเนินความพยายามมาเป็นเวลา 3 ครั้งในช่วงเวลาหลายปี แต่ก็ยังไม่ได้รับความเชื่อถือในท้ายที่สุด ทั้งนี้ จะเสนอแผนต่อไปเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนในภาคการธนาคารของสเปน โดยรัฐบาลจะกำหนดให้ธนาคารกันสำรองมากขึ้นสำหรับเงินกู้ภาคอสังหาริมทรัพย์ คุณภาพดี, เพิ่มระดับการครอบคลุมสู่ราว 30% จาก 7% ในขณะนี้ ซึ่งกฎนี้จะทำให้ธนาคารต้องกันเงินไว้ราว 3 หมื่นล้านยูโร นอกเหนือจากเดิมที่ 5.38 หมื่นล้านยูโรที่รัฐบาลได้มีคำสั่งปฏิรูปในเดือนก.พ
เจพี มอร์แกน เชส ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐยอมรับว่า ธนาคารขาดทุนอย่างไม่คาดคิดจากการทำธุรกิจเทรดดิ้งเป็นวงเงินทั้งสิ้น 2 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากการเก็งกำไรที่ผิดพลาดในตราสารอนุพันธ์ของ Chief Investment Office ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านบริหารความเสี่ยงของเจพี มอร์แกน หลังจากที่ได้พิจารณาถึงรายได้ทางด้านหลักทรัพย์อื่นๆแล้ว เจพีมอร์แกนได้ปรับเพิ่มประมาณการการขาดทุนสุทธิของ Chief Investment Office เป็น 800 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ปีนี้ ตรงข้ามกับที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะมีกำไร 200 ล้านดอลลาร์
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
- 19.30 น. กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย.
- 20.55 น. รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนพ.ค.

การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์หน้า (14-18 พ.ค.) มีดังนี้: วันอังคาร ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย. ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย. ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนพ.ค. ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติเดือนมี.ค. ตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมี.ค. วันพุธ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนเม.ย. ข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิตเดือนเม.ย. เฟด เปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 24-25 เม.ย. ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันพฤหัสบดี จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนเม.ย.

ภาพกราฟทางเทคนิคหลังจากที่เมื่อวาน rebound ไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,605 คาดว่าวันนี้มีแนวโน้มอ่อนตัวลงมามีบริเวณแนวรับ 1,575/1,550 ส่วนแนวต้านอยู่ที่บริเวณ 1,590/1,600 ภาพกราฟเป็นแนวโน้มขาลง คาดว่าเป้าหมายการลงอาจไปที่บริเวณ 1,575/1,550 นักลงทุนที่เปิด Short ไว้ถือต่อโดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,575/1,550

ส่วนโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 28.6/ 27.8 แนวต้านบริเวณ 29.4/ 30.0 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 27.8 – 30.0


อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8
https://plus.google....509313835/posts
https://market.andro...les.classicgold 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น