วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 10 พฤษภาคม 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 10 พฤษภาคม 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

ถ้าปิดเหนือ 1,600 เป็นสัญญาณเชิงบวก

ราคาทองคำเปิดตอนเช้าตามเวลาตลาดเอเซีย วันที่ 10 พ.ค. อยู่ที่บริเวณ 1,589.21 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,583 - 1,596 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำมีการ rebound ขึ้นมาเล็กน้อย จากแรงซื้อกลับของนักลงทุน หลังจากราคาร่วงลงไปแรงในช่วง 2 – 3 วันก่อนหน้า ขณะที่สถานการณ์การเมืองในยุโรปยังคงเป็นความเสี่ยงต่อการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป เมื่อกรีซกำลังเผชิญปัญหาในการจัดตั้งรัฐบาลผสม ส่วนในฝรั่งเศส ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซีต้องพ่ายแพ้ให้กับนายฟรังซัวส์ ออลลองด์ ผู้นำพรรคสังคมนิยม ที่มีแนวคิดสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ แต่ต่อต้านการรัดเข็มขัดและลดยอดขาดดุลของประเทศ นอกจากนั้น ปัญหาในภาคธนาคารของสเปนทำให้ต้องมีการเพิ่มทุน ก็เป็นแรงกดดันต่อตลาดอีกทาง สำหรับภาพทางเทคนิคในระยะสั้น ยังมีทิศทางเป็นลบ อย่างไรก็ตาม การปรับลดลงมาแรงในช่วงก่อนหน้า รวมถึง RSI และ เส้น Stochastic เริ่มเข้าใกล้ 0 เป็นสัญญาณการ rebound แต่การปรับขึ้น ยังอยู่ในกรอบจำกัด เนื่องจากยังมีแนวต้านหลายเส้น เช่น 1,595/1,600/1,612 ดังนั้น หากยังไม่สามารถผ่านแนวต้านหลักๆ เหล่านี้ได้ การปรับลดลงยังเป็นไปได้สูง ขณะที่ หากราคาสามารถกลับไปยืนเหนือ 1,600 ในวันนี้ สัญญาณจะเริ่มกลับเป็น
บวกมากขึ้น

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) อยู่ระหว่างร่างแผนการเพื่อปกป้ององค์กรจากการขาดทุนด้านการปล่อยกู้ที่อาจ จะเกิดขึ้น ซึ่งรวมถึงข้อเสนอที่อาจจะจำกัดขนาดของเงินกู้ที่จะให้แก่กลุ่มประเทศในยูโรโซน โดยหารือกันในประเด็นเกี่ยวกับ กำหนดเวลาในการเบิกจ่ายเงิน เป้าหมายและเงื่อนไขในการใช้เงินดังกล่าว ขณะที่สมาชิกไอเอ็มเอฟกังวลว่าวิกฤตการณ์ของยุโรปในขณะนี้อยู่ในจุดที่อาจจะ ลุกลามไปเป็นหายนะทางการเงินอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ด้วยระดับความรุนแรงของวิกฤตยุโรป ส่งผลให้มีความพยายามจะเพิ่มฐานเงินทุนขององค์กรเพื่อรองรับความต้องการที่อาจจะเพิ่มขึ้น สำหรับเงินกู้ของไอเอ็มเอฟ ขณะที่ เมื่อเดือนที่แล้ว กลุ่มประเทศรายใหญ่กว่า 10 ประเทศได้ให้คำมั่นที่จะเพิ่มการจ่ายเงินสมทบแก่ไอเอ็มเอฟราว 4.30 แสนล้านดอลลาร์

กรีซได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะผ่านมาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่มุลค่า 1.45 หมื่นล้านยูโร หรือ 1.89 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนหน้า และให้คำมั่นว่าจะดำเนินการมาตรการปฏิรูปด้านอื่นๆ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้รัฐบาลกลุ่มยูโรโซนตัดสินใจอนุมัติเงินช่วย เหลือกรีซวงเงิน 5.2 พันล้านยูโร จากกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) โดยกองทุน EFSF ตกลงที่จะให้เงินเบิกจ่ายงวดแรกสำหรับกรีซในวันนี้ มูลค่า 4.2 พันล้านยูโร จากทั้งหมด 5.2 พันล้านยูโร ซึ่งการอนุมัติความช่วยเหลือครั้งนี้มีขึ้น แม้ชาวกรีซส่วนใหญ่ได้แสดงท่าที คัดค้านพรรคการเมืองที่สนับสนุนการให้ความช่วยเหลือกรีซและมาตรการรัด เข็มขัดของรัฐบาลกรีซก็ตาม


รัฐบาลสเปนทำข้อตกลงแปรรูปธนาคารบังเกีย ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 4 ของสเปน โดยเป็นความพยายามที่จะหนุนภาคการธนาคารที่ย่ำแย่และเพื่อขจัดความกังวล เกี่ยวกับศักยภาพของรัฐบาลในการสางปัญหาในภาคการเงินที่ดำเนินมาเป็นเวลา หลายปี โดยรัฐบาลจะถือหุ้น 45% ของบังเกียและจะมีอำนาจควบคุมการบริหารจัดการ โดยเงินกู้ 4.5 พันล้านยูโร (5.9 พันล้านดอลลาร์) ที่บังเกียได้รับจากทางการก่อนหน้านี้จะมีการแปลงสภาพไปเป็นหุ้นของบริษัท BFA ซึ่งเป็นบริษัทแม่ นอกจากนี้ บังเกียจะต้องขายสินทรัพย์และเสริมความแข็งแกร่งด้านการบริหารจัดการ ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ คาดว่ารัฐบาลจะประกาศมาตรการปฏิรูปภาคธนาคารโดยรวมเพิ่มเติม ขณะที่สเปนเผชิญกับภาวะถดถอยและอัตราว่างงานที่สูงสุดในกลุ่มยูโรโซนที่ 24.4%

การผลิตในภาคอุตสาหกรรมของอิตาลีในเดือนมี.ค.ปรับเพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบรายเดือน แต่หากเทียบเป็นรายปี ข้อมูลการผลิตกลับลดลง 5.8% ในเดือนก.พ. การผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง 0.7% จากสถิติเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายไตรมาส การผลิตในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ยังคงติดลบ 2.1% หลังจากร่วงลง 2.5% ในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว

การผลิตในภาคอุตสาหกรรมของฝรั่งเศสลดลง 0.9% ในเดือนมี.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนก.พ. เนื่องจากการบริโภคไฟฟ้าและพลังงานลดลง จากสภาพอากาศที่ไม่หนาวเย็นนัก แม้ว่าการผลิตในภาคการผลิตเพิ่มขึ้นในเดือนมี.ค. ขณะที่ ธนาคารกลางฝรั่งเศสคาดว่า เศรษฐกิจของประเทศมีแนวโน้มขยายตัวที่ 0% ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2555 ขณะที่ปัจจัยชี้วัดความเชื่อมั่นทางธุรกิจในภาคอุตสาหรรมเดือนเม.ย.อยู่ที่ 95 ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนมี.ค. และดัชนีชี้วัดในภาคบริการก็ทรงตัวที่ 93 นอกจากนี้ คาดว่ากิจกรรมในภาคอุตสาหกรรมจะหดตัวลงเล็กน้อยในช่วงหลายเดือนข้างหน้า เช่นเดียวกับกิจกรรมในภาคบริการ

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
- อังกฤษ (18.00 น.) คณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) ของธนาคารกลางอังกฤษแถลงมติอัตราดอกเบี้ย
- 19.30 น. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนมี.ค.
- 19.30 น. กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์
- 20.30 น. Ben Bernanke แถลงการณ์

ภาพกราฟทางเทคนิคราคาประคองตัวเหนือแนวรับบริเวณ 1,575 ได้ แต่การ rebound ในวันนี้คาดว่าจะไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,612 ได้ คาดว่ามีแนวรับในวันนี้บริเวณ 1,575/1,563 ส่วนแนวต้านคาดว่ามีที่บริเวณ 1,605/1,612/1,620 ภาพกราฟเป็นแนวโน้มขาลง คาดว่าเป้าหมายการลงอาจไปที่บริเวณ 1,575/1,550 การ rebound ขึ้นสู่แนวต้านบริเวณ 1,612/1,620 เป็นจังหวะเปิด Short โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,575/1,550

ส่วนโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 28.6/ 27.8 แนวต้านบริเวณ 29.4/ 30.0 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 27.8 – 30.0

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8
https://plus.google....509313835/posts
https://market.andro...les.classicgold 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น