วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2554

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 30 ธันวาคม 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 30 ธันวาคม 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

++ ราคาทองคำมีแนวต้านที่ 1,570/1,590/1,605 และแนวรับที่ 1,530/1,525/1,480 สัญญาณทางเทคนิคในระยะสั้นเป็นลบ แต่ราคา Rebound ขึ้นมาเมื่อไปแตะที่ระดับ 1,525 คาดว่าราคาอาจปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่อ แต่อยู่ในระยะที่จำกัด เนื่องจากปัจจัยทางเทคนิคกดราคาอยู่ แนะนำ Trading ในกรอบ 1,525 – 1,572

Rebound เพื่อลงต่อ

ราคาทองคำเปิดตอนเช้าตามเวลาตลาดเอเซีย วันที่ 30 ธ.ค. อยู่ที่บริเวณ 1,553.53 USD ต่อออนซ์ โดยเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,552 – 1,563 USD ต่อออนซ์ ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในการซื้อขายช่วงแรกในวันทำการสุดท้ายของปีนี้ หลังจากปรับลดลงอย่างต่อเนื่องเกือบ 2 สัปดาห์ แตะต่ำสุดที่ 1,522 โดยราคาทองคำปรับตัวขึ้น จากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ แต่ปัจจัยปีนี้ถูกบดบังจากวิกฤติหนี้ยุโรป และแนวโน้มในอนาคต ก็จะขึ้นอยู่กับผู้กำหนดนโยบาย และวิธีที่พวกเขาจะดำเนินการเพื่อปรับนโยบายการคลังให้สอดคล้องกันมากขึ้นในยุโรป รวมทั้งตลาดจะมีการเคลื่อนไหวอย่างไรในปีหน้า ขณะที่ราคาทองคำร่วงผ่านระดับสำคัญทางเทคนิคในการซื้อขายช่วงข้ามคืน ซึ่งถือเป็นสัญญาณเชิงลบสำหรับปีหน้า และมีแนวโน้มว่าวิกฤติหนี้ยูโรโซนจะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดทิศทางตลาดในปีหน้า เนื่องจากยูโรโซนยังคงขาดแคลนนโยบายแบบเบ็ดเสร็จในการแก้ไขวิกฤติหนี้, อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอิตาลียังคงอยู่ใกล้ระดับที่สูงเกินไป และธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซนยังคงประสบปัญหาขาดแคลนดอลลาร์ คาดว่าราคาทองคำจะมีการ Rebound ได้ แต่อยู่ในระยะที่จำกัด และมีโอกาสปรับตัวลงมาได้ต่อ หากไม่สามารถผ่านแนวต้านในแต่ละระดับ ทั้งนี้ราคาจะกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้งเมื่อผ่านแนวต้านสำคัญที่ 1,640 สำหรับในช่วงวันหยุดยาว แนะนำ ปิดสถานะ เพื่อป้องกันความเสี่ยง เนื่องจากตลาดการซื้อขายในเมืองไทยเปิดช้ากว่าตลาดต่างประเทศ 1 วัน ซึ่งอาจมีการผันผวนของราคามากในช่วงเวลาดังกล่าว

ชาวเยอรมัน 49% ยังคงมองว่าชีวิตตนเองจะสดใสในปีหน้า ขณะที่ 17% วิตกกังวล และอีก 26% ตอบว่าไม่แน่ใจ ทั้งนี้ กลุ่มสำรวจที่มีมุมมองบวกมีจำนวนลดลงเล็กน้อยจากระดับ 56% ในการสำรวจปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาความผันผวนของตลาดอันเนื่องมาจากวิกฤติหนี้สิ้นยูโรโซน และการขยายตัวของเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวทั่วโลกนั้น ถือว่าตัวเลขระดับนี้ค่อนข้างสูง เนื่องจากทั่วไปของชาวเยอรมันส่วนใหญ่สามารถต้านทานความเสี่ยงต่างๆจากทั่วโลก ได้ และการว่างงานของชาวเยอรมันอยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่การรวมประเทศเยอรมนี และการบริโภคอยู่ในระดับคงที่สลับกับปรับตัวดีขึ้นในระยะ 2-3 ปีมานี้ นอกจากนั้นเศรษฐกิจเยอรมนีได้รับแรงหนุนจากการส่งออกและอุปสงค์ในประเทศที่แข็ง แกร่ง จึงคาดว่จะขยายตัวขึ้น 3% ในปีนี้ ซึ่งแซงหน้าประเทศสมาชิกอื่นๆในยูโรโซน และสวนทางกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคยุโรปตะวันตก ในปี 2553 เศรษฐกิจเยอรมนีขยายตัวสูงถึง 4.9% ถือเป็นประเทศอุตสาหกรรมประเทศแรกๆ ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการเงินระหว่างประเทศ

ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มสดใสขึ้น โดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสหรัฐเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว แต่แนวโน้มของตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐกำลังปรับตัวดีขึ้น ตัวเลขภาคการผลิตในภูมิภาคมิดเวสท์ของสหรัฐยังแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐได้รับแรงหนุนต่อไปในช่วงสิ้นปี นอกจากนี้ยอดทำสัญญาขายบ้านมือสองที่รอปิดการขาย (pendinghome sales) พุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 1 ปีครึ่งในเดือนพ.ย. ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยกำลังฟื้นตัว ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจเหล่านี้ บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจอยู่ในสถานะแข็งแกร่งกว่าที่เคยคาดการณ์กันไว้สำหรับช่วงสิ้นปี ซึ่งจะส่งผลให้สหรัฐมีความพร้อมมากยิ่งขึ้นในการรับมือกับวิกฤติหนี้ยุโรปและการคุมเข้มทางการคลังภายในสหรัฐ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มที่แข็งแกร่งขึ้น ไม่ได้บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจะเติบโอย่างแข็งแกร่งในปี 2012

นายกรัฐมนตรีอิตาลี ระบุว่า จะหารือกับนายกรัฐมนตรีของเยอรมนี, นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ และประธานาธิบดีของฝรั่งเศส ในเดือน ม.ค.2555 ทั้งนี้ รมว.คลังสหภาพยุโรปจะประชุมกันในวันที่ 23 ม.ค. และผู้นำอียูจะมีการประชุมสุดยอดในวันที่ 30 ม.ค. หลังการเห็นชอบมาตรการรัดเข็มขัดมูลค่า 3.4 หมื่นล้านยูโร นายมอนติกล่าวในการแถลงข่าวส่งท้ายปีว่า เขาจะให้ความสำคัญต่อการปิดช่องว่างระหว่างตลาดแรงงานที่ไม่มีงานประจำ และแรงงานที่มีงานประจำ ขณะที่เพิ่มการแข่งขัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
- 21.45 น. สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจรัฐนิวยอร์คเดือนธ.ค.
- 21.45 น. สมาคมผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อแห่งชาติ(NAPM)เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเขตชิคาโกเดือนธ.ค.
การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์หน้า (2-6 ม.ค.) อาทิ วันอังคาร ดัชนีภาคการผลิตเดือนธ.ค. ข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนพ.ย. เฟด รายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน FOMC วันพุธ ยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนพ.ย. วันพฤหัสบดี ตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศเดือนธ.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีภาคบริการเดือนธ.ค. ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันศุกร์ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค.

การวิเคราะห์ทางเทคนิค
++ ราคาทองคำมีแนวต้านที่ 1,570/1,590/1,605 และแนวรับที่ 1,530/1,525/1,480 สัญญาณทางเทคนิคในระยะสั้นเป็นลบ แต่ราคา Rebound ขึ้นมาเมื่อไปแตะที่ระดับ 1,525 คาดว่าราคาอาจปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่อ แต่อยู่ในระยะที่จำกัด เนื่องจากปัจจัยทางเทคนิคกดราคาอยู่ แนะนำ Trading ในกรอบ 1,525 – 1,572
++ ราคาโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 27.3/26.2 แนวต้านบริเวณ 28.3/ 28.7 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 26.2 – 28.3 ส่วนนักลงทุนระยะกลางรอเปิด Short เมื่อราคาเด้งขึ้นสู่แนวต้าน โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ แนวรับ

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8 https://plus.google....509313835/posts


Currently hiding

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น