บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 21 ธันวาคม 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)
ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดเพิ่มขึ้น 20.9 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 1,617.60 USDต่อออนซ์ ในช่วงเช้าวันนี้ปรับตัวสูงขึ้นมายืนเหนือ 1,620 USDต่อออนซ์ ราคาปรับสูงขึ้นเนื่องจากการที่ค่าเงิน USD อ่อนค่าลง เงินยูโรแข็งค่าขึ้น เมื่อตัวเลขเศรษฐกิจของเยอรมันออกมาดี และสเปนขายตั๋วเงินคลังได้เกินเป้าหมาย
o oราคาทองคำในตลาด COMEX มีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,594.10 – 1,620.80 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำ rebound ขึ้นได้ จากการที่ค่าเงิน USD อ่อนค่าลง และเงินยูโรแข็งค่าขึ้น จากการที่ตัวเลขเศรษฐกิจของเยอรมันออกมาดี เช่น ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ และสเปนสามารถขายตั๋วเงินคลังได้เกินเป้าหมายในอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับขึ้นแรงถึง 337.32 จุด ปิดที่ 12,103.58 จุด จากการที่ตัวเลข ยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐพุ่งขึ้น 9.3% YoY ดีเกินคาด ส่วนราคาน้ำมันดิบ Nymex ปรับสูงขึ้น 3.34 USD9อบาร์เรล เนื่องจากการประกาศตัวเลขของสหรัฐและเยอรมันออกมาดี ประกอบกับความกังวลในเรื่อง ปัญหาขัดข้องด้านอุปทานน้ำมันของอิหร่านและคาซัคสถาน
o ราคาทองคำขึ้นมาทดสอบแนวต้านบริเวณเส้น MA 9 วัน และ MA 200 วันบริเวณ 1,620 – 1,623 และมีแนวโน้มจะผ่านไปได้โดยมีเป้าหมายถัดไปบริเวณเส้น MA 50 ราย 4 ช.ม.บริเวณ 1,630 และถัดไปบริเวณเส้น MA 34 สัปดาห์บริเวณ 1,653 คาดว่าเป้าหมายในการ rebound ครั้งนี้จะขึ้นไปได้ที่บริเวณ 1,653 โดยอาจมีแรงขายทำกำไรบริเวณ 1,630 – 1,634/1,653 การยืนเหนือเส้น MA 34 สัดาห์จะเป็นแนวโน้มที่ดีในสัปดาห์หน้าและอาจขึ้นไปได้ถึง 1,680 และแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,700 นักลงทุนที่เปิด Long ไว้ถือต่อ โดยทยอยปิดทำกำไรบริเวณ 1,653/1,680 โดยมีจุด Lock กำไร 1,620 ถ้าราคาอ่อนตัวลงไม่ขึ้นตามความคาดหมาย ส่วนนักลงทุนที่ไม่มีสถานะ Trading ในกรอบ 1,605 – 1,653 สัญญาณทางเทคนิคในรายวันมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้ แต่ระหว่างวันอาจมีการย่อลงมาบ้าง แต่ถ้าจะขึ้นต่อไม่ควรหลุด 1,605
o ปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ค่าเงิน USD ถ้ายืนบริเวณ 1.30 USDต่อยูโรได้และมีแนวโน้มอ่อนค่าลงราคาทองคำน่าจะยืนเหนือ 1,630/1,650 ได้ในปลายสัปดาห์ ในทางกลับกันค่าเงิน USD ที่แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.29 USDต่อยูโร จะเป็นปัจจัยลบ ที่กดดันราคาทองคำ และแสดงว่านักลงทุนยังคงขายสินทรัพย์เสี่ยงรวมถึงทองคำ เพื่อถือเงินสด ส่วนปัจจัยบวก คือ การเข้าซื้อของนักลงทุนระยะยาว ที่มองเห็นว่า ระดับราคาบริเวณนี้อยู่ในเกณฑ์ที่เป็น fair price
o ภาพการฟทางเทคนิคในระยะกลางดูจาก กราฟในรายสัปดาห์ ถ้าราคาผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 34 สัปดาห์บริเวณ 1,653 ได้ ทิศทางในระยะสัปาดห์อาจปรับขึ้นต่อได้ที่บริเวณ 1,700 USDต่อออนซ์ การยืนเหนือเส้น MA 50 สัปดาห์บริเวณ 1,578ได้แสดงแนวโน้มในระยะกลางที่ดีขึ้น
o รายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันพฤหัสบดี ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3/2011 จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีการผลิตทั่วประเทศเดือนพ.ย.ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงปลายเดือนธ.ค.ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนพ.ย. วันศุกร์ รายได้ส่วนบุคคลเดือนพ.ย. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย.ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย.
o ราคาโลหะเงินปิดบวก 0.66 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 29.54 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 28.78 – 29.63 USDต่อออนซ์ ishares silver trust ถือโลหะเงินจำนวนเท่าดิม 9,698.04 ตัน วันนี้คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 29.88/ 30.2 USDต่อออนซ์ และแนวรับบริเวณ 29.1/ 28.8 USDต่อออนซ์ แนะนำ Trading ในกรอบ 28.8 – 30.2 USDต่อออนซ์
o SPDR ถือทองคำเท่าดิมจำนวน 1,279.97 ตัน
แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,605– 1,653 แนะนำ Trading ในกรอบ 1,605 – 1,653
แนวโน้มระยะกลาง อยู่ในกรอบ 1,578 – 1,725 แนะนำ Trading ในกรอบ หรือเปิด Short เมื่อราคา rebound ขึ้นสู่แนวต้าน
แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,485 - 1920 ปิด Long และเปิด Short เมื่อราคา rebound ขึ้น
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8 https://plus.google....509313835/posts
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น