วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2554

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 13 ธันวาคม 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 13 ธันวาคม 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)


++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,630, 1,620 แนวต้านที่ 1,680, 1,700, 1,730 ภาพกราฟรายวัน พบแรงขายต่อเนื่องหลังจากหลุดบริเวณ 1,700 แนะนำรอให้ราคา rebound บริเวณแนวต้าน 1,680, 1,700 แล้วเปิด Short โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,620

Rebound เพื่อลงต่อ

ราคาทองคำเปิดตอนเช้าตามเวลาตลาดเอเซีย วันที่ 13 ธ.ค. อยู่ที่บริเวณ 1,654 USD ต่อออนซ์ เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,651– 1,663 USD ต่อออนซ์ ราคาทองคำมีแนวโน้มจะ rebound ขึ้นได้หลังจากปรับตัวลดลงแรงในวันจันทร์ถึง 48.60 USDต่อออนซ์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงแรงหลังจากหลุดกรอบแนวรับของ price pattern ที่เป็นรูปสามเหลี่ยม แสดงถึงการ break ลง โดยมีแนวรับสำคัญถัดไปที่บริเวณ 1,650 / 1,620 โดยคาดว่าการ rebound อาจเกิดขึ้นได้ แต่ในที่สุดราคาทองคำจะปรับตัวลดลงต่อ เนื่องจากค่าเงิน USD มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ส่วนราคาทองคำ และตลาดหุ้นในช่วงนี้มีทิศทางไปในทางเดียวกัน โดยนักลงทุนไม่มั่นใจในการแก้ปัญหาหนี้ของยุโรป แม้ว่าจะมีการใช้กองทุนถาวร ESM จำนวน 5 แสนล้านยูโร เริ่มต้นในปี 2555 เร็วขึ้นจากเดิม 1 ปี โดยกำหนดว่าจะเปิดใช้ ESM ในเดือนก.ค. 2555 ส่วนกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) จะยังคงดำเนินงานต่อไปจนถึงกลางปี 2556 แต่การที่ไม่ให้กองทุน ESM สามารถประกอบธุรกิจธนาคารได้ ทำให้ไม่มีสิทธิได้รับการกู้ยืมเงินจากธนาคารกลางยุโรป ทำให้นักลงทุนผิดหวัง และสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ 3 แห่งได้แก่ มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส, ฟิทช์ เรทติงส์ และสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ได้แสดงมุมมองในด้านลบต่อผลการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) โดยมูดีส์ประกาศว่าจะทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของ 27 ประเทศสมาชิกอียูในช่วงไตรมาสแรกของปี 2555 หลังจากผู้นำอียู "แทบจะไม่ได้ประกาศใช้มาตรการใหม่ๆ" ในการแก้ไขวิกฤตหนี้ยุโรป ในการประชุมครั้งนี้

ส่วนด้านเศรษฐกิจสหรํฐ ตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศมีแนวโน้มดีขึ้นเกินคาดจาก จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับลดลงถึง 23,000 ราย ดัชนีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น 67.7 ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ คาดว่าส่วนใหญ่จะออกมาดี ทำให้ค่าเงิน USD มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นกดดันราคาทองคำ ในขณะที่ทางด้านยุโรป เงินยูโรอ่อนค่าลงมาก หลังจากที่นักลงทุนผิดหวังจากผลการประชุมผู้นำยุโรป และการประกาศปรับลดการคาดการณ์ GDP ในปี 2555 ของเยอรมันปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 0.6% จากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 1.8% เนื่องจากเศรษฐกิจเยอรมันได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากวิกฤตหนี้ของยุโรป ส่วนมาตรการรัดเข็มขัดที่มีข้อตกลงร่วมกันไม่ให้มีการขาดดุลงบประมาณต่อปีเกิน 0.5% ของ GDP อาจทำให้เศรษฐกิจของประเทศที่มีปัญหาชะลอตัวอย่างรุนแรง
ผลการสำรวจการจ้างงานของบริษัทแมนเพาเวอร์กรุ๊ป พบว่า การจ้างงานในอังกฤษลดลงต่ำสุดในรอบ 3 ปี ลงมาสู่ระดับ 0% ในไตรมาสที่ 1 / 2555 ซึ่งปรับลดลงจาก +1% ในไตรมาสที่ 4/2554 ส่วนการจ้างงานในประเทศเศรษฐกิจชั้นนำอื่นๆมีแนวโน้มลดลงเช่นกัน



การประชุมโอเปคที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 ธ.ค. มีการคาดการณ์กันว่าจะกำหนดปริมาณการผลิตน้ำมันที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้โอเปกจะจัดการประชุมในการกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันในปี 2555 ซึ่งเป็นปีที่เศรษฐกิจโลกอาจเติบโตอย่างเฉื่อยชา และส่งผลกระทบต่อปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงและราคาน้ำมันดิบเบรนท์อาจดิ่งลงต่ำกว่า 107 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลในปัจจุบัน
นักลงทุนจับตาการแถลงการณ์เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ และการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าจะไม่มี QE3 เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มมีสัญญาณดีขึ้น และธนาคารกลางสหรัฐคงใช้มาตราการอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไปจนกระทั่งถึงกลางปี 2556 การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่คาดว่าจะออกมาดี อาจทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจในการลงทุนในตลาดหุ้น และตลาดทองคำ ซึ่งอาจมีผลทำให้ทั้งราคาหุ้น และราคาทองคำ สามารถ rebound ขึ้นได้ โดยฝ่ายวิจัยคาดว่า แนวต้านของราคาทองคำอยู่ที่บริเวณ 1,680/1,700 USDต่อออนซ์ นักลงทุนที่ไม่มีสถานะ แนะนำให้เปิด สถานะ Short ช่วง rebound ขึ้น โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,640 / 1,620 USDต่อออนซ์ แต่ถ้าราคายืนเหนือ 1,710 – 1,713 ได้ให้ปิดสถานะ short ป้องกันความเสี่ยง
การประชุม และตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
1. ยอดค้าปลีกเดือน พ.ย.วันที่ 13 ธ.ค.เวลา 20.30 น.
2. ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ วันที่ 14 ธ.ค. เวลา 02.15 น.
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,630, 1,620 แนวต้านที่ 1,680, 1,700, 1,730 ภาพกราฟรายวัน พบแรงขายต่อเนื่องหลังจากหลุดบริเวณ 1,700 แนะนำรอให้ราคา rebound บริเวณแนวต้าน 1,680, 1,700 แล้วเปิด Short โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,620
++ ราคาโลหะเงินมีแนวรับที่ 30.6 แนวต้านที่ 32.0 แนะนำ Trading ในกรอบ 30.5 – 32.0 USDต่อออนซ์


อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8
https://plus.google....509313835/posts

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น