วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2554

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 27 ธันวาคม 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 27 ธันวาคม 2554 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)


++ ราคาทองคำมีแนวต้านที่ 1,605/1,610/1,620 และแนวรับที่ 1,590/1,580/1,560 สัญญาณทางเทคนิคในระยะสั้นเป็นลบ โดยถูกกดจากกลุ่มเส้น MA หลายเส้น MACD ในรายวันยังติดลบ ส่วนในราย 60 นาทีติดลบเพิ่มขึ้น แสดงสัญญาณ ราคามีแนวโน้มอ่อนตัวลงอีก แนะนำ Trading ในกรอบ 1,580 – 1,610 และนักลงทุนที่ถือ GFZ11 แนะนำให้ทะยอยปิดก่อนหมดสัญญา เนื่องจาก Settlement Price มีแนวโน้มต่ำกว่า Market Price

สัญญาณทางเทคนิคกดดันราคาทองคำ

ราคาทองคำเปิดตอนเช้าตามเวลาตลาดเอเซีย วันที่ 27 ธ.ค. อยู่ที่บริเวณ 1,609.24 USD ต่อออนซ์ โดยเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,597 – 1,612 USD ต่อออนซ์ ราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ หลังจากที่ราคาไม่สามารถยืนเหนือเส้น MA 200 วัน ที่บริเวณ 1,620 ราคาก็อ่อนตัวลงมาติดต่อกัน วันนี้เป็นวันที่ 4 โดยปัจจัยลบหลักยังคงเป็นเรื่องความกังวลในวิกฤติหนี้ยุโรป ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (28 ธ.ค.) นักลงทุนจับตาดูผลการเปิดประมูลขายตั๋วเงินคลังและพันธบัตรของอิตาลี นอกจากนั้น ปริมาณการผลิต ( Supply) ที่เพิ่มขึ้น ในประเทศจีน ในขณะที่ความต้องการทองคำ (Demand) เพื่อการลงทุนในช่วงนี้ลดลง ส่งผลกดดันราคาทองคำ และสัญญาณขายทางเทคนิคในระยะกลางยังคงเป็นลบ เนื่องจากราคาถูกกดไว้ด้วย MA หลายเส้น และ MACD เป็นลบอยู่หนาแน่น ส่งผลให้ราคายังคงอ่อนตัวต่อได้ แต่อาจมี Rebound ขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากราคาปรับลดลงมา 4 วันติดต่อกัน โดยจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,580 – 1,610 นักลงทุนระยะกลางรอเปิด short เมื่อราคาเด้งขึ้นใกล้แนวต้าน โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,580 และถัดไป 1,560 ใดยมีจุด stop loss บริเวณ 1,625 แต่ถ้าราคาปิดยังยืนเหนือ 1,600 ได้แสดงว่าราคาแกว่งตัว side way ในกรอบ 1,580 – 1,620 ไปจนถึงสิ้นปี เนื่องจาก แรงซื้อและแรงขายแรงอาจมีไม่มากนัก ถ้าราคาไม่ปรับขึ้นหรือลดลงแรง

ผู้นำกลุ่มธุรกิจและอุตสาหกรรมชั้นนำของเยอรมนีเปิดเผยว่า คาดว่าเศรษฐกิจเยอรมนีจะชะลอตัวลง แต่จะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า โดยได้รับผลกระทบจากวิกฤติหนี้ยูโรโซน นอกจากนี้ ไม่คาดว่ายูโรจะล่มสลายลง แต่ก็เห็นพ้องกันว่าวิกฤติของยูโรโซนเป็นภัยคุกคามครั้งใหญ่ต่อเศรษฐกิจ และเสถียรภาพในยุโรปและสหรัฐ ทั้งนี้ รัฐบาลเยอรมนีคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 3% ในปีนี้ และจะชะลอตัวลงมาที่ 1% ในปีหน้า

จำนวนผู้ว่างงานในฝรั่งเศสพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 12 ปีในเดือนพ.ย. ซึ่งถือเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่า ตลาดการจ้างงานในฝรั่งเศสตกต่ำลงก่อนที่ฝรั่งเศสจะจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนเม.ย.-พ.ค. 2012 โดยจำนวนผู้หางานทำที่ได้รับการจดทะเบียนในฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 29,900 ราย สู่ 2.85 ล้านรายใน เดือนพ.ย. โดยพุ่งขึ้น 1.1 % จากเดือนต.ค. และทะยานขึ้น 5.2 % จาก เดือนพ.ย. 2010 การทะยานขึ้นในครั้งนี้ส่งผลให้จำนวนผู้ว่างงานขึ้นไปแตะจุดสูงสุด นับตั้งแต่เดือนพ.ย. 1999 และส่งผลลบต่อประธานาธิบดีนิโคลาส์ ซาร์โคซี ของฝรั่งเศส ในขณะที่เขาหาเสียงเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีต่ออีกสมัย

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอิตาลีดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 16 ปี ในเดือนธ.ค. หลังจากนายกรัฐมนตรีมาริโอ มอนติของอิตาลีประกาศมาตรการรัดเข็มขัดขนาด 3.3 หมื่นล้านยูโร ซึ่งรวมถึงมาตรการปรับขึ้นภาษีและปรับลดเงินบำนาญ โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคทั่วไปดิ่งลงอย่างรุนแรงเกินคาดสู่ 91.6 ในเดือนธ.ค. ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการจัดทำดัชนีนี้ในปี 1996 เป็นต้นมา โดยดิ่งลงจากระดับ 96.1 ในเดือนพ.ย.

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ขยับสู่ระดับสูงกว่า 108 ดอลลาร์/บาร์เรล ในวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากปัญหาขัดข้องทางการผลิตในซีเรีย และการซ้อมรบทางทะเลของอิหร่านในช่องทางเดินเรือสำคัญ ในขณะที่ตัวเลขยอดขายบ้านที่ดีขึ้นในสหรัฐก็มีส่วนช่วยหนุนราคาน้ำมันด้วย โดยซีเรียอาจจะเป็นปัจจัยหนุนในระยะนี้ แต่ราคาน้ำมันจะไม่พุ่งขึ้นครั้งใหญ่ เพราะ อุปสงค์ลดลงมาบ้างในยุโรป และสิ่งนี้ช่วยชดเชยปัญหาขัดข้องทางการผลิตน้ำมัน ทั้งนี้ ปริมาณการผลิต น้ำมันของซีเรียลดลงราว 30-35 % โดยเป็นผลจากมาตรการคว่ำบาตรซีเรียเพื่อคัดค้านการที่ซีเรียปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (24 ธ.ค.) อิหร่านได้เริ่มต้นการซ้อมรบทางทะเลเป็นเวลา 10 วันในช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลกันว่า อาจจะมีการปิดช่องทางเดินเรือขนส่งน้ำมันที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์มากที่สุดในโลก ถ้าหาก เกิดความขัดแย้งทางการทหารระหว่างรัฐบาลอิหร่านกับชาติตะวันตก อย่างไรก็ดี นายฮาเซกาวะกล่าวว่า ปัจจัยนี้อาจส่งผลกระทบเพียงในวงจำกัดต่อราคาน้ำมันในขณะนี้ เพราะว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ผลิตน้ำมันในปริมาณสูงในช่วงนี้

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
- 20.30 น. ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)สาขาชิคาโกเปิดเผยดัชนีการผลิตเขตมิดเวสต์เดือนพ.ย.
- 21.00 น. สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยราคาบ้านเดือนต.ค.
- 22.00 น. คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนธ.ค.

การวิเคราะห์ทางเทคนิค
++ ราคาทองคำมีแนวต้านที่ 1,605/1,610/1,620 และแนวรับที่ 1,590/1,580/1,560 สัญญาณทางเทคนิคในระยะสั้นเป็นลบ โดยถูกกดจากกลุ่มเส้น MA หลายเส้น MACD ในรายวันยังติดลบ ส่วนในราย 60 นาทีติดลบเพิ่มขึ้น แสดงสัญญาณ ราคามีแนวโน้มอ่อนตัวลงอีก แนะนำ Trading ในกรอบ 1,580 – 1,610 และนักลงทุนที่ถือ GFZ11 แนะนำให้ทะยอยปิดก่อนหมดสัญญา เนื่องจาก Settlement Price มีแนวโน้มต่ำกว่า Market Price
++ ราคาโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 28.2/ 26.3 แนวต้านบริวณ 29.3/30.3 แนะนำ นักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 28.2 – 29.3 ส่วนนักลงทุนระยะกลางรอเปิด Short เมื่อราคาเด้งขึ้นสู่แนวต้าน โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ แนวรับ

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8 https://plus.google....509313835/posts

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น