วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)


++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,700/1,680 และแนวต้านที่ 1,740/1,750 กราฟรายวัน ภาพทางเทคนิคระยะกลางยังส่งสัญญาณบวก เมื่อราคายังไม่หลุดเส้น Up Trend อาจพบการ Rebound เมื่อราคาแตะที่ 1,700/1,680 แนะนำ Trading ในกรอบเดิมที่ 1,700 – 1,740 นักลงทุนระยะสั้นเปิด Long เล่นรอบใหม่บริเวณแนวรับ โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณแนวต้าน

แนวรับจิตวิทยาแถว 1,700

ราคาทองคำเปิดตอนเช้าตามเวลาตลาดเอเซีย วันที่ 7 ก.พ. อยู่ที่บริเวณ 1,721.15 USDต่อออนซ์ ราคาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,718 - 1,730 USD ต่อออนซ์ ราคาทองคำมีการรีบาวน์ขึ้นทดสอบแนวต้าน 1730 หลังจากเมื่อคืนร่วงแรงลงไปทดสอบแนวรับที่ระดับ 1710 แต่สถานการณ์ที่กรีซยังลังเลในการรับการช่วยเหลือจากEUทำให้ราคาอ่อนตัวลงมาในช่วงบ่าย โดยการประชุมยังเลื่อนออกไปเนื่องจากกลุ่มนักการเมืองเกรงว่าจะสูญเสียคะแนนนิยมในการเลือกตั้งอันใกล้นี้หากใช้มาตรการรัดเข็มขัดเพื่อลดค่าใช้จ่ายรัฐ ซึ่งหากการเจรจายังคงยื้อเยื้อต่อไป จะส่งผลกดดันราคาทองต่อในระยะกลาง อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำ ยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ Up Trend line หากราคาปรับฐานลดลงมาบริเวณแนวรับที่ 1,700/1,680 อาจมีการ Rebound กลับขึ้นมาได้ โดยคืนนี้คาดว่าเคลื่อนไหวในกรอบ 1,700 – 1,740

สถานการณ์ของกรีซยังคงไม่แน่นอน ขณะที่กรีซจะต้องให้ตัดสินใจภายในกลางเดือนหน้าในการยอมรับเงื่อนไขของมาตรการช่วยเหลือรอบใหม่ เพื่อให้กรีซหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระ ซึ่งกรีซอาจต้องปรับลดมูลค่าพันธบัตรกรีซที่ภาคเอกชนถือครองลงรวมทั้งปรับปรุงขีดความสามารถในการแข่งขัน กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวว่า กรีซจำเป็นต้องลดหนี้ลงสู่ระดับ 120% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ภายในปี 2020 จากเกือบ 160% ในขณะนี้เพื่อทำให้เศรษฐกิจยั่งยืนและรอดพ้นจากภาวะตกต่ำ โดยรัฐบาลจะต้องลดหนี้สาธารณะ ลดต้นทุนแรงงานลง และชาวยุโรปต้องให้พันธะสัญญาว่าจะช่วยเหลือกรีซ "ตราบเท่าที่มีความจำเป็น" ซึ่งภายใต้สถานการณ์ที่เป็นจริง เรื่องนี้จะต้องใช้เวลานานมาก และกรีซจะไม่สามารถกลับเข้าตลาดไปอีกนาน ขณะที่ไอเอ็มเอฟประมาณการณ์ว่า เศรษฐกิจของสหรัฐอาจขยายตัวเกือบ 2% ในปีนี้ แทนที่จะเป็น 1.8% ที่ไอเอ็มเอฟเคยคาดไว้เมื่อวันที่ 24 ม.ค.

ผลสำรวจชี้ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในกรีซแย่ลงเดือนม.ค. โดยดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ซึ่งอิงตามดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีย่อยหมวดการคาดการณ์ธุรกิจในภาคอุตสาหกรรม, การก่อสร้าง, การค้าปลีก และบริการ ปรับตัวลงสู่ระดับ 74.9 จาก 75.7 ในเดือนธ.ค. นอกจากการปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยของการค้าปลีก, อุตสาหกรรม และความเชื่อมั่นผู้บริโภค ภาคส่วนอื่นๆในระบบเศรษฐกิจต่างก็อยู่ในภาวะเลวร้ายลง เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการหาแหล่งระดมทุนของกรีซยังคงมีสูงอยู่มากทำให้ไม่สามารถคาดการณ์ในแง่บวก แม้ว่าจะมีกลุ่มธุรกิจที่มีเงินทุน และสามารถรักษาการขยายตัวภายใต้สภาวะสินเชื่อที่ตึงตัว แต่อัตราว่างงานเพิ่มขึ้น และค่าจ้างได้รับผลกระทบจากภาษีที่สูงขึ้น ผู้บริโภคชาวกรีซจึงยังคงมีความเห็นแง่ลบมากที่สุดในยุโรป ขณะที่ 64%คาดว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะเลวร้ายยิ่งขึ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจกรีซอาจจะเผชิญกับภาวะถดถอยเป็นปีที่ 5 ติดต่อกันซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจกรีซดิ่งลงราว 6% ในปีที่แล้ว อีกทั้งอัตราการว่างงานพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 18.4% ในเดือนส.ค.และอาจจะเพิ่มขึ้นอีก ในขณะที่ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจโดยรวมของกรีซลดลง แต่ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในยูโรโซนของ IOBE เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 93.4 ในเดือนม.ค. จาก 92.8 ในเดือนพ.ย.

เช่นเดียวกับ คลังนอร์เวย์ ซึ่งกล่าวว่า สถานการณ์ในยุโรปยังคงมีความไม่แน่นอนสูง และยังมีงานอีกมากที่ต้องทำเพื่อแก้ไขวิกฤติหนี้ โดยเฉพาะอัตราว่างงานที่สูงมาก แม้เพิ่งมีข่าวดีในช่วงที่ผ่านมา อาทิ ผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลงเนื่องจากการปล่อยกู้ระยะยาวของ ECB และการปรับตัวดีขึ้นของเศรษฐกิจสหรัฐเป็สัญญาณที่แสดงถึงด้านที่สดใสในเศรษฐกิจ แต่ก็เตือนว่า วิกฤติของยุโรปอาจเลวร้ายลงอีก แม้เศรษฐกิจของนอร์เวย์แทบไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติหนี้ยุโรปเนื่องจากมีแหล่งน้ำมันขนาดใหญ่และไม่ได้เป็นสมาชิกในสหภาพยุโรป แต่นอร์เวย์ก็ต้องการเห็นการแก้ไขปัญหาของยุโรปซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของประเทศ ปัจจุบันนอร์เวย์เป็นนักลงทุนหุ้นยุโรปรายใหญ่ที่สุดในกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติวงเงิน 5.50 แสนล้านดอลลาร์ และได้เสนอที่จะเพิ่มวงเงินสมทบให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) ขึ้น 2 เท่า สู่ระดับ 9.35 พันล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค. หลังจากที่ยูโรโซนได้พยายามเพิ่มเงินทุนของไอเอ็มเอฟเพื่อป้องกันวิกฤติหนี้

การวิเคราะห์ทางเทคนิค
++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,700/1,680 และแนวต้านที่ 1,740/1,750 กราฟรายวัน ภาพทางเทคนิคระยะกลางยังส่งสัญญาณบวก เมื่อราคายังไม่หลุดเส้น Up Trend อาจพบการ Rebound เมื่อราคาแตะที่ 1,700/1,680 แนะนำ Trading ในกรอบ 1,700 – 1,740 นักลงทุนระยะสั้นเปิด Long เล่นรอบใหม่บริเวณแนวรับ โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณแนวต้าน
++ ราคาโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 33.0/32.7 แนวต้านบริเวณ 34.0/34.4 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 32.7 – 34.4


อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8 https://plus.google....509313835/posts https://market.andro...les.classicgold

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น