บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)
++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,760/1,754 แนวต้าน 1,788/1,794/1,800 ทางเทคนิคราคาทองคำเริ่มอ่อนแรงลง ควรระมัดระวังการย่อตัว แต่โดยรวมยังเป็นแนวโน้มขาขึ้น แนะนำ นักลงทุนระยะสั้นและกลาง ที่มีสถานะ Long รอปิดแถวแนวต้าน และเปิดLong อีกครั้งที่แนวรับ
รอผลการประชุม ECB พรุ่งนี้
ราคาทองคำเปิดตอนเช้าตามเวลาตลาดเอเซีย วันที่ 28 ก.พ. อยู่ที่บริเวณ 1,768.20 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,766-1,777 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำ Rebound กลับขึ้นมาหลังทำจุดต่ำสุดเมื่อคืนที่ 1,762 ซึ่งเป็นระดับไฮเดิม (3 ก.พ.) แต่ยังไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้ เมื่อคืนการประชุมมาตรการช่วยเหลือกรีซของเยอรมัน มีผลอนุมัติไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนพรุ่งนี้มีประเด็นเรื่องอีซีบีจะอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบซึ่งยังไม่ทราบจำนวนตัวเงินแน่ชัด แต่ภาพรวมถือเป็นข่าวดีของราคาทองคำในระยะต่อไปเพราะจะมีแรงเก็งกำไรในสินค้าโภคภัณฑ์มากขึ้น สำหรับภาพทางเทคนิค ราคามีแรงเทขายเป็นระยะเนื่องจากอยู่ใกล้แนวต้านสำคัญ 1,800 แต่ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น แนะนำ นักลงทุนระยะสั้นที่ซื้อไว้เมื่อคืนที่ 1,760 ถือไว้ เป้าหมายทำกำไรที่แนวต้าน 1,780/1,788 ส่วนนักลงทุนที่ยังไม่มีสถานะ รอเปิดสถานะ Long ที่ 1,760/1,754
ธ.กลางยุโรปเตรียมอัดฉีดเงินเสริมสภาพคล่องครั้งใหญ่ให้ธ.พาณิชย์ในวันพรุ่งนี้ คาดการณ์ว่าอาจอยู่ในระดับตั้งแต่ 2 แสนล้านยูโร ไปจนถึง 7.50 แสนล้านยูโร อีซีบีเคยดำเนินมาตรการรีไฟแนนซ์ระยะยาว (Longer Term Refinancing Operation) หรือ LTRO ครั้งแรกในเดือนธ.ค.2011 โดยปล่อยกู้ 4.89 แสนล้านยูโร ซึ่งได้ช่วยลดต้นทุนการกู้ยืมของอิตาลีกับสเปนให้ต่ำลง และได้ช่วยให้ยูโรโซนสามารถหลีกเลี่ยงจากภาวะสินเชื่อหดตัวในเดือนม.ค.ได้ โดยครั้งที่2นี้จะเป็นการปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำเป็นเวลา3ปีเป็นครั้งสุดท้ายของอีซีบี เนื่องจากการอัดฉีดเม็ดเงินสองครั้งนี้ต้องใช้เวลาระยะหนึ่งในการที่จะส่งผลกระทบต่อระบบ อย่างไรก็ดี มีความกังวลกันว่าปริมาณเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำที่มากเกินไปอาจจะส่งผลกระทบต่อระบบ ซึ่งล่าสุดส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้อินเตอร์แบงก์ดิ่งลงมาแล้วราว 1 ใน 3 นับตั้งแต่เดือนธ.ค. และส่งผลให้สินเชื่อของอีซีบีมีความน่าดึงดูดน้อยกว่าในช่วงที่อีซีบีปล่อยกู้ LTRO รอบแรก อย่างไรก็ดีอิตาลีจะจำหน่ายพันธบัตรจำนวนมากในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า และอาจได้รับประโยชน์จาก LTRO รอบสอง โดยอิตาลีจำเป็นต้องขายพันธบัตรราว 4.5 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนทั้งในเดือนมี.ค.และเม.ย. หลังจากขายพันธบัตร 1.9 หมื่นล้านยูโรในเดือนก.พ.
ผลสำรวจเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมนีเพิ่มขึ้นเป้นเดือนที่ 6 ติดต่อกันและพุ่งสูงสุด 1 ปีในเดือนก.พ. บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจของเยอรมนีสามารถรับมือกับผลกระทบของปัญหาหนี้ยูโรโซน และอาจหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้ แม้เศรษฐกิจหดตัวลงในไตรมาสที่แล้วก็ตาม เนื่องจากตลาดการจ้างงานที่แข็งแกร่ง และการอุปโภคบริโภคของภาคเอกชนช่วยหนุนการใช้จ่าย
สหรัฐเผยยอดทำสัญญาขายบ้านพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี โดยเพิ่มขึ้น 2% สู่ระดับ 97.0ในเดือนม.ค. บ่งชี้ว่า ตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป และมักจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงยอดขายบ้านในอีก 1-2 เดือนต่อมา ในขณะที่ปริมาณบ้านค้างสต็อกที่ล้นตลาดมีจำนวนลดลง และมีการปล่อยกู้จำนองดอกเบี้ยต่ำมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี กระแสการยึดบ้านติดจำนองยังไม่ลดระดับลง และปัจจัยนี้ยังคงส่งผลกระทบต่อราคาบ้าน ดังนั้นการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยจึงอาจจะต้องใช้เวลายาวนาน
ไอเอ็มเอฟอนุมัติเงินกู้เบิกจ่ายให้กับไอร์แลนด์มูลค่า 4.33 พันล้านดอลลาร์ หลังจากได้เสร็จสิ้นการทบทวนผลการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจครั้งที่ 5 ของไอร์แลนด์ ภายใต้มาตรการให้ความช่วยเหลือระยะหลายปี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการให้ความช่วยเหลือระหว่างประเทศสำหรับไอร์แลนด์ซึ่งกำลังประสบปัญหาหนี้สิน เนื่องจากไอร์แลนด์มีความคืบหน้าในนด้านการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจและการสร้างงาน
นายพอล ครุกแมน นักเศรษฐศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบลกล่าวว่ากรีซอาจจะออกจากกลุ่มยูโรโซน และมีความเป็นไปได้ประมาณ 75% ที่โปรตุเกสจะยังคงอยู่ในภูมิภาคยูโรโซน อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับว่าทั้งสองประเทศจะดำเนินมาตรการอย่างไรในช่วง 2 หรือ 3 ปีข้างหน้า โดยย้ำว่ารัฐบาลโปรตุเกสไม่ควรใช้มาตรการรัดเข็มขัดมากขึ้นเพราะจะส่งผลกระทบต่อศักยภาพด้านการผลิต
รมว.คลังญี่ปุ่นยังคงจะใช้มาตรการที่เด็ดเดี่ยว เพื่อที่จะรับมือกับความผันผวนสูง หรือการเก็งกำไรของค่าเงิน ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่า ญี่ปุ่นอาจจะเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินเยนเมื่อจำเป็น
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
- 20.30 น. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนม.ค.
- 21.00 น. ราคาบ้านเดือนธ.ค.
- 22.00 น. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนก.พ.
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,760/1,754 แนวต้าน 1,788/1,794/1,800 ทางเทคนิคราคาทองคำเริ่มอ่อนแรงลง ควรระมัดระวังการย่อตัว แต่โดยรวมยังเป็นแนวโน้มขาขึ้น แนะนำ นักลงทุนระยะสั้นและกลาง ที่มีสถานะ Long รอปิดแถวแนวต้าน และเปิดLong อีกครั้งที่แนวรับ
++ โลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 35.0/34.6 แนวต้านบริเวณ 35.7/36.3 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 34.6 – 36.3
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8
https://plus.google....509313835/posts
https://market.andro...les.classicgold
++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,760/1,754 แนวต้าน 1,788/1,794/1,800 ทางเทคนิคราคาทองคำเริ่มอ่อนแรงลง ควรระมัดระวังการย่อตัว แต่โดยรวมยังเป็นแนวโน้มขาขึ้น แนะนำ นักลงทุนระยะสั้นและกลาง ที่มีสถานะ Long รอปิดแถวแนวต้าน และเปิดLong อีกครั้งที่แนวรับ
รอผลการประชุม ECB พรุ่งนี้
ราคาทองคำเปิดตอนเช้าตามเวลาตลาดเอเซีย วันที่ 28 ก.พ. อยู่ที่บริเวณ 1,768.20 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,766-1,777 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำ Rebound กลับขึ้นมาหลังทำจุดต่ำสุดเมื่อคืนที่ 1,762 ซึ่งเป็นระดับไฮเดิม (3 ก.พ.) แต่ยังไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้ เมื่อคืนการประชุมมาตรการช่วยเหลือกรีซของเยอรมัน มีผลอนุมัติไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนพรุ่งนี้มีประเด็นเรื่องอีซีบีจะอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบซึ่งยังไม่ทราบจำนวนตัวเงินแน่ชัด แต่ภาพรวมถือเป็นข่าวดีของราคาทองคำในระยะต่อไปเพราะจะมีแรงเก็งกำไรในสินค้าโภคภัณฑ์มากขึ้น สำหรับภาพทางเทคนิค ราคามีแรงเทขายเป็นระยะเนื่องจากอยู่ใกล้แนวต้านสำคัญ 1,800 แต่ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น แนะนำ นักลงทุนระยะสั้นที่ซื้อไว้เมื่อคืนที่ 1,760 ถือไว้ เป้าหมายทำกำไรที่แนวต้าน 1,780/1,788 ส่วนนักลงทุนที่ยังไม่มีสถานะ รอเปิดสถานะ Long ที่ 1,760/1,754
ธ.กลางยุโรปเตรียมอัดฉีดเงินเสริมสภาพคล่องครั้งใหญ่ให้ธ.พาณิชย์ในวันพรุ่งนี้ คาดการณ์ว่าอาจอยู่ในระดับตั้งแต่ 2 แสนล้านยูโร ไปจนถึง 7.50 แสนล้านยูโร อีซีบีเคยดำเนินมาตรการรีไฟแนนซ์ระยะยาว (Longer Term Refinancing Operation) หรือ LTRO ครั้งแรกในเดือนธ.ค.2011 โดยปล่อยกู้ 4.89 แสนล้านยูโร ซึ่งได้ช่วยลดต้นทุนการกู้ยืมของอิตาลีกับสเปนให้ต่ำลง และได้ช่วยให้ยูโรโซนสามารถหลีกเลี่ยงจากภาวะสินเชื่อหดตัวในเดือนม.ค.ได้ โดยครั้งที่2นี้จะเป็นการปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำเป็นเวลา3ปีเป็นครั้งสุดท้ายของอีซีบี เนื่องจากการอัดฉีดเม็ดเงินสองครั้งนี้ต้องใช้เวลาระยะหนึ่งในการที่จะส่งผลกระทบต่อระบบ อย่างไรก็ดี มีความกังวลกันว่าปริมาณเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำที่มากเกินไปอาจจะส่งผลกระทบต่อระบบ ซึ่งล่าสุดส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้อินเตอร์แบงก์ดิ่งลงมาแล้วราว 1 ใน 3 นับตั้งแต่เดือนธ.ค. และส่งผลให้สินเชื่อของอีซีบีมีความน่าดึงดูดน้อยกว่าในช่วงที่อีซีบีปล่อยกู้ LTRO รอบแรก อย่างไรก็ดีอิตาลีจะจำหน่ายพันธบัตรจำนวนมากในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า และอาจได้รับประโยชน์จาก LTRO รอบสอง โดยอิตาลีจำเป็นต้องขายพันธบัตรราว 4.5 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนทั้งในเดือนมี.ค.และเม.ย. หลังจากขายพันธบัตร 1.9 หมื่นล้านยูโรในเดือนก.พ.
ผลสำรวจเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมนีเพิ่มขึ้นเป้นเดือนที่ 6 ติดต่อกันและพุ่งสูงสุด 1 ปีในเดือนก.พ. บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจของเยอรมนีสามารถรับมือกับผลกระทบของปัญหาหนี้ยูโรโซน และอาจหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้ แม้เศรษฐกิจหดตัวลงในไตรมาสที่แล้วก็ตาม เนื่องจากตลาดการจ้างงานที่แข็งแกร่ง และการอุปโภคบริโภคของภาคเอกชนช่วยหนุนการใช้จ่าย
สหรัฐเผยยอดทำสัญญาขายบ้านพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี โดยเพิ่มขึ้น 2% สู่ระดับ 97.0ในเดือนม.ค. บ่งชี้ว่า ตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป และมักจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงยอดขายบ้านในอีก 1-2 เดือนต่อมา ในขณะที่ปริมาณบ้านค้างสต็อกที่ล้นตลาดมีจำนวนลดลง และมีการปล่อยกู้จำนองดอกเบี้ยต่ำมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี กระแสการยึดบ้านติดจำนองยังไม่ลดระดับลง และปัจจัยนี้ยังคงส่งผลกระทบต่อราคาบ้าน ดังนั้นการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยจึงอาจจะต้องใช้เวลายาวนาน
ไอเอ็มเอฟอนุมัติเงินกู้เบิกจ่ายให้กับไอร์แลนด์มูลค่า 4.33 พันล้านดอลลาร์ หลังจากได้เสร็จสิ้นการทบทวนผลการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจครั้งที่ 5 ของไอร์แลนด์ ภายใต้มาตรการให้ความช่วยเหลือระยะหลายปี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการให้ความช่วยเหลือระหว่างประเทศสำหรับไอร์แลนด์ซึ่งกำลังประสบปัญหาหนี้สิน เนื่องจากไอร์แลนด์มีความคืบหน้าในนด้านการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจและการสร้างงาน
นายพอล ครุกแมน นักเศรษฐศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบลกล่าวว่ากรีซอาจจะออกจากกลุ่มยูโรโซน และมีความเป็นไปได้ประมาณ 75% ที่โปรตุเกสจะยังคงอยู่ในภูมิภาคยูโรโซน อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับว่าทั้งสองประเทศจะดำเนินมาตรการอย่างไรในช่วง 2 หรือ 3 ปีข้างหน้า โดยย้ำว่ารัฐบาลโปรตุเกสไม่ควรใช้มาตรการรัดเข็มขัดมากขึ้นเพราะจะส่งผลกระทบต่อศักยภาพด้านการผลิต
รมว.คลังญี่ปุ่นยังคงจะใช้มาตรการที่เด็ดเดี่ยว เพื่อที่จะรับมือกับความผันผวนสูง หรือการเก็งกำไรของค่าเงิน ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่า ญี่ปุ่นอาจจะเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินเยนเมื่อจำเป็น
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
- 20.30 น. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนม.ค.
- 21.00 น. ราคาบ้านเดือนธ.ค.
- 22.00 น. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนก.พ.
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,760/1,754 แนวต้าน 1,788/1,794/1,800 ทางเทคนิคราคาทองคำเริ่มอ่อนแรงลง ควรระมัดระวังการย่อตัว แต่โดยรวมยังเป็นแนวโน้มขาขึ้น แนะนำ นักลงทุนระยะสั้นและกลาง ที่มีสถานะ Long รอปิดแถวแนวต้าน และเปิดLong อีกครั้งที่แนวรับ
++ โลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 35.0/34.6 แนวต้านบริเวณ 35.7/36.3 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 34.6 – 36.3
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8
https://plus.google....509313835/posts
https://market.andro...les.classicgold
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น